11 ปีการจากไป ‘เลสลี่ จาง’

โดย...จีไอโจ

ผ่านมา 11 ปีแล้ว วันที่นักแสดงขวัญใจสาวๆ และชาวสีม่วง “เลสลี่ จาง” ลาโลกไป

1 เม.ย. ปี 2003 เลสลี่ จาง หรือ “จางฟะฉุง” อีกชื่อคือ “จางกั๊วหยง” ตัดสินใจกระโดดลงมาจากชั้น 24 ของโรงแรมแมนดาริน โอเรียนทัล ใจกลางเกาะฮ่องกง เมื่อเวลา 17.30 น.

เป็นเหตุการณ์ที่ช็อกคนทั้งโลก เพราะมันเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ว่ากันว่า ปริศนาการตายของนักแสดงวัย 46 มาจากความรัก รักที่ไม่สมหวัง ระหว่างเขากับผู้จัดการส่วนตัว

หลังการจากไป ทุกๆ ปี เหล่าแฟนคลับจากทุกที่ ก็จะแห่แหนมารวมตัวกัน เพื่อรำลึกถึง เลสลี่ จาง ณ สถานที่ที่เขาเสียชีวิต การร่ำไห้ ช่อดอกไม้ คำอาลัย กลายเป็นภาพคุ้นชิน

ปีนี้ก็เช่นกัน อาจไม่ได้ยิ่งใหญ่เท่าปีก่อน ที่จัดงานวาระครบ 1 ทศวรรษแห่งความสูญเสีย พร้อมยังมีการพับนกกระเรียนกระดาษ จำนวน 1,956,912 ตัว (สื่อถึงวันเกิดของเขา 12 ก.ย. ปี 1956) ทว่า ความรู้สึกที่แฟนๆ มีต่อซุป’ตาร์เบอร์หนึ่งชาวฮ่องกง ยังคงเข้มขลังเสมอมา

 

แม้ตัว เลสลี่ จาง ไม่อยู่ แต่ เลสลี่ จาง ก็ไม่เคยหายไปจากหัวใจ เพราะเขาคือนักแสดงที่มีอิทธิพลต่อคนรุ่นหลังและสร้างปรากฏการณ์ “เลิกแอ๊บ” เป็นคนแรกของวงการบันเทิงฮ่องกง เมื่อเขาออกมาประกาศก้องว่าตัวเองเป็น “เกย์” ในปี 2000

เด็ดสุดๆ ก็เห็นจะเป็นการลุกขึ้นมาแปลงโฉมและแต่งองค์ในคราบผู้หญิงบนเวทีคอนเสิร์ตพิเศษ ช่างเป็นเรื่องที่หาญกล้าอย่างมาก

จะยังไงและเป็นเพศไหน นั่นดูเหมือนว่าก็ไม่ได้สำคัญเท่ากับฝีมือและความสามารถที่เขาฝากไว้

ยิ่งเฉพาะ บทบาทการแสดงที่ถูกกล่าวขานในวงกว้าง “เฉิงเตี๋ยอี๋” อุปรากรจีนรักร่วมเพศ จากภาพยนตร์ Farewell My Concubine (หลายแผ่นดินแม้สิ้นใจก็ไม่ลืม) ปี 1993 กำกับโดย “เฉินข่ายเกอ” ซึ่ง เลสลี่ จาง ก็ตีบทแตกกระจุย สมราคานักแสดงเทพแห่งยุค

“ผมคิดเสมอว่าความรักระหว่างหญิงชาย และชายชายนั้น แตกต่างกัน ผมรู้สึกชื่นชอบตัวละคร เฉิงเตี๋ยอี๋ เพราะว่าเขาเป็นฝ่ายรุก กล้ารักกล้าเกลียด ไม่เคยยอมแพ้ เป็นคนแบบที่ทุ่มเทสุดๆ เฉิงเตี๋ยอี๋กล้าจะมีชีวิตอยู่เพื่อความรัก แม้ว่าสุดท้ายจะตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเอง แต่ก็เป็นลักษณะของการเป็นฝ่ายรุก กล้าได้กล้าเสีย”

ไม่พอ ภาพยนตร์ยังประสบความสำเร็จ โดนใจนักวิจารณ์และได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนฮ่องกง เข้าชิง 2 ออสการ์ ภาพยนตร์ต่างประเทศและกำกับภาพ

นอกจากนี้ เลสลี่ จาง ยังมีอีกหลายผลงานที่น่าดูและน่าจดจำ ภาพยนตร์ตระกูล “หว่องกาไว” Days of Being Wild (วันที่หัวใจรักกล้าตัดขอบฟ้า) Ashes of Time (มังกรหยก ศึกอภิมหายุทธ) Happy Together (โลกนี้รักใครไม่ได้นอกจากเขา) ที่ฮือฮา หวือหวา และหวามไหว เล่าเรื่องวังวนรักของชายรักชาย ซึ่ง เลสลี่ จาง ได้ประกบคู่เพื่อนซี้ “เหลียงเฉาเหว่ย” การันตีความยอดเยี่ยม 7 รางวัลเทศกาลภาพยนตร์

 

“อะไร ที่คุณต้องการจะจำมัน สิ่งนั้นมันจะถูกจดจำตลอดไป คำพูดนี้ ผมจำมาจากบทพูดในภาพยนตร์ของคุณ แต่ตั้งแต่เราจากกันกว่า 3,000 วัน ในที่สุด ผมก็เข้าใจความหมายของคำพูดเหล่านั้น หลังจากนั้น มันก็จะทำให้ผมตระหนักได้ว่า ความสำคัญอยู่ที่จะเก็บรักษาช่วงเวลานั้นอย่างไร แม้เราจะไม่ได้พบเจอกันมานานมากแล้ว แต่ผมก็ยังไม่ลืมความเป็นเพื่อนที่เรามีให้กันในทุกนาที บางครั้งผมมองขึ้นไปยังท้องฟ้า ผมหวังว่าผมจะเจอนกที่ไร้ขา” เหลียงเฉาเหว่ย พูดถึง เลสลี่ จาง ในคอนเสิร์ต Miss You So Much Leslie ปีที่แล้ว

แต่ที่เป็นอมตะควรค่าแก่การเก็บไว้ในคอลเลกชั่น คงหนีไม่พ้นซีรีส์ “นักสู้ผู้พิชิต” ที่มีเพลงดังเป็นน้ำจิ้ม Better Tomorrow (โหดเลวดี) งานกำกับ “จอห์น วู” ร่วมแสดงโดยรุ่นพี่ “โจวเหวินฟะ” และ “ตี้หลุง” กระทั่งภาพยนตร์ A Chinese Ghost Story (โปเยโปโลเย เย้ยฟ้าแล้วก็ท้ารัก) ก็เป็นผลงานการแสดงที่น่าเก็บ

หรือจะเก็บผลงานเพลงก็มีเยอะ หนึ่งในนั้นควรมีอัลบั้มสุดป๊อป The Wind Blows On ปี 1983 ที่ทำให้เขาขึ้นแท่นเป็นซุป’ตาร์เอเชีย

อย่างน้อยๆ ในยามคิดถึง (ไง) ก็หยิบผลงานเก่าเก็บมาดูและฟังซ้ำ คงคลายความคิดถึงเขาได้บ้าง (แหละ)