สร้างเสน่ห์ให้ลูกรัก
โดย...อจต. ภาพ คลังภาพโพสต์ทูเดย์
โดย...อจต. ภาพ คลังภาพโพสต์ทูเดย์
ความอ่อนน้อม อ่อนหวาน อ่อนโยน เป็นคุณสมบัติหนึ่งที่พิชิตใจคนมานักต่อนัก ต่อให้บุคคลนั้นๆ มีมานะกล้าและถือตัวแค่ไหน แต่เมื่อเจอสิบนิ้วประนมกรก้มไหว้ ความมีสัมมาคารวะก็อ่อนยวบได้ แต่ความอ่อนน้อมนั้นต้องมาจากใจ แสดงออกอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่การสร้างภาพหลอกคนอื่น นั่นเท่ากับได้สร้างเสน่ห์ให้เกิดขึ้นในตนแล้ว
ในทางกลับกัน ถ้าคนที่ขาดความอ่อนน้อม อ่อนหวาน อ่อนโยน มิหนำแสดงความก้าวร้าว ความไม่เคารพออกมาต่อผู้อื่น หรือต่อผู้ใหญ่ หรือในท่ามกล่างผู้คนจำนวนมาก ก็ถือว่าได้สร้างเสนียดตีตราตนเองให้มีตำหนิ ถ้าเปรียบแบรนด์สินค้าก็เป็นแบรนด์ที่ใครไม่อยากซื้อหามาใช้ เพราะคุณภาพและภาพลักษณ์ไม่ดี
สถานการณ์ : สมมติว่าถ้าลูกของเราสร้างความอับอายให้ผู้เป็นพ่อเป็นแม่บ่อยครั้ง เช่น เวลาที่พาไปไหนมาไหนหรือเข้าสังคมไปเจอผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนของเรา หัวหน้าเรา นายเรา บอกให้เขาสวัสดี แต่เขากลับนิ่งเฉย ไม่ทำตามที่บอก บางทีก็พูดจาไม่มีหางเสียง ไม่มีครับมีผม ไม่มีคะมีขา กับผู้ใหญ่ เราผู้เป็นพ่อแม่ก็คงหน้าเสีย และอับอายจนไม่รู้ว่าจะทำอะไร
ทางออก : เป็นความอับอายสำหรับคนเป็นพ่อแม่แน่นอนถ้าลูกทำตัวอย่างนั้น ไม่ว่าผู้ใหญ่คนนั้นจะคิดหรือไม่คิดก็ตามว่าเด็กคนนี้ไม่มีสัมมาคารวะ ขาดความอ่อนน้อม เราผู้เป็นพ่อแม่ก็คงรู้สึกไม่ดี หรือเสียความรู้สึกได้ แต่พ่อแม่บางคนต้องยอมรับว่าเซนซิทีฟ พอเห็นลูกไม่ทำตามที่บอกก็อาจจะรู้สึกโกรธและเก็บความโกรธไว้มาสะสางกับลูกที่บ้านด้วยการทำโทษต่างๆ นานา อาจด้วยไม้เรียว หรือด้วยคำด่า เสียดสี เหน็บแนมลูกตัวเองเปรียบเทียบกับคนอื่น เช่นว่า ทำไมลูกคนอื่นไม่เป็นแบบนี้ ซึ่งนั่นไม่ชาวิธีการที่พ่อแม่พึงกระทำ แต่สิ่งที่พ่อแม่ควรทำต่อลูก คือ ต้องไม่ใช้อารมณ์ในการสอนลูกและอธิบายให้ลูกฟังว่า การเป็นเด็กมีสัมมาคารวะน่ารักยังไง มีเสน่ห์ยังไง แล้วถ้าขาดสัมมาคารวะจะไม่น่ารักยังไง
