‘โคลนนิ่ง’ หุ่นจำลอง 3 มิติ เทรนด์ฮิตคนรุ่นใหม่
งานนี้มาดามทุสโซต้องหนาว เพราะด้วยเทคโนโลยีการพรินต์แบบใหม่ที่สามารถผลิตหุ่นจำลองแบบ 3 มิติแห่งแรกของเมืองไทย
โดย...วราภรณ์
งานนี้มาดามทุสโซต้องหนาว เพราะด้วยเทคโนโลยีการพรินต์แบบใหม่ที่สามารถผลิตหุ่นจำลองแบบ 3 มิติแห่งแรกของเมืองไทย ที่มีความเหมือนจริงจนเจ้าของต้องทิ้งกระเป๋าแล้ววิ่งมาดูหุ่นจำลองตัวเองในวันเปิดตัวช็อปครั้งแรก! โดยเหล่าคนดังที่แห่ไปใช้บริการคับคั่งเกินความคาดหมาย ลูกค้าบางรายไอเดียบรรเจิดขอให้สแกนรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ฮาร์เลย์สุดรัก หรือแม้กระทั่งกระเป๋าเบอร์กิ้น ของแอร์เมส เขาก็เคยทำมาแล้ว
“ลูกค้าบางคนรีเควสของให้เราช่วยสแกนมอเตอร์ไซค์ฮาร์เลย์ บางเจ้าของให้เราสแกนกระเป๋าเบอร์กิ้น บางคนรีเควสทำหุ่นตัวเองแต่ขอให้ประดับเพชรลงไปด้วย ซึ่งความต้องการของลูกค้ามีแบบไม่จำกัด” โจ้-ศุภชัย ปราบใหญ่ ผู้ก่อตั้งและครีเอทีฟไดเรกเตอร์ บริษัท อินจัน หุ่นจำลอง ผู้นำเทรนด์ฮิตเข้ามาในเมืองไทยเป็นคนแรก กล่าว
ธุรกิจใหม่ถูกใจคนอินเทรนด์
ธุรกิจแนวคิดใหม่โชว์รูมผลิตหุ่นจำลอง 3 มิติ แบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย “มี” ลิมิเต็ด เอดิชั่น มีให้บริการแล้วที่สยามสแควร์ ซอย 6 โดยมีกลุ่มเป้าหมายอยู่ที่บุคคลทั่วไปหรือนักสะสมที่ต้องการทำโมเดลหุ่นของตัวเอง ด้วยฝีมือดีไซเนอร์ที่ทำงานด้านออกแบบผลิตภัณฑ์และงานสถาปัตยกรรม ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ต้องการเห็นชิ้นงานตัวอย่าง เพื่อปรับแก้ไขก่อนลงมือผลิตจริง โดยมี ศุภชัย ปราบใหญ่ ผู้ก่อตั้งและครีเอทีฟไดเรกเตอร์ บริษัท อินจัน หุ่นจำลอง นักศิลปะที่มีความริเริ่มสร้างสรรค์นำเทคโนโลยีจากสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นมาผนวกร่วมกัน เรียกว่าเปิดตัวได้เพียงเดือนเศษๆ กระแสตอบรับดีมากๆ จนเจ้าของแนวคิดยังคาดไม่ถึง
“ผมปิ๊งไอเดียนำเทคโนโลยีนี้เข้ามา เพราะผมเป็นทั้งดีไซเนอร์ดูแลเกี่ยวกับอีเวนต์งานตกแต่งบ้าน ที่อเมริกาเวลาจะออกแบบเก้าอี้เขาจะใช้โปรแกรมแบบสองมิติ เพื่อดูว่าเขาจะพัฒนาเก้าอี้ให้เป็นแบบไหน สัดส่วนถูกต้องเป็นอย่างไรจึงพรินต์ออกมา แต่ปัจจุบันเขาพัฒนาสแกนเนอร์เป็น 3 มิติ ซึ่งใช้ครั้งแรกที่อเมริกา แต่ที่ญี่ปุ่นนำสแกนเนอร์แบบ 3 มิติมาใช้กับคน เพราะญี่ปุ่นชอบการ์ตูน ผมชอบเทคโนโลยีอยู่แล้วพอเห็นปุ๊บชอบเลย เพราะเป็นงานที่ช่วยซับพอร์ตดีไซเนอร์และคนทั่วไป แต่เทคโนโลยีแพงมาก ถ้าเอามาซับพอร์ตนักออกแบบอย่างเดียวไม่คุ้ม ต้องซัพพอร์ตคนทั่วไปด้วย พอญี่ปุ่นคิดทำกับหุ่น เยอรมนีทำบ้างแต่เป็นบิสิเนสเลย ผมจึงสั่งซื้อสแกนเนอร์ พรินเตอร์ และวัสดุทั้งหมดจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีราคาแพงมาก”
