ความสัมพันธ์ของสรรพสิ่ง
โดย...เสน่ห์จันทน์ ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี
โดย...เสน่ห์จันทน์ ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี
จัดเป็นงานประติมากรรมสามมิติที่ได้พื้นที่แสดงงานอย่างพอเหมาะพอเจาะ ช่วยส่งให้จุดเด่นในผลงานโดดเด่นขึ้นมาอีก เพราะไม่ใช่แค่แกลเลอรี่จะให้โอกาสศิลปินได้นำผลงานมาจัดแสดงเท่านั้น แต่ศิลปินและตัวผลงานของเขาก็เลือกแกลเลอรี่เช่นกัน
นิทรรศการ “Wave of Life” โดย “จุมพล อุทโยภาศ” ณ อาร์เดลเธิร์ดเพลส แกลเลอรี่ จึงเป็นการจับคู่ที่ลงตัว
“ผมทำงานประติมากรรมมาตลอด แต่ที่ผ่านมาทำประติมากรรมลอยตัว จนถึงจุดหนึ่งมันตันๆ เริ่มทำงานไม่สนุกกับมันแล้ว ก็เลยหันมาทำแบบติดผนังดูซิ แต่ยังต้องเป็นงานสามมิติอยู่ เป็นความคิดใหม่และสนุกกับการทำงานด้วย แต่งานติดผนังถ้าเกิดจัดแสดงไม่ดีก็มีผลต่อมิติของงาน งานประติมากรรมมีข้อเสียของมันคือต้องมีที่เฉพาะของมัน มีพื้นที่กว้างหน่อย ต้องมีแสงมันถึงแสดงตัวของมันได้เต็มที่ ต้องอยู่ในพื้นที่สมควรอยู่”
ในครั้งนี้จุมพลนำเสนอผลงานประติมากรรมที่สร้างสรรค์ขึ้นด้วยไม้ ภายใต้แนวความคิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งในธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ พืชพรรณ หรือสรรพสัตว์ ซึ่งดำรงอยู่ร่วมกันอย่างสอดประสานและเอื้ออาศัยซึ่งกันและกัน
“ผมนั่งที่ร้านอาหารริมแม่น้ำแล้วเห็นลูกลำพูร่วงลงบนแม่น้ำ แล้วน้ำก็กระเพื่อมกระจายออกไป ผมรู้สึกถึงการกระทำอย่างหนึ่งที่พอกระทบอีกอย่างมันส่งผลต่อๆ กันไป อย่างลูกโกงกางร่วงลงน้ำ มันลอยในน้ำมันได้สัมผัสกับชีวิตแล้วนะ เพราะถ้ามันยังอยู่บนต้นมันไม่สามารถขยายพันธุ์ได้ ซึ่งการพึ่งพาอาศัยกันของหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างในธรรมชาติ เป็นสิ่งที่เรามองข้าม ผมเลยเริ่มทำการกระเพื่อมของน้ำ เป็นวงเป็นการขยายตัว มองอีกทีเหมือนรัศมีของพระอาทิตย์ด้วย เพราะนอกจากน้ำ การที่จะเจริญเติบโตได้ต้องอาศัยแสงแดด”
ความน่าสนใจของผลงานประติมากรรมไม้ในครั้งนี้ คือความอ่อนในความแข็ง ความพลิ้วไหวดังระลอกคลื่นน้ำบนแผ่นไม้ แสงสีที่ตกกระทบสร้างลีลาชวนมอง
“ชื่อนิทรรศการก็มาจากคลื่นน้ำ ตอนแรกที่ผมเริ่มทำงานศิลปะ ผมให้ความสนใจเมล็ดพืช การเติบโตของเมล็ดพืช และการที่มันเจริญเติบโตต้องอาศัยน้ำ ผมก็เลยคิดรูปใหม่ว่าจะแกะไม้เป็นน้ำได้อย่างไร ถ้าน้ำนิ่งก็ใสเหมือนกระจกมีการสะท้อน แต่ถ้ามีอะไรตกลงไปหรือลมพัดก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมา ก็เลยเอาจุดนี้มาทำงานชุดนี้ ถ้าน้ำนิ่งไม่มีพลัง มีอะไรกระทบก็แสดงพลัง แสดงคุณสมบัติของมัน”
ผลงานประติมากรรมไม้แกะสลักขัดแต่งที่ผสมผสานระหว่างรูปทรงเรขาคณิตและรูปทรงสัญลักษณ์ในธรรมชาติ
“ผมชอบวัสดุประเภทนี้มาก ไม้แต่ละอย่างมีลักษณะของมัน มีลวดลาย มีสีที่ไม่เหมือนกันในแต่ละต้นแต่ละพันธุ์ ไม้ที่ผมนำมาทำก็เป็นไม้พื้นบ้านที่หาได้ง่าย เช่น ไม้สะเดา ไม้มะขาม กระถินณรงค์ มะเกลือ โตง่ายตัดได้ ไม่ใช่ไม้เศรษฐกิจ ผมไปตามโรงไม้เจอไม้ลายแปลกๆ สวยๆ ก็ซื้อเก็บไว้ก่อน คิดคอนเซปต์งานได้ก่อนค่อยไปดูว่าไม้ที่เรามีอยู่ใช้ได้ไหม บางทีเห็นลายไม้ก็นึกอยากจะทำงานขึ้นมาก็มี
เวลาทำงานผมจะทำทรงไม้ก่อนสเกตช์เป็นรูปภาพ บางชิ้นปั้นดินน้ำมันขึ้นมา แกะจากดินน้ำมัน ต้องมาตัดเป็นรูปทรง มาสร้างรูปทรงของเราเอง งานประติมากรรมเล่นของเรื่องมิติ เรื่องของแสงที่ตกกระทบ งานของผมเป็นลักษณะงานกึ่งนามธรรม สิ่งที่นำมาใช้บนไม้ นอกจากพยายามใช้ไม้หลายชนิด สีลายต่างกัน พื้นผิวต่างกัน ดึงเอาคุณลักษณะของมันมา บางชิ้นก็เอาหินทราย เอาเมล็ดพันธุ์ไม้มาประกอบ ทุกสิ่งเป็นสิ่งที่อยู่ในธรรมชาติ หินดินทรายที่อยู่รอบตัว อยู่ที่ว่ามันอยู่ผิดที่ผิดทางไหม เราผสมผสาน อย่างหินทรายเอามาประกอบกับไม้ พื้นผิวใกล้เคียงกับไม้ ถ้าเอาหินแกรนิตมาไม่เข้ากัน”
ทุกวันนี้จุมพลยังทำงานศิลปะอยู่ทุกวัน และกำลังสนุกกับคอนเซปต์เกี่ยวกับน้ำ ไม่แน่ว่าในอีกหนึ่งปีหรือสองปีข้างหน้า เราจะได้ชมผลงานในแนวคิดนี้ แต่ขยายความและมีความหมายที่ลึกซึ้งขึ้นไปอีก
นิทรรศการ “Wave of Life” จัดแสดงถึงวันที่ 2 มี.ค. ณ อาร์เดลเธิร์ดเพลส แกลเลอรี่ ถนนสุขุมวิท 55 ทองหล่อ ซอย 10 เปิดให้ชมวันอังคารเสาร์ เวลา 10.30-19.00 น. และวันอาทิตย์ เวลา 10.30-17.30 น.


