คู่เกรียนสุดซี้ไม่มีซั๊ว
นับเป็นรายการคุยข่าวสุดเกรียนในสามโลกที่สามารถเรียกเสียงหัวเราะแถมยังสอดแทรกความรู้
โดย...ชัยรัตน์ พัชรไตรรัตน์ ภาพ.....กิจจา อภิชนรจเรข
นับเป็นรายการคุยข่าวสุดเกรียนในสามโลกที่สามารถเรียกเสียงหัวเราะแถมยังสอดแทรกความรู้ ยิ่งเฉพาะเหตุบ้านการเมืองได้อย่างลงตัวกับ “เจาะข่าวตื้น ดูถูกสติปัญญา” นำเสนอโดยสองพิธีกรสุดติ่งกระดิ่งแมวอย่าง “จอห์น” วิญญู วงศ์สุรวัฒน์ และ “พี่แอ้ม” ณัฐพงศ์ เทียนดี หรือพ่อหมอ ซึ่งจะมาแฉเบื้องลึกเบื้องหลังความซี้ไม่มีซั้วแบบไม่กั๊ก
พี่แอ้มณัฐพงศ์ เทียนดี ‘พี่เขยสุดชิว’
“พี่แอ้มเป็นสามีของพี่สาว คือ โรซี (จรรยา วงศ์สุรวัฒน์) หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่าพี่เขย (หัวเราะ) ดังนั้น คงไม่ต้องบอกต่อว่าสนิทกันขนาดไหน และถือเป็นความโชคดีที่มีผู้ชายคนนี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว” เสียงแรกของจอห์นพูดถึงพี่เขยสุดชิก
พี่แอ้มเป็นคนสดใสร่าเริง มีมุขตลก มุขฮา แถมอบอุ่น ดังนั้น ไม่แปลกใจว่าทำไมพี่สาวถึงหลงรัก (ตบท้ายเสียงสูง) และตรงนี้เองทำให้ครอบครัวของเรารู้สึกอุ่นใจ สบายใจ คือ เป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวได้เร็ว ลงตัว ซึ่งต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันเป็นธรรมชาติที่เขาไม่ได้สร้างภาพ
นอกจากนี้ ยังเป็นคนแฮปปี้สบายๆ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ชอบดูแล ยกตัวอย่าง คอมพ์ที่บ้านเสียพี่แอ้มก็ขับรถมาดูให้ ซ่อมไปแบบขำๆ ถ้าเป็นคนอื่นอาจบ่น เรื่องเล็กๆ แค่นี้ทำไมทำไม่ได้ เช่น รูปเปิดดูไม่ได้ ก็เราดันลืมกดปุ่มเปิด มันก็ไม่ทำงาน แต่พี่แอ้มไปถึงบอกลืมเสียบอันนี้อันนั้นแล้วหัวเราะ ทำให้รู้สึกสบาย บรรยากาศเป็นไปในทิศทางบวก
ส่วนความแจ๋วในตัวของพี่แอ้ม คือ เวลาเครียด เช่น คุยเรื่องงาน สัญญา รายได้ หรือปัญหาบุคลากรในองค์กร ซึ่งมันอาจเป็นเรื่องใหญ่หากคุยกับคนอื่น ถึงขั้นคอขาดบาดตาย แต่พี่แอ้มมีความเป็นผู้ใหญ่สูง ลดความตรึงเครียดตรงจุดนั้นลงมาให้เป็นเรื่องปกติ หรือไม่มีอะไรนะ ปัญหาเป็นอย่างนี้ช่วยกันแก้ไข ลดลงมาได้เยอะ
ตั้งแต่ทำงานร่วมกันปัญหาไม่เคยมี แต่อาจมีคุยกันว่า จอห์น โรซี เห็นตรงกันอยากได้แบบนี้ แต่พี่แอ้มจะยั้ง เดี๋ยวก่อนนะ อาจจะมีผลกระทบตรงนั้น ตรงนี้ หรือเปล่า คือ สุขุม คิดในแต่ละประเด็น แต่ก็มีบางทีที่พี่แอ้มก็ขึ้น ทั้งหมดก็จะช่วยยั้งๆ ไว้ แต่ไม่รู้ว่าระหว่างสามีภรรยา เขาอะไรหรือเปล่า แต่ระหว่างน้องเขยกับพี่เขย ไม่มี “หัวเราะด้วยน้ำเสียงเลศนัย”
