posttoday

รูป–ที่ทราม และที่ประณีต

22 กันยายน 2556

ท่านผู้อ่านที่เคารพ ผู้ที่สนใจธรรมะย่อมเคยได้ยินเรื่องของรูปและนาม อาทิตย์นี้ขอนำเรื่องของรูปมาเพียงส่วนเล็กน้อย

ท่านผู้อ่านที่เคารพ ผู้ที่สนใจธรรมะย่อมเคยได้ยินเรื่องของรูปและนาม อาทิตย์นี้ขอนำเรื่องของรูปมาเพียงส่วนเล็กน้อย จากพระไตรปิฎกคัมภีร์วิภังค์และอรรถกถา ซึ่งอธิบายไว้น่าสนใจ ความย่อดังนี้

“รูป” ซึ่งหมายถึง “รูปธรรม” นั้น สามารถแบ่งได้หลายอย่างต่างกัน สามารถจัดเข้าเป็นหมวดหมู่ เป็นกอง จึงเรียกว่า “รูปขันธ์” ได้ ซึ่งในเรื่องนี้มีการแบ่งรูปเป็น 2 ประเภท เรียกว่า

1.รูปทราม (หีนะ)

2.รูปประณีต (ปณีตะ)

อย่างไรคือ รูปที่ทราม อย่างไรคือ รูปที่ประณีต?

รูปทราม คือ รูปใด ของสัตว์นั้นๆ ที่น่าดูหมิ่น น่าเหยียดหยาม น่าเกลียด น่าตำหนิ ไม่น่ายกย่อง ทราม รู้กันว่าทราม สมมติกันว่าทราม ไม่น่าปรารถนา ไม่น่ารัก ไม่น่าชอบใจ ได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ นี้เรียกว่า รูปทราม

รูปประณีต คือ รูปใด ของสัตว์นั้นๆ ที่ไม่น่าดูหมิ่น ไม่น่าเหยียดหยาม ไม่น่าเกลียด ไม่น่าตำหนิ น่ายกย่อง ประณีต รู้กันว่าประณีต สมมติกันว่าประณีต น่าปรารถนา น่ารัก น่าชอบใจ ได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ นี้เรียกว่า รูปประณีต

หรือพึงทราบรูปทราม รูปประณีต โดยอาศัยเทียบเคียงรูปนั้นๆ เป็นชั้นๆ ไป

จะเห็นได้ว่า คำว่า “รูป” นั้น ไม่ได้หมายถึงสิ่งที่เราเห็นเท่านั้น ยังหมายรวมถึงรูปธรรมอื่นๆ ที่รับรู้ได้ทางทวาร 6 ไม่ว่าจะเป็นเสียง กลิ่น รส หรือสัมผัส

การเปรียบเทียบรูปทราม และรูปประณีต เป็นการอาศัยเปรียบเทียบโดยเฉพาะบุคคล หมายถึงบุคคลที่เป็น “บุคคลปานกลาง” คือ ไม่ได้ใช้ความพอใจของกษัตริย์หรือมหาเศรษฐีมหาศาล หรือของยาจก คนจนลำบากตัดสิน เช่น เนื้อใกล้จะเน่า อาจเป็นอาหารที่อร่อยยิ่ง สำหรับบุคคลยากไร้ตกทุกข์ได้ยาก ดังนั้นต้องใช้บุคคลปานกลาง กำหนดความน่าพอใจ ไม่น่าพอใจ น่าปรารถนา ไม่น่าปรารถนา

เรื่องความน่าปรารถนา ความน่าพอใจ (อิฏฐะ คือ น่าปรารถนา หรืออนิฏฐะ คือ ไม่น่าปรารถนา) นั้น จะอธิบายโดยละเอียดต่อไป

ถ้ากล่าวถึงรูปทรามและประณีตแล้ว อรรถกถาแสดงไว้สรุปย่อๆ ว่า รูปของพวกสัตว์นรก ชื่อว่ารูปทรามถึงที่สุด เพราะเทียบกับรูปของพวกสัตว์นรกนั้น รูปของนาคและครุฑในสัตว์เดรัจฉานทั้งหลายชื่อว่า ประณีต รูปของนาคและครุฑเหล่านั้นยังเป็นรูปทราม เพราะเทียบกับรูปเปรต รูปเปรตทั้งหลายจึงชื่อว่า ประณีต รูปแม้ของเปรตเหล่านั้น ก็ยังเป็นรูปทราม เพราะเทียบกับรูปชาวชนบท รูปชาวชนบทจึงชื่อว่า ประณีต ...ฯลฯ... แม้รูปของพระเจ้าจักรพรรดิ แม้นั้นก็ยังเป็นรูปทราม เพราะเทียบกับภุมเทวดา รูปของพวกภุมเทวดาจึงชื่อว่า ประณีต รูปแม้ของพวกภุมเทวดาเหล่านั้นยังเป็นรูปทราม เพราะเทียบกับรูปท้าวจาตุมหาราช รูปของท้าวจาตุมหาราชจึงชื่อว่า ประณีต รูปแม้ของท้าวจาตุมหาราชเหล่านั้น ก็ยังเป็นรูปทราม เพราะเทียบกับรูปของพวกเทพชั้นดาวดึงส์ รูปของพวกเทพชั้นดาวดึงส์จึงชื่อว่า ประณีต ...ฯลฯ... ก็รูปของพวกเทพชั้นอกนิษฐ์ ชื่อว่าประณีตถึงที่สุด

