‘ฟลาวเวอร์ ดีไซเนอร์’ สุดชิค ปณิธาน ทองสถิตย์
“ฟลาวเวอร์ ดีไซเนอร์” คือ ผู้สร้างสรรค์ออกแบบดอกไม้ให้ออกมาสวยงาม
โดย...วราภรณ์ ภาพ : ทวีชัย ธวัชประกรณ์
“ฟลาวเวอร์ ดีไซเนอร์” คือ ผู้สร้างสรรค์ออกแบบดอกไม้ให้ออกมาสวยงาม และฟลาวเวอร์ ดีไซเนอร์ อันดับต้นๆ ของเมืองไทยมีชื่อ ปณิธาน ทองสถิตย์ เจ้าของร้านดอกไม้เรือนบุษบา บนถนนอโศก รวมอยู่ด้วย ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ร้านดอกไม้ของเขาเป็นที่รู้จักในแวดวงคนรักดอกไม้และเซเลบริตี้เมืองไทย อีกทั้งปณิธานเคยได้รับเลือกเป็น 1 ใน 5 จัดดอกไม้สวยๆ ไว้ในงานฉลองครบรอบ 54 ปี ในปี 2556 และ 2557 ห้างเซ็นทรัล ชิดลม 2 ปีซ้อน
เริ่มรู้จักการจัดดอกไม้
อดีตนักเต้นให้ศิลปินคนดัง อย่าง อมิตาทาทา ยัง นักเขียนสคริปต์โปรดักชั่นดีไซเนอร์ค่ายจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ปณิธานนักจัดดอกมือทองดีกรีปริญญาตรีคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งใจบินไปศึกษาด้านเพอร์โฟร์แนน อาร์ต ที่นิวยอร์ก แต่จับพลัดจับผลูไปทำงานพิเศษที่ร้าน Banchet Flower ณ เกาะแมนฮัตตัน ซึ่งมีเจ้าของร้านเป็นฟลาวเวอร์ ดีไซเนอร์ คนไทย ที่นี่เองทำให้ปณิธานได้เรียนรู้การจัดดอกไม้อย่างมีดีไซน์ และเรียนรู้การถนอมและรักษาดอกไม้ให้สวยไปได้นานๆ
“ทำงานที่ร้านดอกไม้ ทำให้เรารู้ว่าการนำดอกไม้เข้าร้านต้องทำอย่างไร ร่วมถึงการดูแลดอกไม้ แกะกล่อง แช่น้ำให้เขาดื่มน้ำ ดอกไม้มาถึงร้านต้องให้เขาโดนน้ำเลย เพื่อให้ดอกไม้กลับมาสวยงามอีกครั้งหนึ่ง ที่ร้านทำให้ผมได้ฝึกการตัดดอกไม้ด้วยมีด ตัดก็ต้องมีเทคนิค ตัดเพื่อให้ท่อน้ำของกิ่งไม้เปิด ทำให้ผมรู้จักดอกไม้เมืองนอกหลากชนิด เช่น ดอกไม้ไฮเดรนเยีย กุหลาบมีสามแบบ กล้วยไม้หลากชนิด เช่น แวนด้า นอกจากนี้ ยังมีใบไม้หลากชนิดอีก”
และทำให้เรียนรู้อีกหนึ่งอาชีพที่น่าสนใจ “ดอกไม้เราต้องจัดตามธรรมชาติจึงจะสวยด้วยการรักษาความสวยแบบของเขาไว้ให้ได้ จากผู้ช่วยนักจัดดอกไม้ ดูแพตเทิร์นการจัดดอกไม้ซึ่งมีอยู่แล้ว สิ่งที่ได้เรียนรู้จากพี่บานจิตที่เป็นทั้งเจ้าของร้านและดีไซเนอร์ คือ ทำร้านดอกไม้คิดแบบศิลปินค่อยๆ จัดไม่ได้ ต้องคิดเร็ว ทำเร็ว ไม่ต้องคิดใหม่หมด เวลาจัดดอกไม้เราใช้แต่อารมณ์และความรู้สึก ที่เหลือปล่อยตามความงามธรรมชาติ หลักของพี่บานจิต คือ จะเลือกดอกไม้ดีและสวย แต่โรงแรมต้องคำนึงถึงงบประมาณ ดอกไม้ไม่ต้องสวยมาก ไม่ต้องคุณภาพดี เพราะสวยแค่หนึ่งคืนรุ่งเช้าก็ทิ้ง แต่ร้านบานจิตดอกไม้อยู่ได้นาน คนที่ได้รับได้เห็นก็รู้สึกชื่นชม ทำให้เรารู้สึกดื่มด่ำกับร้านดอกไม้ รู้สึกให้มูลค่ากับตัวดอกไม้มากกว่า”
พัฒนาสินค้า หยุดนิ่งไม่ได้
เปิดร้านดอกไม้เรือนบุษบา ปีแรกๆ ล้มลุกคลุกคลานอยู่บ้าง เพราะไม่มีหัวการค้ามากนัก แต่สิ่งที่ทำให้ปณิธานเรียนรู้จากการทำร้านดอกไม้ก็คือ การสร้างซิกเนเจอร์ให้กับร้านของตัวเอง ผ่านไปราว 5 ปี เขาจึงเริ่มออกแบบภาชนะใส่ดอกไม้ขึ้นมาใหม่ เพราะไม่มีกระเช้าหรือแจกันที่เขารู้สึกว่าสวยงาม เขาจึงออกแบบแจกันกระดาษ กระเช้ากระดาษ บวกกับสไตล์การจัดดอกไม้แบบใช้ศิลปะ ทำให้แจกันดอกไม้มีเอกลักษณ์และสวยงามไม่เหมือนใคร
