เจย์ พาร์ค ในวันโชว์เดี่ยว
จากสมาชิกวงทูพีเอ็มมาสู่ศิลปินเดี่ยว “เจย์ พาร์ค” (Jay Park) หรือ พัคเจบอม น่าชื่นชมด้วยความสามารถอันหลากหลาย
โดย...คุณมัลล์ ภาพ เสกสรรค์ โรจนเมธากุล
จากสมาชิกวงทูพีเอ็มมาสู่ศิลปินเดี่ยว “เจย์ พาร์ค” (Jay Park) หรือ พัคเจบอม น่าชื่นชมด้วยความสามารถอันหลากหลาย ทั้ง แร็ปเปอร์ นักเต้นบีบอย นักแต่งเพลง ทำดนตรี โปรดิวเซอร์ เรียกได้ว่า ถ้าเป็นงานของตัวเอง เจย์ พาร์ค ควบรวมเบ็ดเสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์
วันนี้ เจย์ พาร์ค เป็นศิลปินที่ทั่วโลกจับตามอง เพราะความสำเร็จของเขาไม่ได้เกิดขึ้นแค่ที่ประเทศเกาหลีเท่านั้น ยืนยันได้จากบทเพลงที่ประสบความสำเร็จและจากเวิลด์ทัวร์ ที่ต้องบอกว่าประเทศที่ไปนั้นไม่ธรรมดา ทั้งอังกฤษ เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี ฝรั่งเศส ฯลฯ
นับเป็นเวลา 3 ปีที่ไม่ได้มาทำการแสดงที่เมืองไทย ครั้งนี้เขากลับมาอีกครั้งกับงานแฟนมีตติง “เจย์ พาร์ค ไอ ไลค์ ทู ปาร์ตี้ ทัวร์ ไลฟ์ อิน แบงคอก 2013” จัดโดย บริษัท อาดามัส เวิลด์ เมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา
เจย์ พาร์ค หยอดคำหวานใส่เจย์วอล์กเกอร์ชาวไทยทันทีว่า “ผมคิดถึงมาก เมืองไทยเป็นอีกประเทศที่ผมรัก ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้มานานมาก มาครั้งนี้ผมก็จะโชว์พิเศษให้เต็มที่ มีเซอร์ไพรส์ให้ได้ดูกันแน่นอน”
ความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับเจย์ พาร์ค เรียกว่าเจ้าตัวคงปลื้มปริ่มเอามากๆ เพราะปลุกปั้นมากับมือตัวเองแทบจะทั้งหมด นอกจากนี้เพลงของเขายังเปิดตัวได้อย่างสวยงามทุกครั้ง เพราะสามารถขึ้นสู่ชาร์ตบิลบอร์ดได้ เช่น มินิอัลบั้ม Take A Deeper Look เมื่อปีที่แล้ว ปีนี้อัลบั้มแรกอย่างเป็นทางการ “New Breed” ก็ประสบความสำเร็จบนชาร์ตเพลงบิลบอร์ดเช่นกัน ด้วยการคว้าแชมป์ใน US itunes R&B/Soul Chart อยู่บนท็อป 5 ของ Australian and Japanese itunes R&B/Soul Charts นอกจากนั้นยังอยู่ในอันดับ 4 ของ US Billboard World Album Chart
ตอกย้ำความสำเร็จระดับโลก ด้วยเพลง “I Like To Party” ที่เจย์ พาร์ค แต่งเนื้อร้องร้องเอง เรียกว่าดังแรงดังนานหลายเดือนเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะติดชาร์ตบิลบอร์ดแล้ว เพลงนี้ยังเป็นเพลงตอนจบของหนังเรื่อง “After Earth” ของนักแสดงชื่อดังระดับโลก “วิล สมิท” (Will Smith) โดยถูกเลือกโดยตรงจาก วิล สมิท และลูกชายของเขา (Jaden Smith)
“เป็นความประทับใจมาก นี่ผมฝันไปหรือเปล่า เป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ร่วมงานกับ วิล สมิท เขาคือนักแสดงที่ผมชอบมาตั้งแต่เด็ก ผมคลั่งไคล้เขามาก ฉายาของผม เฟรช พรินซ์ ออฟ โซล (Fresh Prince of Seoul) ผมก็ตั้งเอง มาจากผลงานเรื่องแรกของเขา ซิตคอมเรื่อง The Fresh Prince of Bel Air (ช่องเอ็นบีซี ปี 1996)”
เจย์ พาร์ค พูดถึงการทัวร์ยังประเทศต่างๆ ว่า “แน่นอนว่ามันช่วยในการเขียนเพลงของผม เพราะผมได้เรียนรู้วัฒนธรรมของทุกที่ ทำให้ใจกว้าง มีความคิดที่กว้างขึ้น เป็นประสบการณ์ที่นำมาใช้ในการทำงานได้มาก”
