จากเด็กส่งหนังสือพิมพ์สู่วงการบันเทิงญี่ปุ่น ชีวิตเผ็ดน้ำตาเล็ดของ ‘บุญจัง–ต้มยำวาซาบิ’
เริ่มต้นด้วยบทสรุปของหนุ่มศรีราชาที่ตอนนี้ไปเป็นดาราอยู่ญี่ปุ่น
โดย...กาญจน์ อายุ
เริ่มต้นด้วยบทสรุปของหนุ่มศรีราชาที่ตอนนี้ไปเป็นดาราอยู่ญี่ปุ่น ทำหน้าที่เป็นตัวแทนคนไทยในรายการเซะไกบังซึเกะ (World Ranking) แต่เบื้องหลังความทะเล้นบนหน้าจอของ “บุญจัง-บุญศิริ สหนนท์ชัยกุล” ไม่สนุกเหมือนรอยยิ้ม นั่นเพราะหนทางจากเด็กส่งหนังสือพิมพ์สู่วงการบันเทิง ไม่ใช่ทางคู่ขนานที่ยูเทิร์นไปก็เจอ แต่มันคือเส้นทางชีวิตมากกว่าสิบปีที่สอนหนุ่มชลบุรีมาหลายบทเรียน
อดีต : โชคชะตาของเด็กส่งหนังสือพิมพ์
โชคชะตาเล่นตลกกับบุญจังมาตั้งแต่ตอนเรียนปี 3 คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อคณะเลือกเขาเป็นนักเรียนทุนแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยซึคุบะ แต่กลับไปไม่ถึงเพราะเอกสารมีปัญหา และเล่นตลก (ร้าย) อีกครั้งเมื่อได้เป็นนักเรียนทุนกับบริษัทส่งหนังสือพิมพ์ของญี่ปุ่น แต่ต้องชดใช้ด้วยการเป็นเด็กส่งหนังสือพิมพ์ 2 ปี
“ตอบตรงๆ ว่าไม่ทราบ (ว่าต้องมาทำงานหนัก) แต่ถึงทราบก็จะมา เพราะว่าการไปใช้ชีวิตต่างประเทศเป็นความฝันของเรามาตั้งแต่เด็กๆ เวลาไปเที่ยวพัทยาเห็นแต่ฝรั่งเยอะแยะมาเที่ยวบ้านเรา มันยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าวันหนึ่งเราต้องออกไปจากเมืองไทย ไปเที่ยวไปผจญภัยในต่างประเทศให้ได้” บุญจังเปิดใจ
แล้วการผจญภัยก็เริ่มขึ้นจริง เขาได้ทำงานเก็บเงินอยู่ญี่ปุ่น 6 ปี จากนั้นไปเรียนต่อและทำงานส่งเสียตัวเองที่อังกฤษ แท้ที่จริงประเทศอังกฤษคือความฝันที่จะไปใช้ชีวิต แต่ความจริงไม่สวยงามเท่าความคิด เขาจึงย้อนกลับมายังดินแดนอาทิตย์อุทัย แต่งงานกับคนรู้ใจและใช้ชีวิตเป็นคนไทยในต่างแดนจวบจนปัจจุบัน
หลังจากตัดสินใจตั้งถิ่นฐานอยู่ญี่ปุ่น โชคชะตาก็เล่นงานบุญจังอีกหน คราวนี้เปลี่ยนชีวิตคนธรรมดาให้มีชื่อเสียงในเวลาอันรวดเร็ว เมื่อรายการวาไรตี้เซะไกบังซึเกะ หรือเวิลด์แรงกิ้ง (World Ranking) คัดเลือกให้เขาเป็นตัวแทนคนไทยนำเสนอเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับบ้านเกิดเมืองนอน โดยคนญี่ปุ่นจะเห็นหน้าเขาทุกค่ำวันศุกร์ในหน้าจอโทรทัศน์
เด็กส่งหนังสือพิมพ์ในวันนั้น ได้ทำงานในวงการบันเทิงญี่ปุ่นในวันนี้ คล้ายเป็นบทสรุปแบบแฮปปี้เอนดิ้งที่มีคำคมขึ้นตอนท้ายว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” แต่สำหรับบุญจังยังไม่จบ ชีวิตของเขาเพิ่งเริ่มต้น
ปัจจุบัน : ชีวิตจริงของวงการบันเทิง
หลายคนอาจคิดว่าการทำงานในวงการบันเทิงมีรายได้สูง แต่เรื่องที่บุญจังท้อแท้และอยากยอมแพ้มากที่สุดกลับเป็น “ค่าตอบแทน”
เขาเล่าว่า “บริษัทเอเยนต์นักแสดงต่างชาติที่นี่ (ญี่ปุ่น) ลูกเล่นเยอะ มีครั้งหนึ่งเขาค้างเงินค่าตัวมา 6 เดือน เดี๋ยวนี้ก็ยังต้องทะเลาะกันเรื่องค่าตัวเพราะจ่ายไม่ตรงเวลา มีนักแสดงชาวต่างชาติที่วีซ่าหมดแต่ก็ต้องกลับประเทศไปทั้งที่ยังไม่ได้รับค่าตัวเลยก็มีเยอะ ถ้าพูดแบบไทยต้องใช้คำว่า ‘ทำนาบนหลังคน’ ”
เงินค่าตัวจากการแสดงเมื่อเทียบกับเงินเดือนของพนักงานบริษัทถือว่า “น้อย” แต่เหตุผลที่เขายังทำงานนี้ เพราะใจรักและเห็นความก้าวหน้าในอาชีพ แม้จะไม่ได้เป็นตัวเงิน แต่การออกหน้าจอโทรทัศน์จะทำให้คนรู้จักมากขึ้น และสามารถขยับขยายจากโทรทัศน์ญี่ปุ่นสู่โทรทัศน์ไทย เช่นคราวที่ได้ร่วมงานกับช่อง 3 ในรายการการเดินทางอันแสนอร่อย
