posttoday

หลิวเจียเหลียง เทพแห่งกังฟู

08 กันยายน 2556

คงไม่ช้าไปนัก หากจะขอไว้อาลัยแก่ยอดกังฟูผู้นี้ วัย 76 “หลิวเจียเหลียง” สิ้นลมอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว

โดย...โจนาธาน

คงไม่ช้าไปนัก หากจะขอไว้อาลัยแก่ยอดกังฟูผู้นี้

วัย 76 “หลิวเจียเหลียง” สิ้นลมอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว หลังทนทุกข์และต่อสู้กับมันมายาวนาน

ขอให้เขาไปสู่สุคติ นี่คือคำพูดของเหล่าแฟนภาพยนตร์ที่พร้อมใจกันเปล่งออกมาในพิธีศพที่จัดขึ้นอย่างสมเกียรติ ณ เกาะฮ่องกง บ้านเกิดของหลิวเจียเหลียง

การจากไปของหลิวเจียเหลียง ไม่แพ้นำความโศกเศร้ามาสู่แฟนภาพยนตร์ ทว่ายังถือเป็นความสูญเสียบุคลากรวงการภาพยนตร์ฮ่องกงคนสำคัญอีกราย

แม้ตัวตาย แต่ผลงาน “เก่าเก็บ” ผลงาน “ขึ้นหิ้ง” ตลอดจนผลงาน “ต้องดู” ของหลิวเจียเหลียงยังคงอยู่ และจะอยู่คู่โลกภาพยนตร์ฮ่องกงไปตราบนานเท่านาน ยิ่งเฉพาะในหมู่มิตรรักกังฟู เขาคือเทพแห่งกังฟูโดยแท้

จากสตันต์แมนเดนตาย ผันตัวมาเป็นผู้กำกับคิวบู๊ สู่ยอดผู้กำกับภาพยนตร์ระดับตำนาน เส้นทางชีวิตในวงการของหลิวเจียเหลียงที่น่าติดตาม

ยุค 60 เป็นต้นมา เขาส่งผลงานทยอยออกฉาย แววดาวเจิดจรัสถูกฉาบไว้ภายใต้ดวงตาที่มุ่งมั่น สะท้อนความเป็นตัวตนได้ดี เบื้องหน้าภาพยนตร์บู๊หลายต่อหลายเรื่องล้วนมาจากความทุ่มเทแรงกายและหัวใจของหลิวเจียเหลียงทั้งสิ้น

“ไอ้เณรจอมคาถา” กลายเป็นจุดเริ่มอาชีพผู้กำกับของหลิวเจียเหลียง แม้ภาพยนตร์จะไม่โดดเด้งอะไรมาก แต่ก็เป็นต้นแบบให้เกิดภาพยนตร์ชุด “ผีกัด” ตามมาอีกเป็นพรวน

“ถล่มเจ้าระฆังทอง” ผลงานที่สร้างชื่อให้หลิวเจียเหลียงเปรี้ยงปร้าง ถือเป็นภาพยนตร์กังฟูสุดฮิตในยุคนั้น ด้วยเพราะภาพยนตร์เล่าถึงจอมยุทธ์ต้นกำเนิดมวยสายหงกวนอย่าง “หงซีกวน” ปรมาจารย์ด้านหมัดมวย

หลิวเจียเหลียง เทพแห่งกังฟู

 

อีกเรื่องก็ดังไม่แพ้กัน “ยอดมนุษย์ยุทธจักร” ที่นำวัดเส้าหลินมาเชื่อมโยงกับพล็อตเรื่อง บรรยากาศการต่อสู้และความเป็นเหตุผล ดูน่าเชื่อถือ ไม่ได้เน้นกำลังภายในมากไป นั่นจึงทำให้มีเสียงขานรับจากแฟนๆ อย่างล้นหลาม กระทั่งฮอลลีวูดซื้อไปฉายในชื่อ Master Killer ก็ยังกรี๊ดดดดดด