ไลฟ์สไตล์แบบใหม่
“วัยรุ่นเมืองไทยสนุกกับการเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ก ถ่ายรูปอัพอินสตาแกรม เฟซบุ๊ก เทคโนโลยีนี้ก็เป็นอีกเทรนด์หนึ่งที่สามารถสแกนเราให้มีขนาดเล็กลงทำเป็นหุ่นจำลองขนาดต่างๆ ซึ่งเจ้าของสามารถพาไปตามสถานที่ต่างๆ เช่น ร้านกาแฟ ขณะที่เราจิบกาแฟก็มีหุ่นของเราไปตั้งบนโต๊ะได้ ช่วยสร้างความสนุกในชีวิตเรามากขึ้น เหมือนสมัยหนึ่งที่เราฮิตนำตุ๊กตาบลายธ์ติดตามเราไปทุกที่ แต่ยุคนี้เราจะมีโมเดลของเราติดตัวไปถือเป็นไลฟ์สไตล์แบบหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่เป็นเพียงของเล่นอีกต่อไป แต่เป็นตัวเราและมีความเหมือนจริงๆ”
เจ้าหุ่นจำลอง 3 มิติ จะมาทำหน้าที่แทนน้องบลายธ์และเฟอร์บี้ของคนรุ่นใหม่ ซึ่งทั้งคู่ถือเป็นแฟชั่น คือมาแล้วก็ไป ไม่เหมือนหุ่นจำลองตัวเองที่ไม่มีวันตกเทรนด์อย่างแน่นอน เพราะไม่มีใครเบื่อตัวเอง
“เราจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีไปเรื่อยๆ ไม่หยุดนิ่ง คนจะมีความสุขกับการมองย้อนไปดูตัวเองในอดีตผ่านตุ๊กตาจำลองของเรา อย่างคนมีบุตรหลานอยากให้เราทำหุ่นสแกนให้ทุกช่วงของชีวิต เพื่อเราจะได้ดูขั้นตอนการเจริญเติบโตของลูกหลานเราได้ การเติบโตแต่ละวัยถือเป็นช่วงเวลาที่มีค่าของชีวิต” นี่คือเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้หุ่นจำลอง 3 มิติ ได้รับเสียงตอบรับที่ดี
พัฒนาเทคโนโลยีไปสู่เด็กและสัตว์เลี้ยง
ด้วยธีมหลักคือหุ่นเหมือนตนเอง ศุภชัย จึงใช้คำว่า Me คือ การถ่ายทอดอัตลักษณ์ของบุคคลนั้นๆ ออกมา โดยสแกนเนอร์สามารถเก็บลายละเอียดได้มาก ซึ่งขณะนี้ทีมงานกำลังพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อใช้กับเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยงได้ โดยพัฒนาให้เครื่องสแกนใช้เวลาสั้นๆ เพียง 5 วินาที เพื่อเก็บรายละเอียดจาก 10 นาทีที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
“หุ่นจำลองนี้ผมคิดว่าเหมาะกับทุกคน ไม่มีการจำกัดเพศหรือวัย ถ้าเป็นเด็กๆ พ่อแม่ก็อยากเก็บโปรไฟล์ของลูกไว้ตั้งแต่เด็กๆ แต่ด้วยข้อจำกัด เราจึงต้องพัฒนาสแกนเนอร์ให้ทำงานเพียง 5 วินาที เพราะเด็กเล็กๆ จะไม่หยุดอยู่นิ่งเช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงแสนรักที่เจ้าของอยากเก็บหุ่นจำลองไว้ดูเล่น โดยน่าจะใช้ได้กับเด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป นับเป็นความท้าทายที่ช่างเทคนิคไทยกำลังพัฒนากันอยู่ ถือเป็นการต่อยอดนวัตกรรมบวกกับงานฝีมือช่างไทย ซึ่งเมื่อพรินต์ออกมาแล้ว ทีมงานของผมจะทำการเก็บรายละเอียดอีกที