ส่วนแรงบันดาลใจในการแต่งเพลง ก็มาจากการใช้ชีวิต “ผมเป็นคนฟังเพลงเยอะมาก และเพลงก็มาจากประสบการณ์ชีวิต ผมเชื่อว่าถ้าเราทำเต็มที่มันก็จะออกมาดี”
บทเพลงไหนที่บ่งบอกถึงความเป็นเจย์ พาร์ค ที่สุด เจ้าตัวตอบว่า “เพลง Nothin` On You แต่จริงแล้วผมไม่อยากเน้นว่าเป็นเพลงไหน เพราะทุกเพลงผมเขียนเนื้อเพลงทั้งหมดของผมเอง ซึ่งมันจะโยงกับประสบการณ์ส่วนตัวของผม และผมอยากให้ทุกคนได้ฟังทุกๆ เพลงของผมแล้วนึกถึงเจย์ พาร์ค ว่าเป็นผู้ชายที่เก่งมากกว่า ”
ตอบทันควันกับคำถามที่ว่า เส่นห์ของเจย์ พาร์ค คืออะไร “นี่แหละผม มีเสน่ห์หลายอย่าง เต้น ร้อง แร็พ ทำอะไรได้หลายอย่าง”
นอกจากทำเพลงให้ตัวเองแล้ว เจย์ พาร์ค ยังแต่งเพลงและเป็นโปรดิวเซอร์ให้ศิลปินคนอื่นด้วย ล่าสุดก็กลุ่มศิลปินไทยชื่อวง ไกอา (Gaia) เป็นศิลปินวงแรกในสังกัดของเวิร์คพอยท์ “เมื่อหลายอาทิตย์ก่อนผมมาไทย มาเดบิวมาร่วมฟีเจอริงกับวงไกอา ยังไงก็ฝากติดตามผลงานนี้ด้วย”
ถามถึงค่ายเพลงที่ก่อตั้งขึ้นมาเอง ชื่อ “AOMG” (ย่อมาจาก Above Ordinary Music Group) เป็นค่ายเพลงฮิปฮอป โดยความตั้งใจของเขาเพื่อจะก้าวไปสู่ส่วนอื่นๆ ในวงการเพลง รวมถึงช่วยเหลือรุ่นน้องที่มีความสามารถและมีความฝันเหมือนกับเขา “ผมเป็นซีอีโอของบริษัท (หัวเราะ) เขียนเพลงให้ศิลปินด้วย มีทั้งฮิปฮอป อาร์แอนด์บี ในวันที่ 17 ต.ค.นี้ ก็จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ฝากเนื้อฝากตัวด้วย”
ส่วนงาน เจย์ พาร์ค ไอ ไลค์ ทู ปาร์ตี้ ทัวร์ ไลฟ์ อิน แบงคอก 2013 ก็จบลงท่ามกลางความประทับใจของเจย์วอล์กเกอร์ชาวไทย ช่วงที่เป็นสมาชิกวงทูพีเอ็ม เจย์ พาร์ค เป็นขวัญใจของแฟนคลับ และเป็นที่ชื่นชอบจดจำในเรื่องของผู้ชายที่มีสรีระแข็งแรงสวยงาม จนถึงวันนี้เขาก็ยังไม่เปลี่ยนไป แถมยังดูแข็งแรงขึ้นมากๆ อีกด้วย เพราะแฟนๆ ต่างพิสูจน์ด้วยสายตาตัวเองแล้ว ก็ก่อนจากกันในบทเพลงสุดท้าย เจย์ พาร์ค เล่นถอดเสื้อโชว์ซิกซ์แพ็ก กล้ามแน่นๆ เรียกเสียงกรี๊ดส่งท้ายดังสนั่น
“เจย์ พาร์ค” เป็นอดีตลีดเดอร์วงทูพีเอ็ม บอยแบนด์เกาหลีใต้ ก่อนลาออกจากวงเมื่อปี 2010 ในช่วงนั้นมีการจัดทำโพลสำรวจความคิดเห็นอยากให้เหตุการณ์ใดเกิดขึ้นในวงการบันเทิงเกาหลีใต้ในปี ค.ศ. 2010 มากที่สุด ปรากฏว่าจากเหตุการณ์ลาออกจากวงของแจบอม ทำให้ได้รับการแสดงความคิดเห็นว่าอยากให้เขากลับมาอีกครั้ง แต่เส้นทางของเจย์ พาร์ค ได้ก้าวเดินออกมาไกลกว่านั้นมากเกินกว่าจะหวนคืน
หลังจากประกาศลาออกจากวง เขากลับไปอยู่บ้านเกิดที่ซีแอตเติล สหรัฐ และใช้เวลาว่างในการฝึกซ้อมเพิ่มพูนความสามารถด้านดนตรี ออกไปแข่งขันบีบอยในนามของกลุ่ม Art of Movement (AOM) มีสมาชิกคือ (เจย์, โทนี่, จูเนียร์, Phe LaRoc, เฮฟ, ชาช่า, Neil, กิล, บาวเซอร์, แดเนียล) จนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นศิลปินเดี่ยวสมความตั้งใจของเขา ในชื่อ “เจย์ พาร์ค” ได้สำเร็จ ซึ่งอยู่สังกัดสังกัด Sidus HQ Entertainment ภายใต้การดูแลของ บริษัท Digital Media Wire Entertainment (อเมริกา) ด้วย