นอกจากนี้ ลักษณะการทำงานของคนญี่ปุ่นจะตึงเครียดในกฎและหลักเกณฑ์ต่างๆ ซึ่งหากไม่ทำตามจะถูกลงโทษหรือถูกแบน บุญจังได้ยกตัวอย่างอาชีพดาราดังหรือไอดอลว่า “เขาจะไม่ถ่ายรูปกับใครซี้ซั้วเหมือนบ้านเรา บางงานเราไปเล่นในฐานะนักแสดงตัวประกอบ เราจะไปจุ้นจ้านหรือขอถ่ายรูปกับเขาไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ของวงการบันเทิงที่นี่ หรือบางครั้งไปถ่ายโฆษณาหรืออัดรายการต่างๆ ก็ห้ามโพสต์รูปในอินเทอร์เน็ตจนกว่าจะถึงวันออกอากาศ ทุกอย่างถูกเขียนไว้ในสัญญา ซึ่งเวลาเขาปรับเงินกันนี่ก็ปรับกันเยอะ แบบเอาจริงเอาจริงกันเลยทีเดียว เพราะเขาถือว่ากฎมันมีอยู่แล้ว”
รอยยิ้มบนหน้าจอแลกมาด้วยความลำบาก แต่ความลำบากก็ได้สอนเขาหลายอย่างเช่นกัน ทั้งสอนให้ประหยัด สอนให้อดทน และสอนให้รู้คุณค่าของสิ่งต่างๆ ที่มีอยู่รอบตัว เขากล่าวไว้น่าคิดว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างและทุกเรื่องมันขึ้นอยู่กับความคิดของเราเองว่าเราจะมองสิ่งที่เข้ามาในชีวิตในมุมมองไหน ไม่มีใครมาบังคับความคิดของเราได้”
สำหรับเขาแล้ว เขาคิดว่า “ตัวเราลำบากแล้ว แต่คนที่ลำบากมากกว่าเรายังมี และในขณะเดียวกันคนที่เขาใช้ชีวิตที่ดีกว่าเราก็มีอีกมาก ซึ่งถ้าตัวเราอยากมีชีวิตที่ดีกว่าก็ต้องมองไปข้างหน้า ลองศึกษาชีวิตของคนเหล่านั้นดีๆ ผมเชื่อว่าเบื้องหลังความสำเร็จมีจุดกำเนิดเหมือนกัน คือ ความอดทนและความพยายาม”
คำคม “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” ถึงเวลาแล้วที่จะกล่าวถึง แต่บุญจังยังพูดว่าความสำเร็จได้ไม่เต็มปาก เพราะเขามีแผนในอนาคตที่รอวันสำเร็จอยู่
อนาคต : ความหวังของต้มยำวาซาบิ
บุญจังใช้โอกาสที่ได้ออกสื่อในญี่ปุ่นบอกเล่าความน่าสนใจ ความสวยงาม ความน่าทึ่งของประเทศไทยให้ชาวญี่ปุ่นได้รู้และได้เห็น เพื่อหวังให้พวกเขาสนใจและเลือกเมืองไทยเป็นจุดหมาย
“เพราะเมื่อนั้นเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวแต่ละคนก็ได้กระจายไปสู่คนที่เขาตั้งใจทำมาหากิน ไม่ว่าจะเป็นคนขับแท็กซี่ พนักงานเปิดประตูโรงแรม แม่ค้าขายน้ำปั่น และหมอนวดแผนโบราณ แค่คิดอย่างนี้เราเองก็มีความสุขที่ได้ทำหน้าที่ในฐานะคนไทยคนหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในญี่ปุ่น” เขาได้ถ่ายทอดมุมมอง
ส่วนในอนาคตเขาอยากทำเว็บไซต์ให้กลายเป็นศูนย์กลางรวบรวมข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นให้คนไทยได้รู้ทั้งการท่องเที่ยว ข่าวสาร และบันเทิง อีกทั้งเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างคนไทยกับคนญี่ปุ่น เชื่อว่าในอีกไม่นานเขาจะเป็นผู้ถ่ายทอดรสชาติของต้มยำและวาซาบิให้คนทั้งสองชาติได้ซี้ดซ้าดกัน
ชื่อเล่นภาษาไทยชื่อ ตุ๋ย แต่ยากที่จะอธิบายความหมายให้คนญี่ปุ่นเข้าใจจึงใช้ชื่อ บุญจัง
เว็บไซต์ www.tomyamwasabi.com
เฟซบุ๊ก www.facebook.com/tomyamwasabi
ทวิตเตอร์ www.twitter.com/tomyamwasabi
รายการเซะไกบังซึเกะ หรือเวิลด์แรงกิ้ง (World Ranking) ออกอากาศทางช่อง 4 นิฮองเทเลบิ ทุกวันศุกร์ เวลา 20.00-21.00 น. ตามเวลาญี่ปุ่น


