พญ.วรรณวิมล วรรณรักษ์ งานที่รักคือตอบโจทย์ความสวยงาม
การทำงานที่ต้องอัพเดตอยู่กับวิทยาการใหม่ๆ ในเรื่องความสวย ความงาม อยู่ตลอดเวลา คือความสนุกท้าทาย
โดย...ปอย ภาพ กิจจา อภิชนรจเรข
การทำงานที่ต้องอัพเดตอยู่กับวิทยาการใหม่ๆ ในเรื่องความสวย ความงาม อยู่ตลอดเวลา คือความสนุกท้าทาย แล้วการไปเทกคอร์สเกี่ยวกับความสวยทั้งในเกาหลี เมลเบิร์นออสเตรเลีย และอีกหลายประเทศ ก็ยิ่งเป็นงานที่เปิดเทรนด์โลกกว้าง พญ.วรรณวิมล วรรณรักษ์ แพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านผิวพรรณ รมย์รวินท์คลินิก หรือที่คนไข้ความงามเรียกกันคุ้นเคยกับนิกเนม “คุณหมอแวว” คนสวย ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่าคุณหมอรูปร่างสูงระหง ใบหน้าสวยใสกิ๊ก แลดูอ่อนเยาว์ เป็นคุณแม่ลูกแฝดสองสาวน้อยน่ารัก คุณหมอแววทำหน้าที่เวิร์กกิ้งมัมอย่างสดใส มีพลังเกินร้อยทุกวัน
หลังเรียนจบปริญญาตรี คณะแพทยศาสตร์ และปริญญาโท ด้านผิวหนัง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแล้ว คุณหมอแวว บอกว่า การเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมใหม่ๆ ต้องขยันเรียนรู้บ่อยๆ เนื่องจากวิทยาการทางการแพทย์ด้านผิวพรรณและความงามเจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็วมาก เพื่อนำความรู้มาพัฒนาในการรักษาคนไข้ได้อย่างถูกวิธีและทันต่อยุคสมัย
“ความที่ดิฉันเป็นหมอสกินดูแลผิวพรรณ จึงให้ความสำคัญกับการดูแลผิวหน้ามากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง แล้วเราก็ต้องยอมรับนะคะว่าหลังจากมีลูกแล้วผิวก็จะไม่ใสเหมือนเดิม แล้วอากาศบ้านเราก็หลีกเลี่ยงแสงแดดได้ยาก ซึ่งดิฉันก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรมากนะคะกับเรื่องนี้ ว่าใบหน้าต้องขาวใสผ่องแบบนั้น ก็อาจมีกระบ้าง แต่จะต้องใส่ใจทรีตเมนต์เป็นประจำ 2 อาทิตย์ต่อ 1 ครั้ง เพราะเราเป็นหมอก็เหมือนเป็นภาพลักษณ์ในงานที่ทำ และสิ่งที่หมอให้ความสำคัญใส่ใจมากที่สุด คือการดูแลให้สุขภาพดีจากภายในค่ะ ซึ่งก็จะส่งผลต่อผิวพรรณภายนอกด้วยค่ะ ทั้งผิวทั้งเส้นผมต้องสวยนะคะ จึงจะดูดีในภาพรวม ถ้าสุขภาพไม่ดีผิวและผมก็ไม่มีทางสวยสดชื่นได้นะคะ การพักผ่อนก็สำคัญมากเช่นกันค่ะ การเป็นคุณแม่ก็อาจทำให้เวลานอนไม่ถึง 8 ชั่วโมง แต่หมอก็นอนหลับได้สนิท ไม่เครียดค่ะ (บอกพร้อมรอยยิ้ม)
การกินอาหาร กินผัก ผลไม้ สำคัญนะคะ ดื่มน้ำวันละอย่างน้อย 1 ขวดลิตร กินฟิชออยล์ที่มีโอเมก้า 3 วิตามินซี กินไม่ได้แค่ความสวยนะคะ แต่ได้ทั้งสุขภาพที่ดีตามมาด้วยค่ะ ตอนที่หมอไปเทกคอร์สในต่างประเทศ หมอโดยส่วนใหญ่ไม่แต่งหน้ากันเลยนะคะ เหมือนกับว่าจะให้ความสำคัญกับสุขภาพภายในที่ดีมากกว่า
