เป็นเอก รัตนเรือง กับชีวิตที่สมบูรณ์แบบ
คุณรู้จักผู้ชายชื่อ “ต้อมเป็นเอก รัตนเรือง” บ้างไหม ผู้ชายที่มาพร้อมกับความแปลกและแตกต่างในทางภาพยนตร์ของเขา
โดย...ตุลย์ จตุรภัทรเตย เพ็ญศรี ภาพ ทวีชัย ธวัชปกรณ์
คุณรู้จักผู้ชายชื่อ “ต้อม-เป็นเอก รัตนเรือง” บ้างไหม ผู้ชายที่มาพร้อมกับความแปลกและแตกต่างในทางภาพยนตร์ของเขา ซึ่งหากย้อนกลับไปในปี 2540 ไล่เรียงไปจนถึงประมาณปี 2546 นับว่าช่วงเวลานั้นภาพยนตร์ของเขาไม่ว่าจะเป็น ฝัน บ้า คาราโอเกะ/เรื่องตลก 69/มนต์รักทรานซิสเตอร์ และเรื่องรัก น้อยนิด มหาศาล คือแนวทางที่ใครหลายคนต่างจับตามอง มองแล้วให้กล่อง แต่ทว่ากลับไร้เงิน (หลังจากปี 2546 เขาก็ยังสร้างสรรค์ผลงานภาพยนตร์อีกเรื่อยๆ แต่ก็มาแบบเรียงๆ จนกระทั่งทุกวันนี้)
“ผมอยู่ในวงการภาพยนตร์มาทั้งหมด 16 ปี ผมไม่เคยทำหนังแล้วได้เงิน แต่ผมก็ไม่มีอะไรที่ผมอยากทำแล้วไม่ได้ทำ ผมคิดว่านั่นคือกำไรของชีวิต แม้ว่าบนเส้นทางนี้จะไม่ใช่เส้นทางเดินที่ผมฝันไว้ ผมใฝ่ฝันเป็นนักฟุตบอลอาชีพ แต่เมื่อชีวิตผมได้เดินมาในเส้นทางนี้ เส้นทางของคนทำภาพยนตร์ ผมว่าผมโชคดีตรงที่ไม่เคยมีใครขอร้องให้ผมหยุดเดิน โชคดีตรงที่ผมไม่เคยต้องทำตามใจใคร ผมได้ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ และโชคดีที่เส้นทางของผมเส้นนี้ผมยังคงเลือกที่จะเดินเพื่อสร้างสรรค์ผลงานอีกต่อไปเรื่อยๆ”
นอกจากความโชคดีที่ผู้ชายคนนี้ได้บอกเล่า เขายังเผยถึงความโชคดีอีกอย่างหนึ่งว่า การเป็นคนทำภาพยนตร์แล้วไม่เคยประสบความสำเร็จทางด้านการเงิน มันทำให้ตัวเขาไม่ต้องถูกดึงเข้าไปสู่วงการภาพยนตร์เหมือนคนอื่นๆ
“ผมไม่ต้องไปออกสื่อ ไม่ต้องออกไปงานตามอีเวนต์ต่างๆ หรือไม่ต้องออกไปสังสรรค์กับใครให้วุ่นวาย มีบ้าง แต่ก็พอเหมาะพอควร ซึ่งผมว่าผมรู้สึกดีนะ มันไม่เหนื่อย สมองโล่งดี วันๆ ผมมีเรื่องที่ต้องคิดไม่มาก ความทะเยอทะยานมันก็ไม่มาก ระบบร่างกายมันก็ดีด้วย (หัวเราะ)”
อย่างไรก็ตาม วันนี้ผู้ชายที่ชื่อ ต้อม เป็นเอก อาจต้องกลับเข้ามาสู่งวงจรของวงการภาพยนตร์อีกครั้ง กับการเป็นผู้กำกับภาพยนตร์โทรทัศน์ที่มีชื่อเรื่องว่า “แรงดึงดูด” ที่ว่าด้วยเรื่องของหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของร้านอาหารที่หอบกระเป๋าเสื้อผ้าลงเรือไปเที่ยวกับแฟนหนุ่ม แต่เกิดเรื่องไม่คาดฝัน เมื่อชายหนุ่มที่เธอต้องพักค้างอ้างแรมด้วยแทนที่จะเป็นแฟนของตัวเอง กลับไม่ใช่! ซ้ำร้าย เธอยังต้องอยู่ในที่แห่งนั้นโดยไม่รู้อนาคตว่าจะกลับมาได้อย่างไร เพราะที่แห่งนั้นคือเกาะร้าง! ที่มีเพียงแค่ผู้ชายคนหนึ่งซึ่งนำพาตัวเองไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นอย่างสันโดษ
“ภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่องนี้จะออกอากาศทางช่องทรูวิชั่นส์ช่อง 45 ในวันที่ 14 ก.พ. ที่ใกล้จะถึงนี้ เวลา 21.00 น. ครับ ผมว่ามันเป็นภาพยนตร์ที่เหมาะที่ดูในวันวาเลนไทน์มากๆ (หัวเราะ)”
สำหรับภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่องแรงดึงดูด เป็นเอก เผยว่า คนอาจคิดว่านี่เป็นการทำงานที่ง่าย ใช้นักแสดงหลักเพียงสองคน และสถานที่ทั้งหมดส่วนใหญ่เป็นเกาะร้าง แต่หารู้ไม่ว่าการทำงานบนเกาะและกลางทะเลนี่แหละ ยากยิ่งกว่าหลายเท่า
“การทำงานกับน้ำมันน่ากลัวมากกว่าที่คิด ทุกอย่างมันจะช้าลง 3 เท่า เพราะเราไม่สามารถกำหนดจังหวะของคลื่นได้”
แต่ไม่ว่าจะต้องพบเจอความยากอย่างไร แต่สิ่งที่เป็นเอกภูมิใจ นอกจากการได้ทำงานกับนักแสดงมืออาชีพอย่าง ปีเตอร์ นพชัย และ คริส หอวัง มันคือการได้นำเสนอสถานที่ที่สวยงามแต่ให้อารมณ์โหด