ซึ่งคนไทยได้ชื่อเรื่องงานฝีมือที่ละเอียดมากๆ อย่างชาวต่างชาติ เช่น เยอรมันมาเห็นงานเรา ยังเอ่ยว่าเป็นหุ่นที่มีความละเอียดมากกว่าที่เยอรมนีเสียอีก ซึ่งส่วนใหญ่เครื่องสแกนจะไม่ทำปฏิกิริยากับเครื่องเพชร ทำให้เวลาพรินต์ออกมาแล้วเครื่องเพชรหายไป แต่ก็มีลูกค้าเหมือนกันที่รีเควสให้ใส่เพชรเพิ่มขึ้นไป ซึ่งราคาก็จะอยู่ที่เป็นจริงหรือสวารอฟสกี้ ถ้าเพชรจริงราคาก็ย่อมแพงกว่าสวารอฟสกี้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ขอกันเข้ามาได้” ศุภชัย เล่า
กว่าจะได้แต่ละหุ่นไม่ใช่เรื่องง่าย
หุ่น 3 มิติ ทำจากแป้ง ปลาสเตอร์ผสมไวนิลและโพลีเมอร์ จึงทำให้ขึ้นรูปเป็นชิ้นงานได้เหมือนคนจริงๆ ซึ่งกว่าจะเป็นหุ่นจำลอง 3 มิติ ที่เหมือนตนเองมีด้วยกันหลากหลายราคาตั้งแต่ 4,000 บาท ขนาด 6 เซนติเมตร เรื่อยไปถึงขนาดกลางๆ 1820 เซนติเมตร สนนราคาที่ 1.8 หมื่นบาท ขนาดใหญ่สุดที่ทำได้ตอนนี้ 30 เซนติเมตร ราคา 4.85 หมื่นบาท ใครอยากจัดเต็มแค่ไหน บุคลิกอะไรให้จัดเตรียมเสื้อผ้าไป กรอกประวัติ แต่งองค์ทรงเครื่องเสร็จสรรพ ก็ไปยืนโพสท่าตามใจบนแท่นเพื่อให้กล้องพิเศษซึ่งจะทำหน้าที่สแกนเก็บรายละเอียดทั้งท่อนบน ท่อนข้าง ข้างหน้า ข้างหลัง โดยตัวแบบต้องอยู่นิ่งๆ 510 นาที โดยขั้นตอนที่ทำยากที่สุดคือเส้นผม เครื่องจะสแกนเก็บรายละเอียดนานหน่อย เบ็ดเสร็จใช้เวลาเพียง 30 นาที และหุ่นจำลองรอเร็วสุดคือ 15 วัน
“ที่เราทำเหมือนจริงเพราะนอกจากงานฝีมือคนไทยแล้ว เวลาสั่งพรินต์ครั้งหนึ่งต่อหนึ่งโมเดลจะใช้เวลานานถึง 10 ชั่วโมง เพราะเครื่องจะพรินต์เป็นหุ่นทีละเลเยอร์ แต่ละเลเยอร์มีความหนา 0.1 มิลลิเมตรต่อชั้น เรียกว่าพรินต์ละเอียดที่สุดที่ 3ดี จะพรินต์ได้แล้วในโลกนี้ เราพรินต์เสร็จเป็นตัวต้องมานั่งเก็บรายละเอียด อย่างเครื่องสแกนมักจับสิ่งมันวาวไม่ได้ เช่น แว่นตา แม้ตอนสแกนเราจะให้ลูกค้าถอดแว่น แต่เราจะเอาเครื่องสแกนอีกชนิดหนึ่งสแกนแว่นแล้วใส่ให้ลูกค้าตอนเสร็จ เพื่อทำให้เหมือนลูกค้าที่สุด”
ด้วยหุ่นจำลองเหมือนคนจัด เหล่าคนดังก็เยอะ เช่น นักแสดงอย่าง พลอยเฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์ ก็มาเป็นลูกค้าที่ร้าน
“ตอนนี้เราขยายงานจากทำหุ่นจำลองของคนไปทำโมเดลงานออกแบบบ้านด้วย เมื่อก่อนอีเวนต์ออร์แกไนเซอร์ต้องใช้เงินเป็นแสนในการทำแบบจำลองงานให้ลูกค้าดู แต่เครื่องนี้สามารถพรินต์หุ่นได้ในเวลา 4-5 วัน ก็สามารถนำไปเสนอลูกค้าได้แล้ว”
เทรนด์นี้ฮิตอีกนาน
ศุภชัย มองว่าการทำหุ่นจำลอง 3 มิติ ไม่ใช่แฟชั่น เพราะแฟชั่นมาเดี๋ยวก็ไป แต่เทคโนโลยีนี้จะมีการพัฒนานวัตกรรมไปเรื่อยๆ เช่น พรินต์ได้ขนาดใหญ่ขึ้น เหมือนจริงมากขึ้น