นอกจากผิวพรรณ การดูแลในเรื่องเส้นผมก็กำลังเป็นเทรนด์ใหม่ที่คนไทยเริ่มสนใจกัน โดยใช้เทคนิคปลูกรากผมด้วยเข็มแท่งเล็กๆ เจาะไปที่หนังศีรษะทีละรูๆ เข็มไม่แหลมไม่น่ากลัวหรอกค่ะ (หัวเราะ) เทคโนโลยีเป็นการพัฒนาการของเดิมๆ ที่อาจต้องตัดหนังศีรษะ ดิฉันทำงานกับนวัตกรรมเหล่านี้ เราก็รู้สึกถึงความท้าทายและสนุกตามไปด้วย และทำให้ต้องหาความรู้ใหม่ๆ อัพเดตอยู่เรื่อยๆ คนไข้บอกหมออย่าไปเรียนนานนะ เพราะต้องบินไปเทกคอร์สสั้นๆ ต่างประเทศอยู่เสมอ
หมอไทยไปเกาหลีบ่อยค่ะ เพราะมีนวัตกรรมใหม่ตลอดเวลา หมอก็ตามไปเรียนเพื่ออัพเดต แล้วจากที่แต่ก่อนถ้าเกาหลีมีอะไรใหม่คนไทยก็ต้องรออีก 3 ปี แต่ตอนนี้ไม่ต้องรอแล้วนะคะ อะไรที่ใหม่ในเกาหลีก็ใหม่ในบ้านเราเช่นกัน คนในยุคนี้ต้องการการตอบโจทย์ความสวยงามที่ปลอดภัยสูงสุด สวยโดยไม่ต้องใช้การผ่าตัดค่ะ” หมอแวว บอกเล่าพร้อมรอยยิ้ม บุคลิกเรียบร้อย ซึ่งเมื่อถามถึงสไตล์การแต่งกายของคุณหมอคนสวย ก็ได้รับคำตอบในเชิงออกตัวพร้อมเสียงหัวเราะใส
“คนรอบข้างบอกค่ะว่าหมอชอบแต่งตัวซ้ำๆ แบบเดิมๆ ชอบลูกไม้ก็จะใส่อยู่อย่างนั้น หมอแต่งตัวเชยค่ะ (หัวเราะ) ไม่ค่อยมีหัวเรื่องมิกซ์แอนด์แมตช์อะไรเลย จึงตัดปัญหาด้วยการเลือกเดรสตัวเดียวไปเลย เลือกเดรสแพตเทิร์นเนี้ยบๆ มีกิมมิกน่ารักๆ เช่น โบ หรือสีสันสดใส ก็จบแล้ว เพราะเครื่องประดับด้วยหน้าที่การงานก็ใส่แล้วไม่คล่องตัวนัก แหวนแต่งงานสามียังบ่นว่าไม่ค่อยใส่ คือตอนเช้าสามีจะเป็นคนจัดเตรียมของแต่งตัวพวกนี้ให้ จัดวางเป็นเซตอย่างมีระเบียบที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง แต่ปรากฏว่าหมอก็ลืม หรือใส่มาแต่ต้องถอดเก็บไว้ในกระเป๋า เพราะงานหมอต้องจับใบหน้าคนไข้สวมถุงมือและต้องล้างมืออยู่ตลอดเวลาเลยค่ะ” หมอแวว บอกพร้อมเสียงหัวเราะ
พญ.วรรณวิมล อธิบายว่า อาชีพหมอความงาม คนทั่วไปอาจมองว่างานไม่หนักหนาเท่ากับหมอสาขาอื่นๆ แต่ถ้ามองด้วยความรับผิดชอบก็คืองานที่หนักไม่แพ้กัน
“ยิ่งคนไข้ที่มาหาหมอสาขานี้จะยิ่งติดหมอนะคะ บางคนมาหากันจนเป็นเหมือนญาติพี่น้องกันไปเลยก็มีค่ะ (หัวเราะเบาๆ สวยๆ) ดิฉันทำงานโดยการเอาใจใส่เขาไปด้วยให้เต็มที่ ซึ่งก็จะทำให้รู้สึกว่าเราเต็มที่กับเขาจริงๆ นะคะ การทำให้ดีที่สุดเป็นงานยากที่หมอพยายามรักษามาตรฐานไว้
