posttoday

สาวเอย...ไฉนถึงหลงใหล ‘นิยายโรแมนซ์’

26 ตุลาคม 2556

นิตยสารไรเตอร์ ฉบับที่ 9 เดือน ส.ค. 2555 มีสกู๊ปน่าสนใจอยู่ชิ้นหนึ่งชื่อ “โลกวับแวมของวัยใส” จาก “อีโรติกออนไลน์” ถึง “อีโรติกออนเปเปอร์”

 

สาวเอย...ไฉนถึงหลงใหล ‘นิยายโรแมนซ์’

โดย...อินทรชัย พาณิชกุล ภาพ กิจจา อภิชนรจเรข

นิตยสารไรเตอร์ ฉบับที่ 9 เดือน ส.ค. 2555 มีสกู๊ปน่าสนใจอยู่ชิ้นหนึ่งชื่อ “โลกวับแวมของวัยใส” จาก “อีโรติกออนไลน์” ถึง “อีโรติกออนเปเปอร์” ระบุถึงแนวหนังสือที่ทั้งสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย สายส่ง และร้านหนังสือ เห็นตรงกันว่าหนังสือที่วัยรุ่นไทยนิยมอ่านที่สุด คือ นิยายแนวโรแมนซ์ อันเปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงตลาดหนังสือไทยในวันนี้เลยก็ว่าได้

สอดคล้องกับความเห็นของ เกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานกลุ่มคลัสเตอร์อุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ที่ว่า ปี 2556 นี้พ็อกเกตบุ๊กเติบโตสูงขึ้น โดยเฉพาะหนังสือประเภทนิยายวัยรุ่นถือเป็นดาวเด่นที่ได้รับการจับตามองอย่างไม่วางตา

สาวเอย...ไฉนถึงหลงใหล ‘นิยายโรแมนซ์’

 

ทำไมหนอสาวๆ ถึงหลงใหลในนิยายโรแมนติกหวานซึ้ง (บ้างก็ถึงขั้นขยับเรตเป็นอีโรติก) ถึงขั้นหลายคนหันมาจับปากกาเขียนกันอย่างโจ๋งครึ่มกระหึ่มโลกออนไลน์

“ผู้หญิงเป็นเพศที่ช่างฝันค่ะ ขณะที่ผู้ชายจับกลุ่มดูบอล กินเหล้า แทงสนุ้ก ผู้หญิงส่วนหนึ่งก็มีความสุขกับการนอนอ่านนิยายรัก อ่านแล้วมีความสุข ได้อมยิ้มไปกับความน่ารักของตัวละคร อ่านแล้วแอบคิดว่าเมื่อไรน้าจะได้มีโอกาสพบกับผู้ชายอบอุ่น อ่อนโยน รักเดียวใจเดียวแบบพระเอกในนิยายบ้าง เท่าที่เคยคุยกับผู้หญิงบางคนที่ชอบอ่านนิยายเหมือนกัน เขาก็บอกว่าอ่านเพื่อเป็นยาชูกำลัง เพราะผู้ชายในชีวิตจริงมันแตกต่างกับพระเอกในนิยายราวกับนรกกับสวรรค์”

เป็นคำบอกเล่าของนักเขียนสาวแนวโรแมนซ์ชื่อดัง เจ้าของนิยายเบสต์เซลเลอร์หลายสิบเล่ม ภายใต้นามปากกาที่แฟนๆ รู้จักกันดีอย่าง Shayna เศกศัณย์ บรรณวิชญ์ และศิรพิชญ์

เธอบอกว่าเป็นนักเขียน “สมัครเล่น” มาได้ 5 ปีแล้ว ที่ยังเรียกตัวเองว่านักเขียนสมัครเล่น เพราะเป็นสิ่งที่ทำด้วยใจรัก เขียนแล้วมีความสุข โดยไม่ได้ต้องการกดดันตัวเองด้วยการลาออกจากงานประจำ นั่นคือ ผู้ช่วยฝ่ายไอทีของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา

สาวเอย...ไฉนถึงหลงใหล ‘นิยายโรแมนซ์’

 