ความน่าพอใจ (อิฏฐะ คือ น่าปรารถนา) ความไม่น่าพอใจ (อนิฏฐะ คือ ไม่น่าปรารถนา) นั้น ท่านอธิบายไว้ว่า รูปที่ไม่น่าปรารถนา เพราะเว้นจากสมบัติ มีอกุศลกรรมเป็นสมุฏฐาน (เหตุให้เกิด) ไม่มีเหตุแห่งความสุข (อกนฺตํ คือ รูปที่ไม่น่ารัก) เพราะเป็นเหตุแห่งความทุกข์ (อมนาปํ คือ รูปที่ไม่น่าชอบใจ) รูปที่น่าปรารถนา น่าพอใจ ก็ตรงข้ามกัน ส่วนรูปที่เกิดจากสมุฏฐาน (เหตุให้เกิด) อื่น เช่น อุตุ ก็มีความเป็นรูปน่าปรารถนา กับไม่น่าปรารถนา อย่างไรก็ตามรูปที่เกิดจากกุศลกรรมนั้น เป็นรูปที่ไม่น่าปรารถนาย่อมไม่มี มีแต่รูปที่น่าปรารถนาอย่างเดียว

อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารูปที่น่าปรารถนา และไม่น่าปรารถนามีอยู่ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะพอใจ จะปรารถนารูปที่น่าปรารถนา เพราะบางครั้งบุคคลนั้นมีความสำคัญอันวิปริตไป (สัญญาวิปลาส) เช่น บุคคลบางคนในชนบทอาจเห็นรูปแม้ไส้เดือนเป็นที่น่าพอใจ แต่เป็นสิ่งที่น่าเกลียดชังของคนในเมือง เป็นต้น สุกรได้สูดดมกลิ่นอุจจาระก็เกิดความพอใจว่าเราจะได้กิน เป็นต้น กลิ่นของอุจจาระเป็นผลของอกุศล (อกุศลวิบากจิตทางจมูกของเขาย่อมเกิด ในการรับกลิ่นที่ไม่ดีนั้น) แต่ด้วยสุกรมีความจำที่วิปลาสไป ทำให้ชอบสิ่งที่เป็นรูปที่ไม่น่าปรารถนานั้น (สัญญาในชวนะที่เป็นโลภะ จิตประกอบด้วยความพอใจ)

ในเรื่องของความน่าพอใจ น่าปรารถนานั้นก็แยกตามทวารด้วย เช่น แก้วมณี และทองคำ เป็นอารมณ์ที่ดีในทางทวารตา แต่ไม่ดี ไม่น่าปรารถนาในทางกายทวาร เช่น พระเจ้าจักรพรรดิถูกโบยตีด้วยแก้วมณี ถูกทำให้สะดุ้งด้วยทองคำ ดังนั้นวัดกันได้ที่วิบาก เพราะเมื่อกระทบถูกแล้วก่อให้เกิดทุกข์ทางกาย (อิฏฐะและอนิฏฐะจึงแยกด้วย “วิบาก” คือ ผลของกรรมเป็นหลัก ไม่ใช่ด้วย “ชวนะ” ซึ่งเป็นความพอใจหรือไม่พอใจของบุคคล ซึ่งอาจมีการวิปริตได้)

สรุปได้ว่า วิบาก คือ ผลกรรม นั้นคงที่ แต่การที่บุคคลนั้นพอใจ หรือไม่พอใจ แม้ในวิบากที่ไม่ดี หรือดี ที่ผิดไปจากลักษณะความเป็นอิฏฐะ/อนิฏฐะ ก็เพราะการคิดนึกของเขาประกอบด้วยความวิปริตไปสำคัญสิ่งที่ดีว่าไม่ดี หรือสำคัญสิ่งที่ไม่ดีว่าดี

ข่าวล่าสุด

ALATi “สยาม เคมปินสกี้” เมดิเตอร์เรเนียนโมเมนต์ สำหรับวันธรรมดาที่สุดพิเศษ