คำถามที่ถามว่าทำไมจึงอยากเป็นหมอ? ดิฉันเพิ่งมาได้คำตอบก็ตอนไปใช้ทุนที่ จ.กาฬสินธุ์ หลังเรียนจบ ซึ่งตอนเลือกเอนทรานซ์เข้าคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็เพราะเด็กที่เรียนโรงเรียนเตรียมอุดมฯ โดยส่วนใหญ่ก็เลือกเรียนอยู่ 23 คณะ หมอ วิศวะ นี่มาอันดับแรก และเลือกเป็นหมอกันครึ่งห้องแล้ว แต่ด้วยวิชาเลขคะแนนออกมาเน่ามากๆ ก็เลยต้องเลือกเอนท์แพทย์ แล้วเมื่อมาทำงานใช้ทุน ทำให้เราเห็นได้ชัดเจนว่าได้ช่วยเหลือคนอื่น ซึ่งเป็นความสุขในการทำงานอย่างมาก พอมาเป็นหมอผิว คนไข้เดินออกจากคลินิกอย่างมั่นใจ หมอก็รู้สึกว่าทำให้คนมีความสุข เราก็มีความสุขด้วยเช่นกันค่ะ
ส่วนอีกหน้าที่ดิฉันมีลูกสาวแฝดตอนอายุขึ้นเลขสามแล้วค่ะ เป็นแฝดคนละฝา กำลังน่ารักเลยค่ะ (บอกพร้อมรอยยิ้มสดใส) ซึ่งเป็นแฝดธรรมชาติ ไม่ได้ทำกิฟต์นะคะ ตอนไปอัลตราซาวด์ก็เห็นว่ามีจุดเล็กๆ สองวง หมอจึงทราบว่าได้ลูกสาวแฝด ส่วนแม่ก็แพ้ท้องหนักตั้งแต่เดือนที่ 2 เลยค่ะ ลูกสาวฝาแฝดก็น่ารักดีนะคะ แฝดคนละฝาหน้าตาคล้ายๆ กัน ไม่เหมือนกันเป๊ะ แต่บางครั้งหมอก็มีงงๆ เหมือนกัน (หัวเราะร่วน) ก็ต้องเลี้ยงหนักเป็น 2 เท่า ซึ่งดิฉันโชคดีมากๆ ที่ได้สามีช่วยทุกอย่าง ตั้งแต่อาบน้ำ แต่งตัว แล้วคุณพ่อก็ทำได้ดีกว่าคุณแม่ด้วยค่ะ อาบน้ำลูกนี่สะอาดมาก หมอสู้ไม่ได้เลย คือหมอใจดี ไม่ดุ (ยิ้ม) ก็เลยอาบน้ำลูกที่พร้อมจะเล่น ใช้เวลานานมากๆ แต่สามีดุค่ะ อาบแป๊บเดียวสวยสะอาดทั้งคู่ การเป็นคุณแม่ทำให้เวลาส่วนตัวหายไปบ้าง แต่ก็มีความสุขใจที่ได้เห็นลูกเติบโต” พญ.วรรณวิมล บอกพร้อมรอยยิ้มสวยๆ ใสๆ ทิ้งท้าย
พญ.วรรณวิมล วรรณรักษ์
เรียนจบปริญญาตรี คณะแพทยศาสตร์ และปริญญาโท ด้านผิวหนัง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแล้ว คุณหมอแววยังขยันเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมใหม่มาพัฒนาในการรักษาคนไข้ได้อย่างถูกวิธีและทันต่อยุคสมัย เนื่องจากวิทยาการทางการแพทย์ด้านผิวพรรณและความงามเจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็วมาก
เกิด 8 ก.พ (สงวนปีเกิดไว้ให้ทายอายุกันนะคะ)
สมรส : พ.ต.ท.สันติ วรรณรักษ์ รอง ผกก.ป.สภ.สำโรงใต้ จ.สมุทรปราการ
บุตรธิดาฝาแฝด สาวน้อยวัย 5 ขวบ ด.ญ.สิริมณี วรรณรักษ์ (เพชร) ด.ญ.สิริกานต์ วรรณรักษ์ (พลอย)
“วันจันทร์และพฤหัสฯ เจอคุณหมอแววได้ที่รมย์รวินท์คลินิก พารากอน ดูแลคนไข้เรื่องเอนไทเอจจิ้ง อังคารอยู่เซ็นทรัล ลาดพร้าว วันพุธเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ วันศุกร์เซ็นทรัล ชิดลม วันเสาร์ เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า” แฟนคลับคุณหมอแววโปรดทราบโดยทั่วกัน