อย่างไรก็ดี การที่จะทำให้ลูกเป็นเด็กที่มีความอ่อนน้อม ประพฤติอยู่ในสัมมาคารวะต้องเกิดจากการที่พ่อแม่คอยปลูกฝังอบรมบ่มนิสัยมาตั้งแต่เด็ก เช่น ถ้าจะให้ลูกอ่อนหวานพูดจาไพเราะก็ต้องพูดกับเขาไพเราะ สอนให้เขาพูดมีหางเสียง อยากให้ลูกอ่อนน้อมก็ต้องทำให้เขาเห็น และพยายามส่งเสริมสนับสนุนให้เขาได้ทำในสิ่งดีๆ ที่เป็นการขัดเกลาจิตใจให้เป็นคนอ่อนโยน รู้ดีรู้ชั่ว รู้ถูกรู้ผิด รู้ควรไม่ควร เช่น การพานั่งสมาธิ หรือชวนไปทำบุญ เป็นต้น ถ้าเราสอนเขาและทำให้เขาดูตั้งแต่เด็กอย่างนี้ เชื่อว่าเขาจะทำเองโดยที่พ่อแม่ไม่ต้องสั่งหรือบอกให้ทำ แล้วไม่ต้องกลัวขายหน้า มีแต่จะได้หน้า
Ask the Expert
Q.ดิฉันเป็นพี่สาวคนโตและเป็นโสด น้องสาวห่างกันหลายปี แต่งงานมีลูกชาย 1 คน วัย 8 ขวบ เธอมีปัญหาชีวิตคู่ที่เรื้อรังมาเกือบ 3 ปี แก้ปัญหาไม่จบสักทีสงสารน้องและหลาน เราไม่มีปัญหาเรื่องการเงินดิฉันจึงแนะว่าถ้าแก้ไม่ได้ก็หย่าไปเลย ดิฉันจะช่วยเลี้ยงหลานเอง เธอก็ไม่เด็ดขาดแล้วก็ทุกข์ระทมอยู่นั่น แล้วสามีเธอก็ไม่เข้าท่าเท่าไหร่ ดิฉันจะช่วยน้องไงดีคะ?
A. พญ.ญดา พงษ์กาญจนะ จิตแพทย์ โรงพยาบาลปิยะเวท นับว่าเป็นโชคดีของน้องสาวนะคะที่มีพี่ที่คอยเป็นห่วงและเป็นทุกข์เป็นร้อนด้วยเช่นคุณ แต่ท้ายที่สุดแล้วการตัดสินใจว่าจะเลือกวิธีการแก้ปัญหาแบบไหนเป็นสิ่งที่เจ้าตัวต้องตัดสินใจเอง ในกรณีของน้องสาวคุณไม่แปลกที่เค้าจะไม่เด็ดขาดกับปัญหา เพราะไม่ว่าน้องสาวของคุณจะตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตคู่ต่อหรือตัดสินใจหย่าขาดก็เป็นเรื่องที่ทำให้เจ็บปวดได้ทั้งสิ้น ดังนั้นคงได้แต่ให้เวลาเค้าได้ไตร่ตรองข้อดีข้อเสียของแต่ละทางให้ชัดเจนด้วยตัวเอง สิ่งที่คุณทำได้และคาดว่าคุณได้ทำอยู่แล้วนั่นคือคอยอยู่เป็นกำลังใจให้กับน้องสาวค่ะ หากน้องสาวคุณไม่สามารถก้าวข้ามผ่านไปได้ การปรึกษาจิตแพทย์ก็อาจทำให้ได้มุมมองในการตัดสินใจได้ชัดเจนขึ้นค่ะ
He Said / She Said
กฤชนายแบบ
“สเปกผมคงเหมือนผู้ชายทั่วไปถ้าจะมองใครสักคนต้องเริ่มต้นที่สูง ขาว หุ่นดี แต่ถ้าจะคบจริงจังผมอยากให้เธออย่ามองผมเป็นสัตว์เลี้ยงของเขาก็พอแล้ว”
เบนซ์พนักงานบริษัท
“ชอบผู้ชายอารมณ์ดี อยู่ใกล้แล้วทำให้เราขำได้ ยิ้มได้ มันมีความสุขดีค่ะ ไม่ชอบผู้ชายขรึมเงียบ เพราะเป็นคนเดาใจคนไม่เก่ง ชอบแบบเปิดเผย รู้สึกคบด้วยแล้วไม่ต้องเดาอะไรเยอะ”
Quote (บรรยายภาพ สเตฟาโน กาบานา (คนขวา) และโดเมนิโก โดลเช)
“ความฝันของเราจะต้องสำเร็จแน่ๆ แค่มีพลังงานในการสร้างสรรค์ให้เหลือเฟือ รวมทั้งความตั้งใจจริง แล้วก็อาศัยโชคช่วยด้วยนิดๆ หน่อยๆ น่ะ”
สเตฟาโน กาบานา หนึ่งในดีไซเนอร์ดูโอแห่ง โดลเช แอนด์ กาบานา


