ภาวินี แสวงสุข ปลูกฝังความกล้าให้กับตัวเอง
เราได้รับการแนะนำให้รู้จักกับสาวสวยสูงยาวเข่าดี เอย-ภาวินี แสวงสุข สาวน้อยวัย 19 ปี ในฐานะเป็นเชียร์ลีดเดอร์ของคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เราได้รับการแนะนำให้รู้จักกับสาวสวยสูงยาวเข่าดี เอย-ภาวินี แสวงสุข สาวน้อยวัย 19 ปี ในฐานะเป็นเชียร์ลีดเดอร์ของคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
โดย...กาญจนา เตชาวัฒนากูล
เราได้รับการแนะนำให้รู้จักกับสาวสวยสูงยาวเข่าดี เอย-ภาวินี แสวงสุข สาวน้อยวัย 19 ปี ในฐานะเป็นเชียร์ลีดเดอร์ของคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งความประทับใจครั้งแรกที่เจอกัน เราคิดว่าเธอน่าจะเป็นสาวสวยมั่นใจสุดๆ ตามสไตล์เชียร์ลีดเดอร์ แต่เมื่อได้นั่งลงพูดคุยกันแล้ว น้องเอย บอกว่า ความจริงแล้วนิสัยเธอตรงกันข้ามกับที่ใครๆ คิด
“ความจริงแล้วเอยเป็นคนค่อนข้างขี้อายค่ะ” น้องเอย เอ่ยพร้อมรอยยิ้มและเสียงพูดเบาๆ ทำให้เรารู้ว่าเธอไม่ได้แกล้งถ่อมตัว เลยสงสัยว่าแล้วทำไมถึงมาทำกิจกรรมที่ต้องอาศัยความกล้าในการมาแสดงออกต่อหน้าคนเยอะๆ ได้
“ที่มาเป็นเชียร์ลีดเดอร์ เพราะตอนวันแรกพบของคณะซึ่งเป็นครั้งแรกที่เรามาพบรุ่นพี่ ก็มีพี่มาชวนให้ไปลองคัดตัวดูค่ะ ตอนนั้นเราก็คิดว่าอยากจะลองดู เพราะส่วนหนึ่งก็อยากจะเปลี่ยนตัวเองให้กล้าแสดงออกมากขึ้น ก็เลยตอบตกลงไปค่ะ แล้วก็ผ่าน เขาบอกว่าเป็นเพราะเรายิ้มเก่ง แต่คงเพราะเวลาเราอายไม่รู้จะพูดอะไร พูดไม่ออกก็จะยิ้มไว้ก่อนมากกว่า เป็นคนทำหน้าบึ้งๆ ไม่เก่งค่ะ (ยิ้ม) เอยเป็นคนสบายๆ ไม่ค่อยเครียดนะคะ ไม่ค่อยเก็บเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มาคิด อะไรไม่ดีก็พยายามปล่อยผ่านไป คนก็เลยดูเหมือนเป็นเราอารมณ์ดีตลอดเวลา”
แม้จะเป็นสาวยิ้มเก่ง แต่เรื่องขี้อายก็เป็นสิ่งที่เอยบอกว่าอยากแก้ไข แล้วกิจกรรมนี้ทำให้เธอประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงตัวเองจริงๆ
“หลังได้รับเลือกแล้ว เราก็ต้องซ้อมหนักค่ะ แรกๆ เอยก็ไม่ค่อยกล้าทำนะ แต่พอได้ออกไปแสดงต่อหน้าคนอื่นๆ บ่อยขึ้น มันก็ทำให้เรารู้สึกกล้าแสดงออก และมั่นใจในตัวเองมากขึ้นค่ะ ตอนนี้ถ้ามีโอกาสก็อยากลองไปสมัครทีมเชียร์ของมหาวิทยาลัยนะคะ คิดว่าถ้าได้เป็นดรัมเมเยอร์ ได้เป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยก็คงจะดี”
ตอนนี้เอยอยู่ปี 2 คณะวารสารศาสตร์ ซึ่งเธอก็บอกว่า ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยเป็นเหมือนโลกใบใหม่ที่แตกต่างจากโรงเรียนมาก
“พอเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัย เรามีเวลาว่างและอิสระมากขึ้น แต่ก็ต้องรับผิดชอบมากขึ้นด้วยเห็นหลายคนที่เขาไม่สามารถจัดการตัวเองได้ ก็เสียเรื่องเรียนไปเลยก็มี ตอนเปิดเทอมก็ต้องไปอยู่หอ เพราะบ้านกับมหาวิทยาลัยอยู่ไกลกัน มีเพื่อนใหม่ สังคมกว้างขึ้น เรายิ่งต้องรับผิดชอบและดูแลตัวเองทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องเรียนมากขึ้นอีก มันก็ทำให้เราเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นด้วยค่ะ”
เอยบอกถึงความตั้งใจในเส้นทางการเรียนและวางแผนอนาคตคร่าวๆ ของตัวเองไว้ว่า “ถ้าขึ้นปี 3 ต้องเลือกสาขาวิชาเอก ก็คิดว่าอยากจะเลือกสาขาวิชาวิทยุ-โทรทัศน์ค่ะ เพราะวิชาที่เรียนมีความหลากหลายดี และมองว่าอนาคตเราก็อยากจะเข้าไปทำงานในสายนี้ด้วยค่ะ”
คุยกันเรื่องนี้ เราก็เลยคิด (เอาเอง) ว่า น้องเอยอาจจะอยากเข้าวงการบันเทิงเป็นดาราเหมือนที่สาวๆ ทั่วไปฝันไว้ใช่หรือเปล่า แต่น้องเอยบอกว่า
“อนาคตอยากทำงานสองอย่างค่ะ คือ อย่างแรก อยากเป็นผู้ประกาศข่าว แต่ไม่ได้อยากทำสายบันเทิงนะ อยากจะทำพวกข่าวสายอาชญากรรมหรือสังคม แนวๆ นั้นมากกว่าค่ะ เอยเป็นคนไม่ค่อยสนใจเรื่องข่าวบันเทิง ดาราอะไรเท่าไหร่ คิดว่าสายอาชญากรรมหรือสังคมน่าสนใจและท้าทายกว่าค่ะ แต่ถ้าไม่ได้ทำงานด้านข่าว อาชีพอีกอย่างที่คิดไว้ ก็คือ ทำงานด้านจัดอีเวนต์ เพราะส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบทำงานในออฟฟิศ ชอบงานภาคสนามที่ได้พบปะผู้คนเยอะๆ มากกว่าค่ะ”


