ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง อร่อยดี มีประโยชน์

โดย...ศิศิรากร อัครัช

ข้าวเป็นเรื่องปากเรื่องท้อง ตอนกลายเป็นเรื่องของเศรษฐกิจก็ไม่แปลก แต่ไปๆ มาๆ หลุดโผไปโผล่เรื่องการเมืองนี่... ช่างวุ่นวายหนอ

ฮะๆ อย่าบ่นดีกว่า เดี๋ยวจะกินข้าวไม่อร่อย วันนี้จะพาไปกิน “ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง” ข้าวกล้องสีแดงที่มีพื้นถิ่นอยู่ที่ “เมืองลุง” อร่อยแบบ “อัล เดนเต้” (Al Dente) ไม่แพ้ข้าวอิตาเลียน

ข้าวสังข์หยด เป็นพันธุ์ข้าวเฉพาะถิ่นของ จ.พัทลุง ที่ชาวใต้รู้จักกันมานานนับ 100 ปี ว่ากันว่าสมัยก่อนชาวนาปลูกไว้เป็นของกำนัลผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือในเทศกาลสำคัญต่างๆ

ด้วยความที่มีคุณสมบัติเฉพาะ ตามลักษณะของข้าวกล้อง ที่แตกต่างจากพันธุ์ข้าวพื้นเมืองอื่นๆ คือ เมล็ดมีเหยื่อหุ้มสีแดง เรียวเล็ก นิยมบริโภคในรูปแบบข้าวซ้อมมือและข้าวกล้อง ซึ่งศูนย์วิจัยข้าวพัทลุงได้ดำเนินการวิจัยเพื่อคัดแยกสายพันธุ์ที่ดี เหมาะสมกับการเพาะปลูกในพื้นที่ของ จ.พัทลุง ทั้งได้ยื่นคำขอหนังสือรับรองพันธุ์พืชขึ้นทะเบียนตามพระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. 2518 โดยกรมวิชาการเกษตรได้ประกาศออกหนังสือรับรองพันธุ์พืชขึ้นทะเบียนชื่อว่า “ข้าวสังข์หยดพัทลุง” ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. 2548 และกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ได้ขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI (Geographical Indication) พ.ศ. 2546 โดยใช้ชื่อสินค้าว่า “ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง” (GI ก็เหมือนมะขามหวาน ต้องที่เพชรบูรณ์ ส่วนข้าวสังข์หยด ก็ต้องพัทลุงเท่านั้น)

 

สบายใจได้ เมื่อรู้ว่าข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง ผลิตจากแหล่งปลูกธรรมชาติ ณ ที่ราบระหว่างทิวเขาบรรทัดกับทะเลสาบสงขลา ข้าวสังข์หยดเป็นหนึ่งของผลผลิตท้องถิ่นที่สะท้อนถึงดินน้ำที่สมบูรณ์ สู่เมล็ดข้าวเรียวเล็ก สีแดงเข้ม อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดย วันทนีย์ จิราธิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สำนักนโยบายองค์กรสัมพันธ์และภาพลักษณ์ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล เรี่ยวแรงสำคัญของโครงการเซ็นทรัลอาสาพัฒนาชุมชน บอกว่า ในประเทศไทยนาข้าวที่จะได้รับรองว่าเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกได้ จะต้องอาศัยน้ำฝนอย่างเดียวเท่านั้นในการเพาะปลูก ซึ่งข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง ยังผลิตภายใต้การควบคุมคุณภาพของคณะกรรมการรับรองคุณภาพ จ.พัทลุง ผ่านระบบจัดการคุณภาพ GAP (Good Agricultural Practice) ควบคู่ระบบ GI (Geographical Indication) ปลอดภัยจากสารพิษตกค้าง โดยมีตราสัญลักษณ์ GI รับรองคุณภาพ

เห็นเป็นข้าวแนวออร์แกนิกแบบนี้ ไม่ต้องกลัวจะหาชิมยาก เพราะมูลนิธิเตียง จิราธิวัฒน์ ในโครงการเซ็นทรัลอาสาพัฒนาชุมชน ร่วมกับร้านอาหารเดอะ เทอเรส เครือบริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป (CRG) นำเอาข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง มาสร้างสรรค์เป็นเมนูต่างๆ มากมาย ทั้งหวานและคาว (ไปชิมได้ตั้งแต่วันนี้24 มี.ค.)