“ตอนนี้เราทำหุ่นจำลองได้ใหญ่สุด 35 เซนติเมตร แต่วันหนึ่งเราจะทำได้ใหญ่เป็นหลักเมตร ซึ่งงานนี้ผมคิดว่ามาดามทุสโซต้องหนาว”
เพื่อตอบรับกระแสนิยม ศุภชัยกำลังทำรถโมบายเคลื่อนที่ หากองค์กรใดต้องการทำหุ่นจำลอง 3 มิติ 10 คนขึ้นไป โทร.เข้ามาแจ้งจะมีรถโมบายออกไปทำให้ถึงออฟฟิศเลยทีเดียว
“ตอนนี้หุ่น 3 มิติตอบโจทย์เอเยนซีมากๆ คือเขาไม่รู้ว่าจะหาของขวัญอะไรเพื่อเซอร์ไพรส์ลูกค้าแล้ว เมื่อมาพบกับหุ่น 3 มิติ เอเยนซีรวมถึงห้างร้านต่างๆ ก็พอใจ เพราะเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่แสดงตัวตนของลูกค้าจริงๆ เข้าคอนเซปต์ คือ ลิมิเต็ด เอดิชั่น ไม่มีใครเหมือนเพราะเป็นตัวเราเองจริง ๆ”
เหล่าเซเลบริตี้มากมาย อาทิ พลพัฒน์ อัศวะประภา ชวพร เลาหพงศ์ชนะ กฤษฏิ์ จิระเกียรติวัฒนา อัจฉรา บุรารักษ์ ร.อ.หญิงวันทิตา ลิ่วเฉลิมวงศ์ ศิรนุช โรจนเสถียร ฯลฯ ต่างก็อินเทรนด์ทำหุ่นจำลองตนเองกับเขาด้วย
พลอย-ชวพร เลาหพงศ์ชนะ แฟชั่นไอคอนชั้นนำของเมืองไทยก็เป็นอีกหนึ่งคนที่มีโอกาสได้เข้าไปสัมผัสกับเทคโนโลยีสุดล้ำของ “me” Limited Edition พลอยได้เผยถึงความประทับใจเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดนี้ว่า ปกติเธอชอบสะสมของน่ารักๆ เป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว สำหรับมี โมเดลนี้ นอกจากจะน่ารักแล้ว ยังทำให้รู้สึกว่าแตกต่างออกไปจากสิ่งของที่เป็นแฟชั่นหรือแค่เพียงของเล่นทั่วๆ ไป
“พลอยรู้สึกว่ามันมีคุณค่ามากกว่านั้น เพราะเป็นหุ่นจำลองของเราเอง หน้าตาของเราเอง สัดส่วนทุกอย่างคือเรา พลอยเลยรู้สึกอยากเก็บรักษามันไว้ตลอดไป แล้วก็อยากจะไปทำอีกเรื่อยๆ เพราะส่วนตัวเป็นคนชอบติดตามเรื่องแฟชั่นอยู่แล้ว ชอบเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวไปเรื่อยๆ ทำให้เราอยากเก็บแต่ละช่วงเวลาในชีวิตของเราเอาไว้เป็นที่ระลึกค่ะ”
ฟาก โมนา-วิภาวี คอมันตร์ สาวสังคมชื่อดังคุณแม่ลูกแฝด เผยถึงความรู้สึกทำจำลอง 3 มิติของตนเอง ว่า ตัวเธอเองไปทำมาแล้ว แม้จะยังไม่ได้ แต่ก็ตั้งใจจะพาลูกแฝดชายหญิง วัย 5 ขวบไปทำด้วย เพื่อเก็บเป็นของสะสมภาพแห่งความประทับใจไว้ดูเล่นเมื่อพวกเขาโตขึ้น
“อยากพาลูกสองคนไปทำมากๆ ทีแรกก็กลัวๆ ว่าลูกจะยืนอยู่นิ่งๆ 10 นาทีได้ไหม แต่คุณโจ้บอกว่าตอนนี้กำลังจะพัฒนาเทคโนโลยีให้ใช้เวลาสแกนเพียง 5 วินาที ซึ่งก็น่าสนใจ ครั้งแรกที่เพื่อนชวนไปทำหุ่นจำลองตัวเองก็รู้สึกแปลกดี ไม่เคยเห็นมาก่อน และเป็นของใหม่มากๆ โมนาเลือกทำหุ่นขนาด 8 เซนติเมตร อยากพาลูกๆ ไปเพราะอยากเก็บหุ่นจำลองของลูกๆ ไว้ดูเล่น อยากสะสมหุ่นของลูก ส่วนตัวตั้งใจจะไปทำอีกเพราะครั้งแรกที่ไปยังแต่งตัวไม่จัดเต็ม (หัวเราะ) แต่ก็เป็นลุคแคชวลในชีวิตประจำวันของเรา เก็บไว้หลายคอลเลกชั่นน่ารักดีค่ะ”