หากถามว่าร่วมงานกันมาพี่แอ้มมีวีรกรรมอะไรให้ตราตรึงคงจะเป็นเรื่องทรงผม คือ ช่วงแรก มีร้านตัดผมของเวย์ ไทเทเนียม เนเวอร์เซย์คัต เวลาตัดจะเป็นทรงฮิพฮอพ ทำลายบนหัว ซึ่งเขาเองช่วงแรกไปเจอร้านนี้ ก็อยากจะโปรโมทงานของเรา ตัดเป็น SpokeDark.TV เวลาเจอลูกค้าจะหันหลังให้ดู คือ แบบว่าใจ รัก เราชอบ
ครั้งหนึ่งเขาไปตัดวันที่ 2 ก.พ. เลือกตั้ง เขาอยากเกรียนนำเสนอ ก็ตัดเลือกตั้ง 2 ก.พ. กลางหัว และเขาไม่คิดว่าความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น เช่น อันตราย ซึ่งมันมีสิทธิเกิด หากคนเห็นด้วยกับเลือกตั้งก็สุดยอด แต่อาจจะมีบางคนไม่เห็นด้วย ก็จะบอกว่าอะไรเนี่ย ขี้ข้าเปล่า ไม่รักชาติ ซึ่งเป็นความเสี่ยง
“เจ๋งกว่านั้น ดันไปงานแต่งงาน ซึ่งใกล้กับสถานที่การชุมนุม เดินทางก็ลำบาก รถก็ติด จำเป็นต้องเดินเลียบๆ เคียงๆ และบนหัวมีคำนั้นอยู่ ผมก็รู้สึกว่าจะโดนอะไรเปล่า แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผู้ชุมนุมก็โอเค แต่อาจมีชะโงกมาดู ส่วนเราก็เดินให้เร็วขึ้น (หัวเราะ) ส่วนพี่โรซีก็ต้องคอยพยายามเดินกัน หาร่มมากาง ไม่ให้ใครเห็น เป็นวีรกรรมที่ตอนทำรู้สึกว่า เห้ย!”
สิ่งที่ห่วงพี่แอ้มสุดๆ คงจะเป็นเรื่องสุขภาพ เพราะดูจากพี่สาวมีความกังวลในเรื่องนี้ ทั้งเรื่องอาหารการกิน นอนพอไหม เวลาเขาทำงานโหดพอสมควรทั้งสามีและภรรยา บางครั้งนอนตีสาม ตีสี่ เพื่อเขียนสคริปต์ คือ ถ้าคนหนึ่งเขียนดึก อีกคนจะอยู่เป็นเพื่อน และตอนนี้พี่แอ้มอยู่ในช่วงควบคุมน้ำหนัก ซึ่งกังวลตรงนี้แทน แต่พี่เขาพยายามทำหน้าที่อย่างเต็มที่
จอห์นวิญญู วงศ์สุรวัฒน์ ‘หล่อแต่ไม่เก๊ก’
ตอนแรกไม่รู้จักเลย รู้แค่เพียงน้อยชายแฟนเป็นดารา ก็คิดแบบคนทั่วไป คือ ดาราและปรามาสไว้ก่อน (หัวเราะ) คงเป็นคนเยอะ หล่อๆ เจ้าชู้ เที่ยว กิน เหมือนดาราวัยรุ่น เลยมองภาพนั้น และเยอะจริงๆ คือ เห็นแบบนี้กลับไม่ใช่คนสูบบุหรี่ ไม่กินเหล้า ที่สำคัญไม่เที่ยวกลางคืน ไม่สำมะเลเทเมา ไม่เสเพล อนามัยมาก เรื่องพลิกเลย แบบว่ากลายเป็นเด็กมีวินัย จึงเกิดเป็นความประทับใจส่วนตัว และเป็นคนแบบนี้มาสม่ำเสมอ แต่จะจริงไม่จริงยังไงไม่รู้ (หัวเราะ)
ส่วนการทำงานจอห์นจะเป็นประเภท ไม่ปล่อยไป หรืออะไรก็ได้ คือ ถ้ามีงานมาโปรเซส 123 ยังไงจะถามเลย คือ ทำงานสไตล์ผู้ใหญ่ มีกระบวนความคิด จัดลำดับ เช่น หากลูกค้าคุยงานจะรู้เลยว่าต้องถามอะไรกับลูกค้า ไม่ถามจอห์นก่อน แต่ถ้าเวลาจอห์นถามกลับ แล้วเราตอบไม่ได้จะจดไว้ ว่านี่คำถามมัน คราวหน้าไปถามอีก บางทีลูกค้าอาจมองว่าเยอะ แต่มันจบไว เพราะงานบันเทิงรีบตลอด เขาทำงานบันเทิงมานาน ซึ่งเราได้ความรู้งานนี้จากเขา