“จุดเริ่มต้นในการเขียนนิยาย มาจากความเหงา เวลาเหงาๆ ก็เลยเปิดหานิยายอ่าน แล้วก็เข้าไปเจอเว็บเด็กดีซึ่งเขาลงนิยายออนไลน์ให้อ่านกันเยอะมาก ช่วงแรกนั้นอ่านอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่พออ่านไปหลายๆ เรื่องเข้าก็เริ่มรู้สึกว่าเราเดาเรื่องราวได้ บางเรื่องอ่านแล้วขัดใจ เริ่มคิดว่าถ้าจะเขียนแบบนี้ ฉันเขียนอ่านเองไม่ดีกว่าเหรอ”

ผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้แก่เธออย่าง 60 วันฉันจะ(ไม่)รักเธอ เพลิงกระชากใจ ลูบคมกามเทพ PURE SEDUCTION : เล่ห์ร้าย...ผู้ชายกระหายรัก เสน่หาราเชนทร์ 1 และ 2 Love Game : เมขลากับนายอสูร แรงพยาบาท ไฟปรารถนา Lovelock Airline :สายการบินเสี่ยงรัก ฯลฯ ล้วนมาจากการเขียนเป็นตอนๆ ลงในออนไลน์ ก่อนจะได้รับคัดเลือกตีพิมพ์เป็นพ็อกเกตบุ๊กวางแผงในที่สุด

“เริ่มต้นจากนิยายรักหวานแหวว ก่อนพัฒนาการเขียนมาเป็นนิยายรักผสมผสานกับแอ็กชั่นบ้าง ผจญภัยบ้าง ดราม่าบ้าง คำว่านิยายรักไม่ได้มีขีดจำกัดของนิยามว่าจะต้องเป็นแค่เรื่องชิงรักหักสวาท ความรักคือปัจจัยพื้นฐานของการดำรงชีวิตของมนุษย์ ไม่ว่าเราจะเขียนแฟนตาซี ผจญภัยหรืออะไรก็ตาม เราจะสอดแทรกความรักลงไปในเนื้อหาเสมอ”

ในรอบสิบปีมานี้ เธอบอกว่า ตลาดนิยายรักในเมืองไทยบูมมาก เทียบกับเมื่อสิบปีก่อน เวลาเข้าร้านเช่าหนังสือ จะเห็นชื่อนักเขียนเพียงไม่กี่ชื่อ หากเดินเข้าร้านหนังสือวันนี้ รับรองว่าตาลายจนเลือกไม่ถูก การแข่งขันระหว่างนักเขียนและสำนักพิมพ์ให้ความรู้สึกไม่ต่างจากการแข่งวิ่งมาราธอนที่มีผู้เข้าร่วมมากมายจนจำหน้าค่าตากันแทบไม่ได้

สาวเอย...ไฉนถึงหลงใหล ‘นิยายโรแมนซ์’

 

“ทุกวันนี้เกิดง่ายไหม คำตอบก็คือง่ายมากค่ะ แค่คุณเขียนและลงงานออนไลน์ในหลายๆ เว็บแล้วเกิดเตะตากรรมการซึ่งขยันเข้ามาส่องหางานไปตีพิมพ์ คุณก็มีสิทธิมีผลงานตีพิมพ์แล้ว ทุกอย่างก็เหมือนดาบสองคมค่ะ การก้าวเข้ามาเดินทางสายนี้ในทุกวันนี้มันง่าย แต่การยืนหยัดและมีผลงานให้เป็นที่ยอมรับในวงกว้างนั้นมันยาก หากคุณก้าวเข้ามาแล้วไม่รู้จักฝึกปรือฝีมือหรือหาจุดยืนให้ตัวเอง คุณก็จะถูกคลื่นมหาชน (ของนักเขียนอีกหลายร้อยหรืออาจจะเป็นพันชีวิต) เหยียบเอาได้”

ในฐานะนักเขียนที่มีอิทธิพลต่อนักอ่านวัยรุ่น วัยทำงาน นอกจากความบันเทิงแล้ว เธอบอกว่านักเขียนต้องสอดแทรกสาระ คุณธรรม ความดีงาม เพื่อจรรโลงสังคมให้ดีขึ้น

