พระไตรปิฏกฉบับ ร.ศ. 112 : แม่แบบของการพิมพ์พระไตรปิฏกทั่วโลก
ท่ามกลางคัมภีร์พระไตรปิฎกหลายชุดที่ประดิษฐานอยู่ภายในหอพระไตรปิฎกนานาชาติ
โดย..อัญจิรา อัศวนนท์
ท่ามกลางคัมภีร์พระไตรปิฎกหลายชุดที่ประดิษฐานอยู่ภายในหอพระไตรปิฎกนานาชาติ มีเพียงชุดเดียวที่ผู้เข้าชมไม่ได้รับอนุญาตให้สัมผัสแตะต้อง และถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีในกล่องแก้วที่ทำเป็นรูปกลีบบัว 39 กลีบ จัดแสดงอยู่บริเวณส่วนกลางของห้อง ได้แก่ พระไตรปิฎกฉบับจุลจอมเกล้าบรมธรรมิกมหาราช ร.ศ. 112 (พ.ศ. 2436) ซึ่งเป็นพระไตรปิฎกพิมพ์ชุดแรกของโลก
ในสมัยพุทธกาล พระไตรปิฎกบาลีได้มีการสวดและจดจำสืบต่อกันมาในอินเดีย โดยมิได้มีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร จนกระทั่งใน พ.ศ. 433 พระสงฆ์ลังกาจึงได้มีการสังคายนาและบันทึกเป็นครั้งแรกด้วยการจารลงในใบลาน ด้วยอักษรสิงหลของลังกาทวีป นับจากนั้นพระคัมภีร์พระไตรปิฎกในยุคแรกๆ จึงใช้วิธีบันทึกด้วยการจารลงในใบลานในลักษณะเดียวกัน
จนกระทั่งในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดริเริ่มให้มีการจัดพิมพ์พระไตรปิฎกภาษาบาลีขึ้น ตั้งแต่ พ.ศ. 2431 และพิมพ์สำเร็จใน พ.ศ. 2436 หรือ ร.ศ. 112 “พระไตรปิฎกจุลจอมเกล้าบรมธรรมิกมหาราช ร.ศ. 112” จึงถือเป็นพระไตรปิฎกพิมพ์ชุดแรกของโลก
ในช่วงเวลานั้น ประเทศต่างๆ ในเอเชีย ทั้งบรรดาประเทศที่นับถือพุทธศาสนา และประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้เผชิญกับวิกฤตการณ์การล่าอาณานิคมของจักรวรรดินิยมตะวันตก พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระราชดำรัสเรื่องความสำคัญของการพิมพ์พระไตรปิฎก เพื่อเผยแผ่ให้กว้างขวาง และเพื่อธำรงพระพุทธศาสนาไว้ในโลก ในฐานะที่สยามเป็นประเทศเดียวในบรรดาประเทศที่นับถือพุทธศาสนา ที่ยังคงความเป็นเอกราชไว้ได้ในเวลานั้น พระราชดำรัสนี้แสดงถึงพระราชวิสัยทัศน์ และพระเมตตาการุณอันหาประมาณมิได้ของพระองค์ท่านที่มีต่อชาติและต่อโลก
ผลการวิจัยเรื่องพระไตรปิฎก ร.ศ. 112 โดย สุภาพรรณ ณ บางช้าง ได้พบว่ามีการพิมพ์และพระราชทานพระไตรปิฎกชุดนี้ไปยังพระอารามหลวงและพระอารามทั่วประเทศ 500 พระอาราม มีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ตลอดปี ร.ศ. 112 นอกจากนี้ยังได้พระราชทานพระไตรปิฎกชุดนี้ไปยังสถาบันการศึกษาที่สำคัญของโลกกว่า 260 สถาบัน ส่งผลให้ประเทศสยามไม่เพียงรอดพ้นจากการถูกยึดครองโดยจักรวรรดินิยม แต่ยังทำให้ประเทศสยามเป็นที่รู้จักและได้รับการยกย่องในฐานะ “ธรรมนคร” และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ทรงได้รับการยกย่องจากชนทั่วโลกในฐานะ “พระมหากษัตริย์บรมธรรมิกมหาราช” ซึ่งผลนี้ได้ประจักษ์ชัดในการเสด็จประพาสต่างประเทศในเวลาต่อมา
