posttoday

ดอกไม้ในสามพราน

12 ตุลาคม 2556

เมื่อ 5 ปีก่อน วงการตำรวจของไทยได้ชื่อ “นักเรียนนายร้อยตำรวจหญิง” เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ที่ก่อตั้งมายาวนานถึง 107 ปี

โดย...กันติพิชญ์ ใจบุญ, ชัยฤทธิ์ ยนเปี่ยม

เมื่อ 5 ปีก่อน วงการตำรวจของไทยได้ชื่อ “นักเรียนนายร้อยตำรวจหญิง” เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ที่ก่อตั้งมายาวนานถึง 107 ปี เมื่อมีการบรรจุหลักสูตรฝึกฝน เรียน และทำทุกอย่างเหมือนนายร้อยตำรวจชาย ทั้งยิงปืน สืบสวน สอบสวน ปราบปราม ต่อต้านการจลาจล กระโดดร่ม และทุกสิ่งอันเพื่อจะสำเร็จออกมาเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ในชั้นยศนายตำรวจสัญญาบัตร มารับใช้สังคม

ที่ผ่านมาโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน ผลิตนักเรียนนายร้อยตำรวจหญิง 70 นาย ประดับดาว 8 แฉกบนบ่าติดยศร้อยตำรวจตรีหญิง ตั้งแต่ก้าวออกจากรั้วสามพรานแล้ว 1 รุ่น กระจายกันไปทั่วประเทศเพื่อเป็นพนักงานสอบสวนส่วนใหญ่เป็นคดีเด็ก สตรีที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ

ด้วยตัวเลขของนักเรียนที่สำเร็จจากชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายหญิงจากทั่วประเทศจำนวนนับหมื่นๆ คน แต่จำนวนนี้ ทางโรงเรียนฯ ต้องการคนที่ผ่านคุณสมบัติเข้ามาเพียงแค่ปีละ 70 คน เพื่อฝึกความพร้อม เรียน ให้เป็นคนที่มีเกียรติ มีวินัย เพื่อก้าวไปเติบโตในสายอาชีพถึงชั้นยศนายพลตำรวจ

ดอกไม้ในสามพราน

 

@Weekly มีโอกาสได้เข้าไปพูดคุยกับเหล่าดอกไม้เหล็กแห่งรั้วสามพรานรุ่นที่ 2 หรือนักเรียนชั้นปีที่ 4 ปีสุดท้ายที่กำลังจะสำเร็จการศึกษาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เพื่อสืบค้นก้นบึ้งลึกๆ ของหัวใจเหล่านักเรียนนายร้อยตำรวจหญิง ท่ามกลางบทบาทท้าทายที่สำคัญในชีวิตของพวกเธอ ว่าจะกล้าแกร่งเพียงใด

และเนื่องในวันตำรวจไทยที่จะถึงในวันที่ 15 ต.ค.นี้ ...

นักเรียนนายร้อยตำรวจหญิง (นรต.หญิง) วชิรา ธาวนพงษ์ หรือตาล ในวัย 21 ปี นรต.หญิงชั้นปีที่ 4 เป็นรุ่นพี่ใหญ่ที่สุด ดีกรีเธอเป็นถึงนักเรียนบังคับกองร้อยของ นรต.หญิงทั้งหมด บุคลิกเอาจริงเอาจัง ดูมีวินัย ทะมัดทะแมงไม่ต่างจาก นรต.ชาย ด้วยความมั่นใจที่เต็มเปี่ยม จากบ้านที่ จ.สมุทรสาคร เข้ามาสู่รั้วสามพราน เธอตั้งใจแน่วแน่ต้องการเข้ามาเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อยู่ทุกอณูของหัวใจ

“หนูเกลียดตำรวจค่ะ หนูเลยต้องการมาเป็นตำรวจ” คำแรกที่ออกจากปากเธอทำเอาเราถึงกับสะดุ้ง และสงสัยในเหตุผลของเธอยิ่งนัก

ดอกไม้ในสามพราน

 