“ตอนที่อ่านบท ผมคิดว่าเกาะคือตัวละครตัวหนึ่ง หากเราไม่เลือกเกาะที่สวยแต่ให้อารมณ์โหด ตัวละครสองตัวนี้มันจะไม่มีทางได้มาใกล้ชิดกัน มันจะไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่คนทั้งคู่จะเข้ามาพึ่งพากัน ซึ่งเกาะที่ผมเลือกจริงๆ แล้วมันไม่ใช่เกาะ คือเราไปทำงานที่เกาะเลยจริงๆ ไม่ได้ ค่าใช้จ่ายมันสูง ผมก็เลยเลือกถ่ายทำในสถานที่ของกองทัพเรือ ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณทางกองทัพเรือมากจริงๆ เพราะที่ตรงนี้คนปกติจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป”
สำหรับภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่องนี้ เป็นเอก เผยถึงสิ่งที่เขาอยากบอกคนดู นั่นคือ ในความจริงของความรักระหว่างคนสองคน มักมาพร้อมกับความหวัง ความหวังที่ต้องการจะสมหวัง หวังที่จะสมหวังกัน หวังว่าจะต้องลงเอยกัน หรือว่ายิ่งสานสัมพันธ์กันไปแล้วจะยิ่งหวังมากขึ้นไปอีก หวังไปถึงขั้นแต่งงาน มีลูก คือหวังตามสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามสเต็ปของมัน
“หนังเรื่องนี้จะชี้ภาพให้ทุกคนเห็นว่าชีวิตคนเรามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น เมื่อความรักมันเกิดขึ้นระหว่างคนสองคน มันอาจจะจบลงไม่วันใดก็วันหนึ่ง แต่มันก็ไม่ใช่ความผิดหวังเสียทีเดียว อย่าลืมว่าก่อนหน้าที่ความรักจะสิ้นสุด มันก็เคยทำให้หัวใจเราพองโตได้”
หลังจากภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่องนี้ออกอากาศ เป็นเอก ก็ได้เตรียมงานภาพยนตร์เรื่องใหม่อยู่ แม้จะมีคนถามว่า เขาไม่อยากแยกตัวออกไปจากสังคม เพื่อไปอยู่ในที่เงียบๆ เพื่อใช้ชีวิตสันโดษเหมือนตัวละครชายในภาพยนตร์เรื่องแรงดึงดูดหรอกหรือ เป็นเอก เผยว่า เขาไม่คิดที่จะเลิกทำภาพยนตร์เพื่อไปอยู่ในที่เงียบๆ แล้วใช้ชีวิตแบบปลีกวิเวกจากผู้คน
“ทุกวันนี้ผมก็ใช้ชีวิตแบบนั้นนะ บ้านผมอยู่บนถนนสุขุมวิท ซึ่งเราก็รู้ว่าถนนเส้นนี้เป็นใจกลางเมืองที่วุ่นวาย แต่เชื่อไหมว่าผมอยู่ได้อย่างสงบสุขในแบบของผม ผมใช้ชีวิตเหมือนผมได้อยู่ในต่างจังหวัด เพราะบ้านผมเป็นซอยตัน รถไม่วิ่งวุ่น ตัวผมเองก็ไม่ได้ต้องการอยากออกไปไหนมากมาย การใช้ชีวิตปลีกวิเวกนี้มันไม่ใช่ชีวิตที่ต้องออกไปติดเกาะหรืออยู่แบบสันโดษในพื้นที่ไกลๆ บางทีการอยู่เงียบๆ ถ้าใจเราเงียบสงบ อยู่ในที่วุ่นวาย เราก็ค้นพบความสงบ”
เป็นเอก เผยด้วยรอยยิ้มบางๆ ว่า ทุกอย่างมันอยู่ที่เรา มันอยู่ในหัวของเรา หากเราเป็นคนวุ่นวาย จะอยู่ที่ไหนมันก็วุ่นวายได้เสมอ
“ผมว่าผมเป็นคนรักสงบอยู่ มันก็เลยทำให้ผมเดินทางเข้าหาความสงบได้ง่าย มือถือผมแทบไม่ได้ใช้ ต่อให้มันดังตอนที่ผมกินข้าวอยู่ผมก็จะไม่รับ อีเมลผมมี แต่สามสี่วันผมถึงจะเช็กที เพื่อนที่ผมมี ใช้มือนับดูได้ก็คงไม่เกินสิบคน ซึ่งต่างคนต่างก็ทำงานของตัวเองไป”
หากชีวิตอันแสนสงบของผู้ชายที่ชื่อเป็นเอก คือการได้ค้นพบความสงบจากภายใน ไม่วุ่นวายกับใคร ใช้ชีวิตไปพร้อมกับการทำงาน การอ่านหนังสือ การฟังเพลง ดูบอล และเตะบอล ดูภาพยนตร์บ้างตามวาระโอกาส เขาก็ถือว่าชีวิตของเขานั้นสมบูรณ์แบบแล้ว
Congratulations!
“ต้อมเป็นเอก รัตนเรือง” เพิ่งได้รับมอบอิสริยาภรณ์ชั้นอัศวิน จากรัฐบาลฝรั่งเศส ในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ไทยที่สร้างชื่อเสียงระดับนานาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเทศกาลภาพยนตร์ของประเทศฝรั่งเศส