“หน้าที่ของนักเขียนคือไม่ใช่แค่เขียนเพื่อความสนุกอย่างเดียว แต่เราจะต้องสอดแทรกแง่คิด การใช้ชีวิต ความเชื่อที่ถูกต้องเข้าไปในนิยายด้วย นิยายแตกต่างจากหนังสือธรรมะตรงที่บางครั้งนักอ่านก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขากำลังซึมซับเอาสิ่งที่เราต้องการปลูกฝังเข้าไปด้วย ข้อคิดที่แทรกเข้าไปอาจจะมากน้อยต่างกันตามความเหมาะสมของเนื้อหา ก็หวังว่านักเขียนทุกคนจะคิดเห็นคล้ายกันค่ะ” นักเขียนหญิงแนวโรแมนซ์ชื่อดัง กล่าว

เอ่ยชื่อนักเขียนสาวสวยรายนี้ไม่มีใครไม่รู้จักเป็นแน่ แสตมป์เบอรี่ หรือ พิไลมาศ ค้ำชู นักเขียนซุป’ตาร์แห่งค่ายแจ่มใส เจ้าของผลงานนิยายกว่า 38 เล่มที่ได้รับการพิมพ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า อาทิ ยัยเวอร์จิ้นปิ๊งรักนักเพลย์บอย รักสุดเซอร์ไพรส์ของยัยขี้โม้ ยัยตัวแสบหวานใจนายซูเปอร์สตาร์ หล่อ ซ่าส์ ใส กิ๊กหัวใจยัยตัวยุ่ง จับนายวายร้ายมารับใช้ยัยคุณหนู เกมคิวปิดสะกิดใจหนุ่มหล่อร้ายกับยัยเจ้าเล่ห์ และซีรี่ส์ชุด 7's ท่ามกลางแฟนคลับที่คอยติดตามอย่างเหนียวแน่น

สาวเอย...ไฉนถึงหลงใหล ‘นิยายโรแมนซ์’

 

จุดเด่นในนิยายของแสตมป์เบอรี่ คือ ความเป็นนิยายไทยสไตล์เกาหลี แนวรักกุ๊กกิ๊กวัยเรียน พระเอกนางเอกหน้าตาหล่อสวย น่ารัก เต็มไปด้วยอีโมชั่น ตลกขำก๊าก ฉากประทับใจ รวมถึงการสร้างสถานการณ์น่ารักๆ สาวๆ อ่านไปจิกหมอนไปด้วย

“ทุกเรื่องเขียนขึ้นจากจินตนาการล้วนๆ ค่ะ โลกแห่งความจริงอาจไม่มีผู้ชายรูปหล่อนิสัยดีแบบนี้ เลยมาคิดต่อถ้าเราเจอผู้ชายแบบนี้ล่ะ จะเป็นยังไง พระเอกต้องทำตัวยังไง นางเอกต้องวางตัวยังไง ผูกเรื่องไปเรื่อยๆ มุขตลกก็เอามาจากคนรอบข้าง

นิยายวัยรุ่น หวานๆ ใสๆ มันเหมาะกับเรา ไม่เหมือนนิยายแนวผู้ใหญ่ที่จะหนักกว่า เต็มไปด้วยเรื่องสาหัสสากรรจ์กว่า พ่อแม่แยกทาง โดนทำร้ายต่อว่า ฉากอีโรติก ซึ่งกลุ่มเป้าหมายเราเป็นเด็กประถมถึงมัธยมปลาย ฉากรุนแรงวาบหวาม จะถูกสกรีนก่อน จับมือ โอบกอด จุ๊บกันได้ แต่ถึงขั้นมีอะไรกัน น้อยมากที่จะได้ ถ้าได้ พระเอกนางเอกต้องแต่งงานกันก่อน เรื่องผิดศีลธรรมนี่ห้ามเลย”

แสตมป์เบอรี่ บอกว่า เด็กสมัยนี้โตเร็วมาก มีวิจารณญาณสูง

“ก็สอนน้องๆ โดยการเขียนให้เห็นผลของตัวละคร เช่น ไปแย่งแฟนเขา นอกใจ เล่นไม่ซื่อ โกหก หรือพูดจาทำร้ายจิตใจคนรัก จะได้รับผลกลับมายังไง สอดแทรกลงไปมากกว่า เพราะคนอ่านวัยรุ่นมักซึมซับได้ดีกว่าพูดสอนกันตรงๆ”

