posttoday

โจอี้ บอย สนามยิงธนูคือความสุข

19 ตุลาคม 2556

จากเจ้าพ่อเพลงแร็ปของเมืองไทย สู่การเป็นเจ้าของค่ายเพลง ผู้กำกับหนัง จนกระทั่งเป็นหนึ่งในโค้ชรายการ เดอะ วอยซ์

โดย...ตุลย์ จตุรภัทร ภาพ กิจจา อภิชนรจเรข

จากเจ้าพ่อเพลงแร็ปของเมืองไทย สู่การเป็นเจ้าของค่ายเพลง ผู้กำกับหนัง จนกระทั่งเป็นหนึ่งในโค้ชรายการ เดอะ วอยซ์ ที่ตอนนี้เดินทางมาถึงซีซั่นที่ 2 แล้ว หากแต่ภาพจำหนึ่งที่ใครหลายคนมักคุ้นเคยกันดี นั่นคือการเป็นเพลย์บอยขาปาร์ตี้ที่เห็นได้ตามสถานที่เที่ยวกลางคืน แต่นั่นมันก็เป็นวิถีชีวิตที่เราอาจเห็นเพียงแค่ภาพ แต่อาจไม่ได้รู้จักตัวตนของเขาอย่างแท้จริงสักเท่าใดนัก

หากแต่วันนี้ ตัวตนของ “โจ้อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต” หรือที่เรารู้จักกันดีในนาม “โจอี้ บอย” เขาคือนักร้องที่เป็นนักกีฬา เป็นขาปาร์ตี้ที่จัดสรรเวลาเพื่อมาเล่นกีฬาได้อย่างลงตัว จนสามารถลงแข่งขันและคว้าเหรียญรางวัลมาได้อย่างภาคภูมิ และวันนี้เขากำลังจะพาเราไปรู้จักตัวตนของเขา นั่นคือการเล่นกีฬายิงธนู ณ สนามยิงธนู Archery Thai ที่อยู่ในสนามกอล์ฟออลสตาร์ ใกล้แยกเหม่งจ๋ายนั่นเอง

“จุดเริ่มต้นคือบุดดาเบลสพามาเล่นที่นี่ เขาชวนมาหากิจกรรมอะไรทำ แล้วธนูก็เป็นของเล่นที่เราเล่นสมัยเด็กๆ ที่เวลาเราถือคันธนูหรือได้ยิงธนู เราจะรู้สึกเท่มาก แล้วช่วงนั้นผมสนใจกีฬา เล่นกีฬาอย่างพารามอเตอร์อยู่แล้วด้วย เขาเลยพาผมมาลองยิงธนูที่นี่ ได้ลองยิงแล้วก็รู้สึกว่ามันใช่ เลยตัดสินใจเรียน พอมาเรียนแล้วก็สนุกดี”

โจอี้ บอย สนามยิงธนูคือความสุข

 

โจอี้ บอย เผยว่า ความสนุกมันจะเริ่มมาตอนที่เราเริ่มจับจังหวะได้ แล้วยิงโดนเป้า “ผมชอบกีฬาที่ใช้ความแม่นยำ ซึ่งกีฬายิงธนูก็คือหนึ่งในนั้น อย่างคันธนูของผมจะเป็นแบบโบราณที่เอาไว้ล่าสัตว์ ผมว่ามันเป็นคันธนูที่มีความคลาสสิก มีความดั้งเดิม และมีความเป็นธรรมชาติดี”

แม้เขาจะเริ่มต้นจากคันธนูแบบโบราณ แต่มันก็เป็นคันธนูที่ทำให้เวลายิงมักเกิดอาการบาดเจ็บได้โดยง่าย “การยิงธนูมักใช้กล้ามเนื้อจากหลังค่อนข้างเยอะ ใช้แรงมหาศาลทีเดียว แค่ยืนยิงเฉยๆ นี่เหงื่อแตกเลยนะ เวลายิงแต่ละครั้งควรยิงไม่เกิน 100 ดอก จะกำลังดี”

แม้การยิงธนูจะใช้แรงมากมายแค่ไหน แต่สิ่งที่เขาได้รับจากการยิงธนู นั่นคือ การได้สมาธิ “กีฬาชนิดนี้ใช้สมาธิสูงมาก เหมือนร่างกายเราเป็นส่วนหนึ่งส่วนเดียวกับคันธนู เราต้องไปด้วยกัน”

