แวะเที่ยวบาตู แวะดูมาลัง
เพราะความเบาบางของประชากรและถนนหนทางที่อาจไม่สะดวกสบายมากนัก ทำให้ที่ผ่านมาเกาะชวาฝั่งตะวันออกไม่เป็นที่นิยมจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศมากนัก
เพราะความเบาบางของประชากรและถนนหนทางที่อาจไม่สะดวกสบายมากนัก ทำให้ที่ผ่านมาเกาะชวาฝั่งตะวันออกไม่เป็นที่นิยมจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศมากนัก
ซึ่งส่วนใหญ่จะไปกระจุกตัวอยู่ที่เมืองยอกยาการ์ตาและเกาะบาหลี แต่สำหรับชาวอินโดนีเซียแล้ว ชวาตะวันออกคือหนึ่งในปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งภูเขาไฟโบรโม่ ซึ่งส่งผลให้เมืองใกล้เคียงพลอยได้รับความนิยมตามไปด้วย นั่นก็คือเมืองบาตูและเมืองมาลัง
เมืองบาตูอยู่ห่างจากหมู่บ้านเซโมโร่ลาวัง ที่ตั้งของภูเขาไฟโบรโม่เพียง 70 กิโลเมตร เมืองนี้ยังเป็นที่ตั้งของอีกหนึ่งภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ นั่นก็คือภูเขาไฟอาร์จูโน่ ที่สูงจากระดับน้ำทะเล 3,339 เมตร ซึ่งเคยปะทุครั้งใหญ่ที่สุดเมื่อปี ค.ศ. 1952 ทำให้เถ้าถ่านภูเขาไฟที่อุดมด้วยแร่ธาตุ ปกคลุมพื้นที่โดยรอบรวมทั้งเมืองบาตู ที่ตั้งอยู่เชิงภูเขาไฟที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 8001,000 เมตร จึงมีอุณหภูมิเฉลี่ย 17 องศาเซลเซียสทั้งปี เลยทำให้ที่นี่เป็นแหล่งปลูกไม้และผลไม้เมืองหนาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งแอปเปิล
ถึงแม้ว่าแอปเปิลของเมืองบาตูจะมีผลไม่ใหญ่และผิวไม่สวยงามนัก เพราะเกษตรที่นี่เน้นการปลูกแบบไร้สารเคมี เพื่อใช้ประโยชน์แร่ธาตุจากดินภูเขาไฟให้มากที่สุด แต่รสชาติแอปเปิลที่นี่ก็หวานกรอบอร่อย ชาวบาตูจึงเกิดไอเดียในการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเก็บกินแอปเปิลสดๆ จากต้น หรือถ้าจะเอากลับบ้านก็ชั่งกิโลขายในราคาหน้าสวน ส่วนเกษตรกรแม่บ้านก็แปรรูปผลิตภัณฑ์จากแอปเปิลเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น น้ำแอปเปิล แอปเปิลอบกรอบ และ “ดูโด้ล” ขนมพื้นเมืองที่มีส่วนผสมของแอปเปิล สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับผู้คนที่นี่ ทำให้บาตูเป็นหนึ่งในเมืองที่มีเศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถึงขนาดขอแยกส่วนการปกครองออกจากเมืองมาลัง
มาลังห่างจากบาตูเพียง 20 กิโลเมตร เป็นเมืองที่ผู้คนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น กว่า 1.2 ล้านคน ในภูมิประเทศที่เป็นแอ่งกระทะ ล้อมรอบด้วยภูเขาที่มีอากาศเย็นสบาย ในอดีตเป็นเมืองตากอากาศยอดนิยมในยุคสมัยดัตช์ปกครอง จึงเป็นหนึ่งในเมืองสำคัญของชวาตะวันออกที่มีผู้คนเข้ามาทำมาค้าขายจนกระทั่งถึงปัจจุบัน
ตลาดปาซาร์ บาซาร์ (Pasar Basar) เป็นหนึ่งในตลาดเก่าแก่ที่ยังคงเป็นที่จับจ่ายสินค้าของชาวบาตู ซึ่งมีจำหน่ายตั้งแต่อาหารคาวหวานไปจนถึงเสื้อผ้าหลากสีสัน แต่ด้วยเพราะไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวหลัก ดังนั้นการเดินเข้าไปเที่ยวชมก็ทำให้ได้รับความสนใจจากพ่อค้าแม่ขายที่ส่งยิ้มทักทายและถามไถ่ว่าเรามาจากไหน เมื่อเราบอกว่ามาจากประเทศไทย ทุกคนจะให้การตอบรับที่ดี และบอกว่าพวกเราน่าจะเป็นคนไทยกลุ่มแรกๆ ที่มาที่นี่
ไม่ไกลกันมาก ยังเป็นที่ตั้งของอีกหนึ่งตลาดที่น่าสนใจ นั่นก็คือตลาด “ปาซาร์ บุรง” (Pasar Burung) ตลาดซื้อขายสัตว์เลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดในชวาตะวันออก จุดเริ่มต้นของตลาดแห่งนี้มาจากการซื้อขายนกสวยงาม เพราะคำว่า “บุรง” ในภาษาชวาแปลว่า “นก” ซึ่งต่อมาได้ขยับขยายและจัดระเบียบใหม่ให้กลายเป็นตลาดซื้อขายสัตว์เลี้ยงและอุปกรณ์ ที่ใครมาเที่ยวที่มาลังจะต้องไม่ควรพลาด
มาลังเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีประชากรเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ซึ่งเป็นผลจากการวางนโยบายให้มาลังเป็นศูนย์กลางการศึกษาที่เริ่มต้นมาตั้งแต่สมัยการปกครองของดัตช์ ได้ทำให้ทุกวันนี้ที่นี่เป็นอีกเมืองหนึ่งในประเทศอินโดนีเซียที่ประชากรมีระดับการศึกษาสูง เพราะเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยประมาณ 15 แห่ง และโรงเรียนมัธยมขึ้นชื่ออีก 17 แห่ง จึงเป็นเมืองที่เติบโตและพัฒนาอย่างเป็นระบบ
การเดินทางของทีมงานโลก 360 องศา ยังคงไม่สิ้นสุด ถึงแม้ว่าการเดินทางมาที่เมืองบาตูและเมืองมาลังจะทำให้ได้มีโอกาสเห็นภาพสวยๆ ของธรรมชาติ เห็นความอุดมสมบูรณ์ของผืนแผ่นดิน ได้เห็นวิถีชีวิตงดงามของชาวชวาตะวันออก แต่นั่นก็ไม่ใช่ทั้งหมดของที่นี่ ดังนั้นเราจึงต้องออกเดินทางต่อไป เพื่อไปทำความรู้จักกับดินแดนนี้ให้มากยิ่งขึ้น ขอขอบคุณสายการบินการูด้า อินโดนีเซีย ที่สนับสนุนให้เราเดินทางไปค้นหาเรื่องราวและความน่าสนใจของชวาตะวันออกมาฝากคุณผู้อ่านในครั้งนี้