สาวเอย...ไฉนถึงหลงใหล ‘นิยายโรแมนซ์’

 

ทุกวันนี้แสตมป์เบอรี่เปรียบดั่งซูเปอร์สตาร์อันดับต้นๆ ของวงการนิยายรักวัยใส สามารถเลี้ยงตัวเองได้ด้วยงานเขียนเพียงอย่างเดียว ทั้งยังติดต่อแฟนคลับ ให้กำลังใจ แนะนำเคล็ดลับการเขียน แม้กระทั่งให้คำปรึกษาเรื่องทั่วไปแก่คนอ่านผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวอยู่เสมอ

“คนมาโพสต์ในแฟนเพจเยอะ ส่วนใหญ่จะปรึกษาปัญหาความรัก มันไม่ใช่หน้าที่เรา ไม่เก่งเรื่องนี้ ไม่ใช่ศิราณี เต็มที่ก็พยายามพูดให้เป็นกลาง ให้กำลังใจมากกว่าแนะนำ”

ความฝันของนักเขียนสาวสวยคนนี้ คือ การที่นิยายที่เธอเขียนถูกนำไปพัฒนาเป็นละคร หรือซีรี่ส์ทางโทรทัศน์

“การอ่านนิยายรักจะไม่เสียเวลาเปล่าเลย ถ้าคนอ่านรู้จักนำประโยชน์ที่ได้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน นอกจากความสนุกสนานบันเทิงแล้ว ยังได้แง่มุมดีๆ แง่คิดดีๆ ด้วย”

จะเมื่อวาน วันนี้ หรือวันข้างหน้า คงเห็นแล้วว่าแนวโน้มการเติบโตของตลาดนิยายโรแมนซ์ ยังคงได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากนักอ่านวัยรุ่นหญิงและสตรีวัยทำงาน

สาวเอย...ไฉนถึงหลงใหล ‘นิยายโรแมนซ์’

 

เรื่องราวความรักหวานซึ้ง เบาสมอง ทว่าเปี่ยมด้วยสาระคุณค่า สิ่งเหล่านี้เองที่จะนำพาสาวๆ ออกจากหรือพักจากโลกแห่งความจริง สู่โลกแห่งความฝันและจินตนาการอันสดสวย

ทุกวันนี้ช่องทางที่นักเขียนนำผลงานไปเผยแพร่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ ตามเว็บไซต์ต่างๆ ไม่ว่าเด็กดีดอทคอม นิยายดอทคอม ห้องสมุดดอทคอม ฯลฯ มีการตั้งข้อสังเกตว่านักเขียนวรรณกรรมออนไลน์มีอายุลดลงอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันส่วนใหญ่อายุประมาณ 817ปี สูงสุดไม่เกิน 30 ปี

ข้อมูลจากเว็บไซต์เด็กดีดอทคอม ระบุว่า ในรอบ 12 ปีที่ผ่านมา มีผู้ลงนิยายทั้งหมด 3.2 แสนเรื่อง กว่า 2 แสนเรื่องเป็นนิยายรัก 2 แสน1 ล้านครั้ง คือตัวเลขโดยประมาณของจำนวนผู้เข้าชมนิยายรักออนไลน์ยอดนิยมหนึ่งเรื่อง และ 3,000 คนคือจำนวนความคิดเห็นของผู้อ่าน

นอกจากนี้ ยังมีเว็บไซต์ของสำนักพิมพ์ที่เปิดให้นำผลงานไปนำเสนอได้ ก็ได้รับความสนใจจากนักเขียนที่อยากมีผลงานรวมเล่มเป็นของตัวเองไม่น้อยเลยทีเดียว

หมายเหตุ ขอบคุณนิตยสารไรเตอร์ และคุณกนกวรรณ เปี่ยมสุวรรณศิริ ที่เอื้อเฟื้อข้อมูล

ข่าวล่าสุด

อีลอน มัสก์ สร้างสถิติเป็นคนแรกของโลกที่รวยเกิน 700,000 ล้านดอลลาร์