งานวิจัยชิ้นนี้ ยังได้ค้นพบเอกสารปฐมภูมิที่เกี่ยวกับพระไตรปิฎกฉบับนี้ จำนวนกว่า 500 ฉบับ นับตั้งแต่พระราชหัตถเลขาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงปรารภที่จะจัดพิมพ์พระไตรปิฎกฉบับนี้ บันทึกการประชุมของคณะกรรมการ รายชื่อคณะสงฆ์ผู้ทำหน้าที่ตรวจชำระและเตรียมต้นฉบับ และกรรมการฝ่ายฆราวาสที่ช่วยให้พระไตรปิฎกชุดนี้ ซึ่งได้เปลี่ยนจากการบันทึกในใบลานมาเป็นการจัดพิมพ์เป็นหนังสือชุด ชุดละ 39 เล่ม จำนวน 1,000 ชุด รวมทั้งสิ้น 3.9 หมื่นเล่ม สำเร็จอย่างงดงาม ทันสมัย และเป็นแม่แบบของการพิมพ์พระไตรปิฎกทั่วโลกมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังพบเอกสารเกี่ยวกับการเฉลิมฉลองพระไตรปิฎก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมพระไตรปิฎกแห่งกรุงสยาม อย่างที่ไม่เคยปรากฏหลักฐานชัดเจนเท่านี้มาก่อน ตลอดจนหลักฐานการพระราชทานพระไตรปิฎกฉบับนี้ไปยังพระอารามหลวงและพระอารามทั่วประเทศ รวมถึงสถาบันการศึกษาอีกหลายร้อยแห่งทั่วโลก หนังสือตอบรับจากสถาบันเหล่านั้น หนังสือสรรเสริญเฉลิมพระเกียรติจากทั่วโลก และการค้นคว้าเพิ่มเติมจากเอกสารอื่นๆ
กล่าวได้ว่า พระไตรปิฎกฉบับจุลจอมเกล้าบรมธรรมิกมหาราชนี้ ได้มีส่วนสำคัญในการพลิกผันประวัติศาสตร์ ร.ศ. 112 จากปีที่มักเรียกกันว่าเป็นปีวิกฤตการณ์แห่งสงครามและความขัดแย้ง มาเป็นปีแห่งสันติสุขและความมั่นคงของชาติ ภูมิภาค และของโลก ทั้งนี้ก็ด้วยพระปรีชาญาณอันล้ำเลิศในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนั่นเอง
พระไตรปิฎกฉบับ ร.ศ. 112 ซึ่งประดิษฐานอยู่ในหอพระไตรปิฎกนานาชาติในปัจจุบัน ได้อัญเชิญมาจากวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม มาเก็บรักษาไว้ ปัจจุบันด้วยสภาพที่เก่าแก่ของพระคัมภีร์พระไตรปิฎกชุดนี้ หอพระไตรปิฎกนานาชาติจึงได้สแกนเก็บไว้ เพื่อจัดทำเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ให้คนทั่วโลกมีโอกาสได้อ่าน
“พระคัมภีร์พระไตรปิฎกชุดนี้ มีคุณค่ามากทั้งในเชิงวิชาการ คือ รายละเอียดของวิธีการพิมพ์ ระบบการพิมพ์ที่เป็นการพิมพ์ครั้งแรก ซึ่งแตกต่างจากในยุคหลังๆ และในเชิงประวัติศาสตร์ คือ ความสำคัญของพระไตรปิฎกชุดนี้ ซึ่งเกิดขึ้นในสมัยที่ฝรั่งเศสบุกสยาม ทำให้ทราบว่ามีอะไรเกิดขึ้น และพระไตรปิฎกได้ช่วยชาติบ้านเมืองในยามวิกฤตไว้อย่างไร จึงทำให้สยามยังคงความเป็นเอกราชไว้ได้”