เพราะที่บ้านมีธุรกิจโรงงาน และภาพที่เธอเห็นจนชินชา คือชายในเครื่องแบบตำรวจเข้ามาขอเงินจากที่บ้านเธออยู่เป็นประจำ เพื่อแลกกับคำอ้างที่ว่าจะดูแลความปลอดภัยต่างๆ และเพื่อความเรียบร้อยของการประกอบธุรกิจ สิ่งนั้นเองทำให้เธอเกิดความคิดว่า ทำไมตำรวจไทยถึงต้องเป็นอย่างนี้ และหากตัวเธอเองได้เป็นตำรวจ จะต้องปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ และพฤติกรรมที่สังคมรังเกียจออกไปให้ได้ และนั่นคือเหตุผลที่เธอเบนเข็มเข้าสู่รั้วสามพราน

“พอลองมาสอบดูก็เลยติด แต่พ่อแม่ก็คัดค้านเพราะที่บ้านก็ไม่ชอบตำรวจเหมือนกัน อีกอย่างก็ค้าขายกันหมดไม่มีใครรับราชการ แต่เมื่อสอบติดแล้วที่บ้านก็เลยยอมให้เรียน และสุดท้ายพ่อแม่ก็ภาคภูมิใจ เพราะลูกเราก็เก่ง จาก 7,000 คน เราเป็นหนึ่งในคนที่ได้เข้ามาเรียน”

นรต.หญิง วชิรา ตั้งปณิธานแน่วแน่ว่าหากไม่สามารถแก้ไขภาพลักษณ์ในวงกว้างของสีกากีได้ อย่างน้อยตัวเองก็ต้องเป็นตำรวจที่ดีและไม่คดโกงใคร เพราะภาพลักษณ์ตำรวจในทุกวันนี้ ก็ทำร้ายความรู้สึกของประชาชน และความเชื่อมั่นที่มีต่อผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ก็แทบจะหมดไปอยู่แล้ว

“ถ้าหากเราเป็นตำรวจที่ไม่ดี ไม่สุจริต ไปช่วยเหลือคนผิด ศรัทธาแห่งศักดิ์ศรีของนายร้อยตำรวจก็จะหมดไป หนูตั้งใจจะเป็นตำรวจที่ดี สุจริต ปฏิบัติตามกฎหมาย ช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่นั่นคือความฝัน”

นรต.หญิง วชิรา บอกอี

ดอกไม้ในสามพราน

กว่า ในสังคมทุกวันนี้ต้องยอมรับกันว่าจะมีตำรวจสีขาวทั้งหมดก็คงไม่ใช่ แต่ยืนยันว่าตัวเองจะไม่เป็นสีดำอย่างแน่นอน และคงเป็น “สีเทา” คือไม่คดโกงใคร และความฝันของเธอในสายงานตำรวจ คือต้องการปฏิบัติหน้าที่สายงานป้องกันและปราบปราม เธอให้นิยามว่า เป็นงานที่ครบเครื่อง อยู่ใกล้ชิดประชาชน และทำงานได้อย่างเต็มที่ ไม่น่าเบื่อเหมือนนั่งในโรงพักอยู่ทุกวัน เพราะงานป้องกันและปราบปราม จะเป็นหน่วยแรกที่เข้าถึงพื้นที่หากเกิดเหตุ นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันก่อนที่จะเกิดเหตุได้อีกด้วย

“ตำรวจหน้าที่หลักคือช่วยเหลือประชาชน อีกส่วนคือมีหน้าที่พัฒนาสังคมด้วย เพราะตำรวจมีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย เหมือนกับเป็นส่วนหนึ่งที่จะตัดสินชะตาชีวิตคนว่าจะอยู่ในเรือนจำหรือไม่ หรือจะมีอิสระอยู่ข้างนอก ดังนั้นคนที่จะเข้าไปอยู่ในคุก ก็คือคนที่ประพฤติผิด คนไม่ดี แต่ไม่ได้ถือว่าเป็นการลงโทษ เพียงแต่เป็นการบำบัดเขาเพื่อกลับคืนสู่สังคม เราก็เป็นหนึ่งในกระบวนการยุติธรรมที่ต้องสร้างให้กับสังคม และยืนยันค่ะ ว่าจะเป็นตำรวจที่ดี” นรต.วชิรา ย้ำในจุดยืน

อย่างที่ใครหลายคนได้กล่าวไว้ “เกลียดอะไรมักได้อย่างนั้น” ข้อความนี้อาจจะจริงบางส่วนสำหรับตัวของ นรต.หญิง วชิรา ที่เธอเกลียดตำรวจ เธอก็ได้มาเป็นตำรวจ แต่คงไม่จริงตรงที่ตำรวจที่เธอเจอเป็นตำรวจที่ไม่ดี แต่เธอจะปรับเปลี่ยนสร้างภาพลักษณ์ให้สีกากีใหม่ ด้วยการรับใช้สังคมอย่างดีที่สุด

ดอกไม้ในสามพราน

 

นรต.หญิง ชนิตา มาไกล หรือโบว์ สาววัย 21 ปี นักเรียนชั้นปีที่ 4 สาวจาก จ.พะเยา มุ่งมั่นฝันใฝ่อยากเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ และเธอก็ได้ก้าวไปตามฝัน ด้วยการสอบตรงติดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ แต่ด้วยที่บ้านซึ่งมีพ่อเป็นตำรวจ และคลุกคลีกับรู้จักอาชีพนี้ดีตั้งแต่เด็ก กอปรกับความคิดของครอบครัวชนบท ที่หากลูกหลานรับราชการ จะช่วยเชิดหน้าชูตาครอบครัวได้ เธอจึงต้องเบนเข็มจากฝันที่จะเป็นครู สู่อาชีพผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

“ตอนมาสอบก็ไม่คิดว่าจะติดหรอกค่ะ เพราะไม่ได้ติวหนังสือเลย ก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไปที่ไม่อยากมาเรียน แต่ที่บ้านอยากให้มาสอบ เพราะคิดว่าอาชีพราชการมีความมั่นคง มีเงินเดือน ไม่ต้องวิ่งหางานตอนเรียนจบ และยังมีสวัสดิการดี จึงยอมทำตามที่ครอบครัวบอก แต่พอมาสอบแล้วเกิดติด และเราได้เห็นความตั้งใจของพ่อแม่ ที่มาส่งทุกครั้งตั้งแต่ตอนสอบข้อเขียน สอบสัมภาษณ์ สอบร่างกาย เลยเปลี่ยนความคิดใหม่ว่าพ่อและแม่คงอยากจะให้เราเรียนจริงๆ จึงตั้งใจตั้งแต่นั้นมา และมันภูมิใจที่ทำให้พ่อแม่รู้สึกภูมิใจในตัวเรา หนูเพิ่งเห็นน้ำตาพ่อแม่ก็ตอนที่หนูสอบติดโรงเรียนนายร้อยฯ นี่แหละค่ะ” นรต.หญิง ชนิตา ฟื้นความหลังก่อนเข้าสู่รั้วสามพราน

ส่วนความฝันที่เธอตั้งเอาไว้ก่อนออกไปปฏิบัติหน้าที่รับใช้สังคม ก็คงไม่ต่างจากเพื่อนๆ ที่เรียนมาด้วยกัน แต่เธอก็ขอสะท้อนสังคมสีกากีว่า แม้จะทราบดีว่านายตำรวจยศสัญญาบัตรเล็กๆ ไม่สามารถไปแก้ไขปัญหาทุกอย่างให้กับประชาชนได้ เพราะสังคมทุกวันนี้โดยเฉพาะวงการสีกากีเป็นพวกมากลากไป แต่ยืนยันว่าจะทำตามหน้าที่ ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน และเชื่อว่าประชาชนก็จะรู้สึกดีกับตำรวจหญิงตัวเล็กๆ คนนี้เช่นกัน

ดอกไม้ในสามพราน

 

“ประชาชนไม่ได้คาดหวังว่าตำรวจจะไปทำอะไรให้พวกเขาดีขึ้นมา ขอเพียงแต่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้เขาเป็นพอ และจะทำตามหน้าที่ ตามอำนาจที่ได้รับมา เพื่อตอบแทนต่อประชาชนให้ดีที่สุด”

นรต.หญิง ชนิตา ยังได้เล่าถึงการเรียนการฝึกในรั้วสามพรานว่า ความอดทนต้องมี เพราะการฝึกที่นี่ทุกอย่างต้องเหมือนกับนักเรียนชายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นยิงปืน กระโดดร่ม การต่อสู้ต่างๆ ที่จำเป็น และวิชาการในด้านต่างๆ