นอกจากนี้ โจอี้ บอย ยังได้สังคม ได้เพื่อน ได้มิตรภาพ และทำให้เขาได้มีจุดเชื่อมต่อไปยังกิจกรรมอื่นๆ จากกลุ่มคนที่มาพบปะสังสรรค์กันที่นี่

“ที่นี่เป็นที่ที่เราได้มีจุดเชื่อมต่อไปยังกิจกรรมอื่นๆ เช่น คนที่มายิงธนู เขาก็ยังเป็นคนที่สนใจธรรมะ ทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องธรรมะจากคนเหล่านี้”

หากถามถึงปรัชญาของการยิงธนูแล้ว สำหรับ โจอี้ บอย ปรัชญาที่เขาได้รับ มันคือการได้เรียนรู้ว่า กีฬายิงธนูเป็นกีฬาที่พบเจอความผิดพลาดได้ง่ายมาก เพราะฉะนั้นเราต้องนิ่งที่สุด กำหนดลมหายใจให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะยิงได้ผิดพลาดน้อยที่สุด

“เมื่อเทียบกับความเป็นคน คนเราย่อมต้องมีความผิดพลาด แต่เมื่อไรที่เราผิดพลาดน้อยลงเรื่อยๆ เราจะดีงามมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนถ้าเราซ้อมยิงธนูบ่อยๆ เราจะมีความผิดพลาดน้อยลง การแข่งขันคือทำยังไงให้ผิดพลาดน้อยที่สุด เพื่อเข้าเป้าให้ได้มากที่สุด”

โจอี้ บอย สนามยิงธนูคือความสุข

 

สำหรับการลงแข่งขัน เขาเริ่มต้นลงสนามแข่งเก็บคะแนน ณ สนามยิงธนูแห่งนี้ จนสามารถคว้าเหรียญทองแดงใน “Tradition Princess Cup” และเหรียญเงิน กีฬาทีมชาติ ในฐานะทีม กทม.มาแล้ว

“ล่าสุด ผมได้ไปแข่งขันยิงธนูในป่าจำลอง ในงานสยาม 3D ซึ่งใช้เป้ายิงเป็นตุ๊กตายาง ผมว่าการแข่งแบบนี้มันทำให้เรายิงทั้งระยะใกล้ ระยะไกล ทำให้ต้องอาศัยความคุ้นเคย และต้องรู้จักคันธนูและลูกธนูของเราให้ดี เราต้องรู้ว่าจะกะระยะแค่ไหน ยิงอย่างไร คล้ายๆ การยิงในเกมแองกรี้ เบิร์ด ซึ่งมันสนุกดีนะ เหมือนได้เดินป่าล่าสัตว์จริงๆ”

สำหรับผลงานในปัจจุบัน นอกจากการเป็นโค้ชรายการเดอะ วอยซ์ เรากำลังมีผลงานเพลงแนวอิเล็กทรอนิกส์ แดนซ์ มิวสิก ที่นำท่อนฮุกเพลง “เมียไม่มา เมียไม่มี” ของ ยอดรัก สลักใจ มาใส่ไว้ในเพลง “เมียไม่มี” ซึ่งกำลังได้รับความนิยมตามสถานที่เที่ยวกลางคืนอยู่ในขณะนี้

“เหตุผลที่ผมเลือกมาเล่นกีฬาควบคู่กับการทำงานเพลง ผมว่า ผมได้ความรู้สึกสองอย่างในเวลาเดียวกัน กีฬาทำให้เราได้เข้าสู่สนามฝึกซ้อมจนก้าวเข้าสู่สนามแข่ง ได้เรียนรู้การแข่งขัน แต่กับงานเพลง ทำให้เราได้เรียนรู้การทำงานศิลปะ ที่ตัดสินกันไม่ได้ว่าใครเก่งกว่าใคร ใครดีกว่าใคร งานศิลปะไม่ควรเอามาซ้อนทับกับการแข่งขันกีฬา เพราะมันมีแนวทางและมีกฎกติกาของใครของมัน แต่ที่แน่ๆ เมื่อเราได้อยู่ในสนามกีฬา ไม่ว่าจะกีฬาใดก็ตาม เราจะค้นพบความสุขที่ลึกล้ำ ซึ่งไม่ต่างจากความสุขที่ได้ไปอยู่ตามคอนเสิร์ตต่างๆ ผมคิดว่า ผมค้นหาความสุขที่เป็นสุขจริงๆ ของผมได้จนเจอแล้วครับ”

ข่าวล่าสุด

ญี่ปุ่นเตรียมเดินเครื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดของโลกอีกครั้ง หลังเหตุฟุกุชิมะ 15 ปี