อยู่มาอย่างยืนยาว 79 ปี ยาคูลท์
ยาคูลท์ เครื่องดื่มที่ชูจุดขายว่า มีแล็กโตบาซิลลัส มีอายุยืนยาวมาจนถึงวันนี้ 79 ปี
โดย...ตุลย์ จตุรภัทร
ยาคูลท์ เครื่องดื่มที่ชูจุดขายว่า มีแล็กโตบาซิลลัส มีอายุยืนยาวมาจนถึงวันนี้ 79 ปี วางจำหน่ายแล้วกว่า 22 ประเทศทั่วโลก และมียอดขายเฉลี่ยต่อวันในทุกประเทศรวม 25 ล้านขวด
ปี 1930 ดร.มิโนรุ ชิโรต้า ได้ทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเเบคทีเรียกรดนมในลำไส้ของคน และได้ค้นพบแบคทีเรียกรดนมที่สามารถมีชีวิตรอดอยู่ได้ในลำไส้ รวมทั้งค้นพบว่าลำไส้ที่สมบูรณ์แข็งแรงเป็นหนทางสู่การมีอายุยืนยาว เขาประสบความสำเร็จในการคัดเลือกจุลินทรีย์กรดนมที่มีความสามารถในการทนต่อสภาวะกรดและด่างที่รุนแรงในร่างกายคนเรา นั่นคือจุลินทรีย์ชิโรต้า หรือแล็กโตบาซิลลัส คาเซอิ สายพันธุ์ชิโรต้า
ปี 1935 ดร.มิโนรุ ผลิตนมเปรี้ยวจำหน่ายเป็นครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น โดยตั้งชื่อสินค้าว่า “ยาคูลท์” ซึ่งเป็นภาษาเอสเปอแรนโต (Esperanto) มีความหมายเช่นเดียวกับโยเกิร์ต หมายถึงการมีอายุยืนยาว แถมยังเรียกง่าย ฟังง่าย ดีอีกด้วย
ปี 1940 หลังจาก “ยาคูลท์” จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ก็ได้จัดตั้งสำนักงานเพื่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับจุลินทรีย์ยาคูลท์ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศญี่ปุ่น เพื่อการตลาดและการจัดจำหน่ายยาคูลท์ และได้พัฒนาให้องค์กรเติบโต
ปี 1955 ดร.มิโนรุ ก่อตั้งบริษัท ยาคูลท์ ฮอนช่า เพื่อผลิตและจำหน่ายยาคูลท์ รวมไปถึงจัดตั้งสถาบันวิจัยยาคูลท์ที่เกียวโต
ปี 1963 เนื่องจากเล็งเห็นว่าจุลินทรีย์ในยาคูลท์เป็นสิ่งมีชีวิต ความสดใหม่จึงเป็นเรื่องสำคัญ จำเป็นต้องส่งตรงถึงบ้านลูกค้า จึงเริ่มต้นระบบขายตรงโดยอาศัยสาวยาคูลท์ เหตุที่ต้องเป็นผู้หญิง เนื่องจากส่วนใหญ่แม่บ้านเป็นคนตัดสินใจซื้อ ผู้หญิงจะทำให้แม่บ้านรู้สึกสนิทใจมากกว่า
ปี 1968 จากที่เคยใช้ขวดแก้วใสๆ ที่สรีระของขวดมีแรงบันดาลใจจากตุ๊กตาโบราณ “Kokeishi” ยาคูลท์ได้เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์เป็นขวดพลาสติก เนื่องจากขวดแก้วมีน้ำหนักมาก และทำให้เสียเวลาในการทำความสะอาด นอกจากนี้ ยังออกแบบให้ขวดพลาสติกเป็นขวดคอด เพื่อให้ถือสะดวกและลิ้มรสของยาคูลท์อย่างช้าๆ ไม่ดื่มจนหมดในเวลาอันรวดเร็ว
ปี 1971 ประพันธ์ เหตระกูล ผู้ที่เคยไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยโกเบ ประเทศญี่ปุ่น เป็นคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้ แม่บ้านชาวญี่ปุ่นที่เขาไปอาศัยอยู่ด้วย แนะนำให้ดื่มยาคูลท์ทุกวันก็ช่วยให้อาการดีขึ้น เขาจึงสัญญากับตัวเองว่าจะต้องนำสินค้าตัวนี้กลับมายังประเทศไทยให้ได้ ในที่สุดก็กลับมาก่อตั้งบริษัท ยาคูลท์ ประเทศไทย และเพื่อเป็นการแนะนำสินค้า ในช่วงแรกประพันธ์ได้เดินแจกยาคูลท์ให้กับลูกค้าด้วยตัวเอง แต่ลูกค้าเกือบทุกคนจะไม่รับหรือไม่ดื่ม หลายคนโยนทิ้งขยะหลังเปิดชิมไปเพียงจิบเดียว หรือบางรายปาขวดยาคูลท์ใส่ศีรษะของประพันธ์ด้วยความโกรธ เพราะคิดกันไปว่าเอานมที่เสียแล้วมาแจกให้ดื่มฟรี
ปี 1974 ยาคูลท์เริ่มวางขายในซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป ทำให้ยอดขายของยาคูลท์เพิ่มขึ้นจากเดิม
ปี 1981 ยาคูลท์ได้ผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางที่ผลิตจากแล็กโตบาซิลลัสตั้งแต่ปี 1971 แต่จำเป็นต้องยุติการผลิตและจำหน่าย เนื่องจากอยากมุ่งมั่นที่การผลิตเครื่องดื่มเพียงอย่างเดียวเท่านั้น และนั่นจึงทำให้คุณภาพของยาคูลท์ยังคงเดิม ให้เราได้ดื่มตั้งแต่เด็กมาจนถึงทุกวันนี้