“มีท้อมั้ย ...แน่นอนมันก็ต้องมีค่ะ แต่ด้วยความรู้สึกขณะนี้ไม่เสียใจแม้แต่น้อยที่ได้มาเรียน เหนื่อยมั้ยมันก็เหนื่อย แต่พักแล้วมันก็หาย พร้อมสำหรับวันต่อไป สิ่งเหล่านี้สอนให้เรารู้จักอดทน การฝึกก็เช่นกัน แรงกายอาจจะสู้นักเรียนชายไม่ได้ แต่แรงใจรับรองว่า นรต.หญิง ไม่แพ้แน่นอน และเชื่อได้เลยค่ะว่า นักเรียนที่จบออกไปมีคุณสมบัติพร้อมรับใช้สังคมอย่างแน่นอน”

ว่าที่ผู้หมวดสาว ทิ้งท้ายอีกว่า ทุกวันนี้ผู้หญิงก็สามารถทำอะไรได้ไม่ต่างจากผู้ชาย สามารถมีบทบาทในสังคมได้เช่นกัน อยู่ที่ว่าคุณจะเลือกทางไหนให้เป็นทางที่ดีสำหรับตัวเอง

ดอกไม้ในสามพราน

 

อีกหนึ่งหญิงเหล็กแห่งรั้วสีกากี “จูน” นรต.หญิง กัลย์สุดา จุลประเสริฐ สาวจาก จ.ลพบุรี ด้วยคำพูดที่ฉะฉาน มีความมั่นใจเข้ามารับใช้สังคมด้วยการเป็นตำรวจ แม้แต่เดิม อาชีพรับราชการสีกากี จะไม่ใช่ความฝันของเธอก็ตาม

เจ้าตัวเล่าว่า สอบติดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร หมายมั่นปั้นมือจะเป็นหมอให้ได้ และได้ใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยเหมือนกับคนอื่นๆ แต่ด้วยที่พี่ชายที่เป็นตำรวจต้องมาจบชีวิตลงจากการปฏิบัติหน้าที่ ความหวังเดียวของลูกสาวครอบครัวนี้ที่เหลืออยู่ พ่อของเธอจึงอยากให้ลูกมารับราชการ เพราะจะได้มีสวัสดิการดูแลยามเธอแก่ตัวลง และเธอก็ไม่ได้ทำให้ครอบครัวผิดหวัง หักลำเลี้ยวกลับจากประตูสู่อาชีพหมอ หันเหมาสู่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ

และเมื่อเข้ามาในรั้วสามพราน เธอยอมรับว่า การเรียนที่นี่ให้อะไรหลายอย่าง ทั้งสอนและฝึกในสิ่งที่ตำรวจต้องรู้ ต้องปฏิบัติ และหากมองย้อนกลับไปเธอก็ไม่เคยคิดผิดที่เลือกมาเรียนที่นี่ แต่มองกลับกัน จะรู้สึกเสียดายมากกว่าหากไม่ได้มาเรียนโรงเรียนนายร้อยฯ

“ตอนชั้นปีที่ 3 ได้ไปฝึกงานที่ สน.ทองหล่อ ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวร ทำให้รู้ว่าคนที่มีเรื่องทุกข์ใจอะไรหลายอย่าง คนที่เขาเลือกจะพึ่งพาก็คือตำรวจ แม้เขาจะเกลียดตำรวจมากแค่ไหน แต่เรื่องเดือดร้อนก็ต้องนึกถึงตำรวจ เพราะฉะนั้น เราก็คือที่พึ่งให้กับประชาชน แม้จะไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นตอให้เขาได้ แต่อย่างน้อยช่วยเหลือให้เขาคลายทุกข์ในขณะนั้นที่เขากำลังประสบอยู่ ก็ถือว่าทำหน้าที่ได้ดีแล้ว เพราะอย่าลืมว่า คนแต่งงาน คนมีความสุข คนถูกหวย เขาไม่เข้ามาหาตำรวจหรอก จะมีแต่คนที่มีเรื่องมีปัญหาทั้งนั้นที่มาหา ดังนั้น เราก็ต้องอย่าไปรำคาญ ต้องใส่ใจ คอยช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้เขา”

ดอกไม้ในสามพราน

ดอกไม้ในสามพราน

ดอกไม้ในสามพราน

 

ข่าวล่าสุด

3 ชาติผนึกกำลังทลาย 'KK Park - ชเวก๊กโก' รังใหญ่ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์"