ชีวิตส่วนตัวจอห์น จริงๆ แล้วเป็นคนไม่เก๊ก ธรรมดา คือ หล่อแต่ไม่เก๊ก ไม่รู้นะว่าคนอื่นมองยังไง หล่อแต่ไม่เก๊กหรือไม่หล่ออาจไม่เก๊กอย่างนี้ก็ได้ แต่ครอบครัวเขาเป็นบ้านที่ไม่เก๊ก และต้องบอกว่าบ้านเขามีคุณสมบัติที่จะเก๊กได้เลย แต่ว่าไม่อวด ดังนั้น ความเป็นเขามาจากที่บ้าน และพอไม่เก๊กทำให้อยู่ด้วยสบาย เห็นชัดๆ เวลาไปเที่ยวยังใส่แค่เพียงเสื้อยืด ขาสั้น รองเท้าแตะ
“ผมเคยสงสัยเหมือนกัน เวลาไปเดินกับเขาตามที่ต่างๆ จอห์นจะเป็นคนเหมือนเก๊กและเคยไปอ่านคอมเมนต์ว่าจอห์นเก๊ก ตัวจริงงั้นๆ แหละ และมาคุยกับโรซีว่าจอห์นมันเก๊กหรือวะ และลองสังเกตจอห์นเวลาไปไหนด้วยกัน ที่จริงแล้วจอห์นเป็นคนเขิน วางตัวไม่ถูก หน้าเลยจะเฉย เพราะหากยิ้มไปเรื่อยเดี๋ยวโดนมองว่าบ้า จะหลบเข้ามุมก็ดูไม่มั่นใจ ต้องยืนมีมาด เอาไงต่อดี คันตูดจะเกาได้ไหม จะแสดงออกยังไง ก็ลำบากเหมือนกัน เพราะทุกสายตาจับจ้องเขา”
สำหรับวีรกรรมจอห์นคงไม่มีอะไรนอกจากเคยพยายามทำตัวเป็นแบดบอย แต่ดันเป็นคนทำชั่วไม่ขึ้น ไม่เคยสำเร็จ ทำไม่ดีอะไรจะเก็บไม่อยู่ โกหกไม่เป็น ทำอะไรผิดมาพยายามปกปิด แต่อากัปกิริยามันออก หรือทำแล้วก็ถูกจับได้คาหนังคาเขา เช่น สมัยเรียนมัธยมพี่สาวอีกคนปีนรั้วหนีเรียนทุกวันไม่เคยโดนจับได้ แต่จอห์นทำแค่ครั้งเดียว โดนแล้ว (หัวเราะด้วยน้ำเสียงสะใจ)
นอกจากนี้ ความที่จอห์นเป็นคนทำงานหนัก มุทะลุ โดยเฉพาะการทำงานบันเทิงค่อนข้างใช้เวลานาน เช่น เวลาอยู่กองถ่ายกว่าจะเสร็จ ก็ประมาณตีหนึ่ง ตีสอง ทำให้ไม่ค่อยได้พักผ่อนถือว่าใช้แรงงานแท้จริง จึงเป็นห่วงสุขภาพเขามาก
“เวลานั่งทำงานด้วยกัน ความเงียบของห้องบวกกับเสียงแอร์หึ่งๆ แต่ดันได้ยินเสียง เฮ้อๆ ทำไมจอห์นหายใจแรงขนาดนั้น และคุยกับโรซีตลอดว่าพาจอห์นไปตรวจสุขภาพดีไหม ทำไมหายใจแรงจัง วันดีคืนดี มานั่งเปิดเสื้อให้ดู บอกกระดูกผมงอกทางซ้าย นั่งเอียงไปนิดนึง เป็นมะเร็ง ปูดขึ้นมาหรือเปล่า และตอนนี้น้ำหนักลงด้วยวิธีปฏิบัติของเขา แต่ระบบหัวใจ ปอด ต้องไปตรวจบ้าง”
ส่วนเรื่องข่าวคราวคงไม่ห่วง เพราะไม่สนใจ มองโลกแง่ดี หรือหน้าด้านว่างั้นเถอะ (หัวเราะ) แต่จะเป็นห่วงอีกเรื่อง คือ การตัดสินใจทางธุรกิจ การวางตัว การฉกฉวยผลประโยชน์จากรอบด้าน ซึ่งเรามีหน้าที่คอยระวังหลังให้เขา อยากให้เขามุ่งหน้าไปโดยมีเราช่วยดูให้