 

ไม่ว่าจะเป็น แครกเกอร์ข้าวทอดหมูสับปลาเค็ม (95 บาท) ซึ่งนำเอาข้าวสังข์หยดที่หุงสุกแล้วไปคั่วให้หอม แล้วนำมาบดเป็นข้าวคั่ว ใส่น้ำจิ้มแจ่ว ราดบนหมูสับปลาเค็ม ประกบด้วยแครกเกอร์ข้าวทอด ข้าวสังข์หยดคอหมูย่างผัดซอสมันกุ้ง (125 บาท) เมนูนี้นำข้าวสังข์หยดหุงสุกไปผัดกับไข่ แครอต ถั่วลันเตา เป็นข้าวผัดเสิร์ฟพร้อมคอหมูย่างผัดกับซอสมันกุ้ง

อีกเมนูที่เดอะ เทอเรส สร้างสรรค์ขึ้น คือ ข้าวสังข์หยดผัดน้ำพริกปลากะพงย่างไก่ตะไคร้ทอดกรอบ (115 บาท) ที่นำข้าวสังข์หยดมาผัดกับน้ำพริกปลากะพงย่างสูตรเฉพาะของทางร้าน เสิร์ฟมากับไก่ทอดส่วนสะโพกหมักด้วยตะไคร้บดพร้อมปรุงรส โรยหน้าด้วยตะไคร้ทอดกรอบ จานที่น่าจะขายดีเพราะกินง่ายๆ อย่าง สปาเกตตีผัดซอสโหระพาลาบหมูทอด (115 บาท) ที่นำเอาข้าวสังข์หยดที่หุงสุกแล้วไปคั่วให้หอม แล้วนำมาบดเป็นข้าวคั่ว ซึ่งกลายเป็นส่วนผสมหนึ่งในลาบหมูทอดเป็นลูกกลม ด้านสปาเกตตีนำไปผัดกับซอสโหระพาใส่เห็ดออรินจิ เสิร์ฟหลังโรยหน้าด้วยลายหมูทอดที่เตรียมไว้

 

นอกจากนี้ ยังมีเมนู ข้าวสังข์หยดแกงมัสมั่นไก่ (125 บาท) เป็นข้าวสังข์หยดหุงสุก เสิร์ฟพร้อมแกงมัสมั่น อาหารขึ้นชื่อของไทย สเต๊กหมูซอสเขียวหวานข้าวสังข์หยดผัดเนย (185 บาท) สำหรับคนไม่ชอบรสชาติจัดจ้าน ปิดท้ายด้วยขนมหวาน เครปข้าวเหนียวมะม่วง (85 บาท) ซึ่งนำข้าวสังข์หยดสุกมาปั่นเป็นน้ำ ผสมแป้งและนม เพื่อทำแผ่นแป้งเครป และยังมีข้าวสังข์หยดหุงสุกทอดกรอบไว้โรยหน้าเครปที่ห่อข้าวเหนียวมูนใบเตย ราดด้วยซอสมะม่วงกับกะทิสด เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมกะทิ

ไปร่วมสนับสนุนเกษตรกรไทย กับเมนูจากผลิตผล “ข้าวสังข์หยด” ของเกษตรกรชาวพัทลุง ได้ตั้งแต่วันนี้-24 มี.ค. ที่ร้านเดอะ เทอเรส ทุกสาขา ข้อมูลเพิ่มเติม CRG Call Center โทร. 02-663-3888