“ผมออกแบบกระเช้าและแจกันกระดาษรุ่นแรก ถือเป็นสิ่งแปลกใหม่ในวงการดอกไม้มากๆ ซึ่งเมื่อ 10 ปีที่แล้วลูกค้ายังไม่ยอมรับ เพราะเป็นสิ่งที่ใหม่มากๆ แต่ปัจจุบันออกมา 3 รุ่น ได้แก่ สแควร์ รุ่นสอง เคิร์ฟ ออกแบบให้ถือได้ โอบได้ รุ่นสาม คือ ปารีส ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน คนเห็นว่าแปลกดี เราเรียกว่า ซิกเนเจอร์ แบ็ก ถือเป็นเอกลักษณ์ของร้านไปแล้ว ซึ่งแบบที่สามเวิร์กสุด ทำให้เรามีความแปลกใหม่กว่าเจ้าอื่นๆ ทำให้เรามีที่ยืน มีซิกเนเจอร์ ตอนนี้กระเช้ากระดาษเป็นที่นิยมมาก กลายเป็นความเก๋ ตอนนี้มีคนก๊อบปี้เยอะมากๆ เพราะลูกค้าอยากได้ และเป็นจุดเด่นของร้านไปแล้ว ซึ่งเรามีการจดลิขสิทธิ์กระเช้ากระดาษ เท่านั้นไม่พอ เรายังต้องคิดใหม่และพัฒนาสินค้าด้วยการออกแบบ แฟชั่น บ็อกซ์ คือ กล่องกระดาษมีลวดลาย ใช้กระดาษซึ่งเป็นวัสดุที่ทันสมัย รีไซเคิลได้ ซึ่งลูกค้าให้การตอบรับดีมาก เพราะมองว่าเก๋ เราต้องคิดใหม่ไปเรื่อยๆ หยุดนิ่งไม่ได้”
จัดดอกไม้สไตล์บิ๊ก
นอกจากกระเช้าและแจกันกระดาษหลากสีและรุ่นซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของเรือนบุษบาแล้ว การเลือกดอกไม้เกรดเยี่ยม เช่น กุหลาบ กล้วยไม้แปลกๆ ทิวลิป ซึ่งเป็นดอกไม้ฝรั่งมาผสานกับความงดงามของกล้วยไม้ไทยซึ่งมีชื่อเสียงไปทั่วโลก
“ผมจัดดอกไม้สไตล์เหมือนฝรั่งๆ วิธีเลือกดอกไม้ที่เอามาใส่เบสิก แต่ผมเลือกดอกไม้ฝรั่ง สีสันแล้วแต่ลูกค้า เมื่อเราเลือกดอกไม้ดี จัดในฟอร์มธรรมชาติของดอกไม้ บวกภาชนะ ทำให้เราดูแตกต่าง ผมมาทำร้านดอกไม้มา 10 ปี สิ่งที่ทางร้านทำเสมอๆ คือ การให้บริการที่ดี นึกถึงใจเขาใจเรา ลูกค้าเป็นห่วงอะไร เราจัดอย่างไรให้เขา คุณภาพดอกไม้เป็นอย่างไง ดอกไม้อยู่นานแค่ไหน เรามีการพัฒนาโปรดักต์ แต่สิ่งที่ผมคิดว่าลูกค้ามาหาเรา เพราะเรื่องบริการ จัดส่งดอกไม้ถึงมือลูกค้าอย่างดี เป็นต้น”
แนะนำน้องๆ หากอยากเป็นนักดอกไม้
พี่ปณิธาน แนะว่า หากน้องๆ อยากเป็นนักจัดดอกไม้แล้วละก็ ต้องลองเดินไปร้านจัดดอกไม้ แล้วลองจัดดู เพราะความฝันกับชีวิตจริงนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง เพราะส่วนใหญ่น้องๆ จะมีอิมเมจกับการจัดดอกไม้อีกแบบหนึ่ง
“เคยมีน้องคนหนึ่งมาหัดจัดดอกไม้ที่ร้าน แต่ฝึกผ่านไปหนึ่งเดือนน้องเครียด เพราะความคาดหวังของคนสั่งกับคนรับอาจต่างกัน และเราต้องคำนึงถึงเรื่องจัดสวยไหม ส่งทันไหม คนรับจะชอบไหม งานจัดดอกไม้ผมคิดว่าไม่สนุก มันคืองานบริการ ใครอยากมีอาชีพจัดดอกไม้ ให้เดินเข้าไปขอเป็นลูกมือ ทำงานหลังร้านเพื่อดูแลดอกไม้ ต้องทำงานแบกหามเยอะแยะ มีหลายสิ่งต้องเรียนรู้มากกว่าแค่นั่งจัดดอกไม้สวยงาม ผมคิดว่า งานจัดดอกไม้เป็นเรื่องง่าย แต่บังเอิญเราทำการค้า จึงกลายเป็นเรื่องยาก สิ่งที่ผมกำลังทำนอกจากขายดอกไม้แล้ว เราพยายามแนะนำให้ชีวิตคนเราหัดมีดอกไม้ในชีวิตประจำวัน เพื่อชีวิตที่ชื่นบานและมีความสุข”