ผลงานที่เรียกว่าน่าสนใจและควรค่าแก่การยกนิ้วให้ คงหนีไม่พ้น “จอมเพชฌฆาตเจ้าสิงโต” ที่เล่าเรื่องชีวิตในช่วงต้นของ “หวงเฟยหง” กับการฝึกฝนวิชามวยหงกวน ว่ากันว่าเป็นภาพยนตร์กังฟูเรียบง่าย ทว่าหนักแน่นและจริงใจ

ยังไม่หมดแค่นี้ ผลงานเด็ดดวงของหลิวเจียเหลียงยังมีอีกเพียบ อาทิ “จอมเพชฌฆาตเจ้าสิงโต” “ถล่มสำนักสิงห์กวางตุ้ง” “คุณย่ายังสาว” “ไอ้หนุ่มมวยจีน” “18 เจ้าอาวุธมหาประลัย” รวมถึงผลงานในยุคหลังที่หลายคนยังจดจำไม่ลืม ซึ่งเขามีโอกาสร่วมงานกับนักแสดงชั้นนำของฮ่องกง เช่นว่า “โจวเหวินฟะ” ใน “โหดทะลุแดด” “เฉินหลง” ใน “ไอ้หนุ่มหมัดเมา 2”

ด้วยปัญหาสุขภาพ หลิวเจียเหลียงแทบไม่ได้ทำภาพยนตร์อีกเลย ถือเป็นยุคโรยราตามสังขาร แต่เขาก็ยังมีผลงานส่งท้ายก่อนจะเสียชีวิต “ไอ้หนุ่มหมัดเมา ภาคหมัดวานร” และได้ร่วมแสดงนำ พร้อมนั่งแท่นผู้กำกับคิวบู๊ ในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ของผู้กำกับดัง “ฉีเคอะ” “เจ็ดกระบี่เทวดา”

หากถามถึงความเด่นในภาพยนตร์ของหลิวเจียเหลียง แน่นอนว่าทุกๆ ผลงานของเขามักพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์กับอาจารย์ การฝึกตัวเองอย่างหนักก่อนจะก้าวไปสู่ยอดจอมยุทธ์ ตัวละครที่หลิวเจียเหลียงปลุกปั้นขึ้นมา ไม่ใช่แค่ตัวละครบ้าคลั่งกังฟู แต่มันคือตัวละครที่เปี่ยมไปด้วยมุมมอง แง่คิด เรื่องความอุตสาหะ ความเพียร การเอาชนะใจตัวเอง

สำคัญกว่านั้น กังฟูที่เขานำมาใส่ในภาพยนตร์ก็ไม่ได้มุ่งแต่จะห้ำหั่นกันอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่เป็นการสะท้อนความคิดอันหลักแหลม ที่พยายามจะสอดแทรกความดีความเลวไว้ในภาพยนตร์โดยผ่านใช้กังฟูเป็นช่องทางการสื่อสารกับผู้ชม

วันนี้แม้ไม่มีหลิวเจียเหลียง แต่เชื่อเหลือเกินว่า เขาไม่ได้จากไปไหนไกล เพราะผลงานระดับตำนานของเขายังอยู่ อีกทั้งความยิ่งใหญ่ในฐานะนักสู้ตัวพ่อ ยอดกังฟูขั้นเทพ หลิวเจียเหลียงแสดงให้คนรุ่นลูกรุ่นหลายได้ประจักษ์แล้วว่า เขาคือตัวจริง และเขายังจะอยู่ในใจแฟนๆ มิรู้คลาย

เกิด 28 ก.ค. 1936 ที่กว่างโจว ก่อนจะย้ายมาพำนัก ณ เกาะฮ่องกง

เป็นลูกชายของ “หลิวชาน” ครูมวยหงกวนผู้ช่ำชอง ที่รับสืบทอดวิชามวยมาจาก “หวงเฟยหง” จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาเองจะได้หัดเรียนมวยตั้งแต่อายุแค่ 5 ขวบ

แต่งงานกับเพื่อนนักแสดง “องชิ่งจิง” ซึ่งตอนนี้ผันตัวไปเป็นนักกฎหมาย มีลูกสาวด้วยกัน 2 คน

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา