เชียงรายรำลึก
เมื่อพันกว่าปีล่วงมาแล้ว พระมหากัสสปเถระ พร้อมด้วยพระเจ้าอชุตราช กษัตริย์ผู้ครองนครโยนกนาคพันธุ์
โดย...โยธิน อยู่จงดี
เมื่อพันกว่าปีล่วงมาแล้ว พระมหากัสสปเถระ พร้อมด้วยพระเจ้าอชุตราช กษัตริย์ผู้ครองนครโยนกนาคพันธุ์ รวมทั้งข้าราชบริพารได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนรากขวัญเบื้องซ้าย (กระดูกไหปลาร้า) ของพระพุทธเจ้า จากประเทศอินเดีย มาสถิตไว้ ณ ดอยในดินแดนแห่งหนึ่งของล้านนา และได้ปัก “ตุง” บูชามหาธาตุ ปล่อยให้ปลายชายตุงปลิวสะบัดถึงที่ใดให้หมายเอาว่าคือเขตศักดิ์สิทธิ์ ดอยลูกนั้นจึงมีชื่อว่าดอยตุง อันมีพระธาตุดอยตุงเป็นปฐมเจดีย์แห่งแรกของดินแดนล้านนา
มีคำกล่าวที่ว่า ตุง คือ...มิ่งเมือง ขวัญเมือง และเป็นเอกลักษณ์ของล้านนา เพื่อสถิตคู่พระธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ที่มีอายุยาวนานนับพันปี
วันนี้เราเดินทางมาเพื่อนมัสการพระธาตุดอยตุง จ.เชียงราย หนึ่งในเจดีย์มหาธาตุที่มีอายุยาวนานกว่า 1000 ปี และเป็นต้นกำเนิดของตุงสัญลักษณ์ประจำล้านนาที่พบเห็นกันอย่างแพร่หลายในภาคเหนือ ตุง คือ สัญลักษณ์ของความสำเร็จ ความโชคดี ความเป็นมงคลแก่ชีวิต
ระหว่างทางเดินขึ้นไปนมัสการจะมีไม้เคาะระฆังที่ตั้งเรียงรายตลอดทางเดินขึ้นดอยให้นักบุญได้ตีให้เกิดเสียงก้องกังวานบ่งบอกถึงคนที่กำลังจะมาแสวงบุญให้รับรู้โดยทั่วกัน
แต่ทางเดินขึ้นก็นับว่าเหนื่อยไม่น้อยเลยทีเดียว ทำให้เรานึกถึงตำนานเรื่องตุงแรกแห่งล้านนาน ว่า ตุงหรือธงแรกที่ใช้กำหนดเขตพระธาตุดอยตุงนั้น มีความยาว 1,000 วา พอปักบนยอดเขาหากชายตุงปลิวไปถึงที่ใดก็กำหนดให้เป็นฐานของพระเจดีย์ ซึ่งก็คงยาวลงมาถึงปากทางเดินขึ้นกระมัง
หลังจากกำหนดเขตได้แล้วพระเจ้าอชุตราช พระราชทานทองคำให้พวกลาวจกเป็นค่าที่ดิน และให้พวกมิลักขะ 500 ครอบครัวดูแลรักษาพระธาตุ ต่อมาในสมัยพญามังรายแห่งราชวงศ์มังราย มีพระมหาวชิรโพธิเถระได้นำพระบรมสารีริกธาตุจากอินเดียมาถวายให้อีก 50 องค์ พญามังรายจึงให้สร้างพระเจดีย์อีกองค์เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุใกล้กับเจดีย์องค์เดิม เราจึงเห็นพระธาตุดอยตุงมีเจดีย์สององค์จนถึงทุกวันนี้
เมื่อย้อนกลับไปเมื่อครั้งสมัยราชวงศ์มังราย ตำนานในพงศาวดารโยนก เล่าขานกันว่า พญามังรายเห็นทำเลดีริมแม่น้ำกก จึงสั่งสร้างเมืองเชียงรายและย้ายราชธานีเดิมมาไว้ที่นี้ทั้งหมด จากนั้นไม่นานก็ทรงไปสร้างเมืองใหม่อีกเมือง ก็คือ เมืองเชียงใหม่ และให้พระโอรสขุนคราม ครองเมืองเชียงรายต่อ เชียงใหม่และเชียงรายจึงมีสายสัมพันธ์กันอย่างแน่นแฟ้น
แต่ล้านนาเคยตกเป็นเมืองขึ้นของพม่าและเป็นดินแดนแย่งชิงระหว่างไทยกับพม่ามานาน ระหว่างศึกสงครามผู้คนก็ทิ้งบ้านเมืองหลบภัย ทำให้เชียงรายกลายเป็นเมืองร้างผู้คนอยู่หลายครั้ง จนถึงวันที่บูรณะเมืองขึ้นมาใหม่ พระธาตุดอยตุงก็ได้รับการบูรณะก่อนเป็นอันดับต้นๆ
ศิลปะของดอยตุงเป็นศิลปะเชียงแสนคล้ายกับพระธาตุดอยสุเทพ ตั้งอยู่บนดอยสูงแวดล้อมด้วยป่ารกครึ้ม ที่ชาวเมืองเรียกว่า สวนเทพารักษ์ เพราะเชื่อกันว่า เป็นที่สถิตของเทพารักษ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ได้ถูกอัญเชิญมาปกปักรักษาพระธาตุตั้งแต่เมื่อพันปีก่อน
คนที่ขึ้นมาทำบุญก็เดาไว้ก่อนว่า ครึ่งหนึ่งเป็นชาวปีกุนเพราะเป็นพระธาตุประจำปีกุน เวลาขอพรก็ขอให้โชคดีมีชัยทำสิ่งใดก็ขอให้สำเร็จทุกประการ
จากนั้นเราเดินทางมาที่ตัวเมืองเชียงราย ซึ่งเราต้องบอกว่ายังคงความเป็นธรรมชาติของผู้คนและวัฒนธรรมไว้ได้ในระดับหนึ่ง อย่างน้อยๆ ความเจริญที่แผ่ขยายเข้ามาก็ไม่ได้ทำให้ความเป็นมิตรของเชียงรายนั้นหายไป หากจะว่าไปแล้วให้เลือกระหว่างเชียงใหม่กับเชียงรายผมของมาเชียงรายดีกว่าครับ
อย่างแรกคือเมืองยังไม่ได้เปลี่ยนไปมาก จุดที่เป็นความเจริญอย่างศูนย์การค้าย่านธุรกิจก็ตั้งอยู่อีกด้านหนึ่งของเมือง ไม่ได้มีการเข้ามาทุบทิ้งเปลี่ยนแปลงอาคารเก่าแต่อย่างใด วัดวาอารามอย่างวัดพระสิงห์ วัดไม้แกะสลักที่งดงามมากที่สุดวัดหนึ่งในดินแดนล้านนา
วัดพระสิงห์ เป็นพระอารามหลวงเก่าแก่แต่โบราณกาล เป็นศูนย์รวมใจของชาวเชียงราย เล่ากันว่า วัดพระสิงห์ เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของไทยในปัจจุบัน คือ พระพุทธสิหิงค์ สัญลักษณ์แห่งพระพุทธศาสนาเถรวาท ลังกาวงศ์ เป็นพระพุทธปฏิมาที่ให้ความสงบร่มเย็น แก่บ้านเมือง ไปอยู่ที่แห่งใดประชาชนก็จะพบแต่ความสงบร่มเย็น ซึ่งก็น่าจะจริงอย่างที่เล่าขาน เพราะชาวเมืองเชียงรายนั้นใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายแต่ไม่น่าเบื่อ อากาศดี ทิวทัศน์สวยงาม
เมื่อเข้าไปในบริเวณภายในวัด เราจะพบพระอุโบสถที่สร้างขึ้นราวปี พ.ศ. 1251 สถาปัตยกรรมแบบล้านนาไทยสมัยเชียงแสน ประกอบด้วยไม้เนื้อแข็งทั้งหลัง และได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ให้มีสภาพสมบูรณ์สวยงามอย่างที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน เมื่อปี พ.ศ. 2533
ที่บานประตูหลวง ทำด้วยไม้แกะสลักจิตรกรรม จากอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ซึ่งใช้เวลาในการแกะสลักเกือบหนึ่งปี จนกลายเป็นจุดเด่นของวัดที่สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว
มองไปยังพระเจดีย์ที่ก่อสร้างแบบล้านนาไทย เช่นเดียวกับหอระฆังที่มีระฆังทรงใบระกาหล่อด้วยทองเหลืองทั้งแท่ง ซึ่งหาได้ยากแล้วในปัจจุบัน แต่เราบอกได้เลยว่า ทุกคนที่ได้เข้าไปในบริเวณวัดพระสิงห์นี้แล้วจะต้องประทับใจในความสวยงามของศิลปะแบบล้านนาจนแทบอยากกลับไปตกแต่งบ้านให้เป็นแบบล้านนาเลยทีเดียว เพราะเชียงรายนั้นมีมนต์ขลังอันน่าพิสมัย เป็นดินแดนที่ทุกคนอยากจะกลับไปเยี่ยมเยือน ดินแดนที่ทำให้เรานึกถึงธรรมชาติและความสงบร่มเย็น ผิดกับเมืองกรุงที่แสนน่าเบื่อหน่ายเสียจริงๆ


