นินิว-เมธาวี ด้วงปั้น สวยทันสื่อ
ก็น้องเขาน่ารักอ่ะ เหตุผลสั้นๆ ที่ทำให้ผมเลือกสาวน้อยคนนี้มาสัมภาษณ์ ชนิดที่ไม่ต้องเรียกแฟ้มดูโปรไฟล์
โดย...อินทรชัย พาณิชกุล ภาพ กองประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
ก็น้องเขาน่ารักอ่ะ
เหตุผลสั้นๆ ที่ทำให้ผมเลือกสาวน้อยคนนี้มาสัมภาษณ์ ชนิดที่ไม่ต้องเรียกแฟ้มดูโปรไฟล์ ไม่ต้องมาเดินนวยนาดตรงหน้าเหมือนกองประกวดซูเปอร์โมเดลอะไรแบบนั้น
แค่ภาพรอยยิ้มหวานๆ ของวัยสดใส เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะชวนเธอมานั่งคุยกันเบาๆ ในยามบ่ายอันอบอุ่นวันนี้
อ้อ ลืมแนะนำ เธอชื่อ นินิวเมธาวี ด้วงปั้น นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
สาวน้อยจากปราจีนบุรีดั้นด้นมาเรียนในมหาวิทยาลัยชานกรุง พกพาความหวังที่จะหาประสบการณ์ใหม่ๆ มาเติมใส่ในชีวิต ก่อนจะออกไปสู่โลกการทำงานจริงด้วยความพร้อมเต็มเปี่ยม
ทว่า วันนี้เธอยังเป็นเพียงเฟรชชี น้องใหม่ของพี่ๆ ที่ต้องช่วยกันดูแล ชี้แนะสั่งสอน ให้เป็นนักศึกษาที่ดีมีคุณภาพตลอดเวลา 4 ปีที่เหลือในรั้วมหาวิทยาลัยเสียก่อน
“หนูอยากเป็นครูค่ะ ครูที่ทันสมัย ใช้สื่อต่างๆ ในยุคนี้อย่างโซเชียลมีเดีย หนังสั้น สารคดี แอนิเมชัน ภาพนิ่ง ไปช่วยในการเรียนการสอนของเด็กๆ”
เป็นเหตุผลที่ทำให้เธอเลือกเรียนคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สาขาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา สาขาวิชาที่หมายมั่นปั้นมือที่จะผลิตนักเทคโนโลยีการศึกษาออกมาสู่สังคม นักศึกษาภาควิชานี้ต้องเรียนรู้กระบวนการผลิตสื่อแทบทุกชนิด ตั้งแต่ถ่ายภาพนิ่ง ผลิตหนังสั้น สารคดี รายการโทรทัศน์ ประชาสัมพันธ์ ยันคอมพิวเตอร์กราฟฟิก เว็บไซต์ และสื่อสมัยใหม่อย่างโซเชียลมีเดีย
“ยุคนี้สื่อเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โลกทั้งโลกเชื่อมโยงถึงกันหมดแล้วด้วยอินเทอร์เน็ต เราปฏิเสธมันไม่ได้หรอกค่ะ ดังนั้น เราจึงต้องเปิดรับมัน เรียนรู้มัน และที่สำคัญต้องเท่าทันมัน”
ไอโฟนรุ่น 4 เอส เครื่องเดียวสามารถพาผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งไปเจอความรู้ใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆ ข่าวสารความเคลื่อนไหวทั่วโลก ยามว่างเธอมักเข้าไปอัพเดตข่าวสาร แฟชั่น เทรนด์ตามเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม เว็บไซต์ต่างๆ เธอจึงรู้พร้อมกับคนที่นิวยอร์ก ลอนดอน โตเกียวรู้ ขณะเวลาเรียน เวลาทำงาน กูเกิลก็ลากเอาเธอไปพบกับข้อมูลความรู้อันน่าตื่นตาตื่นใจได้เสมอ
“เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็ใช้สมาร์ทโฟน หนูก็เหมือนกัน ใช้คุ้มเลยทั้งเรื่องเรียน เรื่องส่วนตัว เครื่องมือเหล่านี้มันก็จะอำนวยความสะดวกให้กับชีวิตเรามากๆ มันมีทั้งสิ่งดีสิ่งเลวอยู่ในนั้น มันจะเป็นคลังความรู้ที่มีคุณค่าของใครบางคนก็ได้ หรือมันอาจเป็นยาเสพติดให้โทษกับใครอีกคนหนึ่งก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกหยิบอะไรออกมาใช้ให้เป็นประโยชน์ที่สุด”
นินิวบอกว่าข้อเสียของโซเชียลเน็ตเวิร์กที่เกลี๊ยด เกลียด คือการใช้เฟซบุ๊กมาทำลายกัน ด้วยการสาดโคลน ก่นด่า โจมตีคนอื่นอย่างหยาบๆ คายๆ
“มันน่าห่วงนะว่ายุคนี้ท็อปคอมเมนต์ที่มีคนกดไลค์เยอะที่สุด มักเป็นความคิดเห็นรุนแรง หยาบคาย มันสะท้อนอะไรได้เหมือนกัน” สาวน้อยวัยเพียง 18 พูดได้น่าคิด
นินิวกระซิบให้ฟังอย่างตื่นเต้นว่า ตอนนี้กำลังสนใจการถ่ายรูปเป็นพิเศษ จึงศึกษากลไกของกล้องถ่ายรูปดิจิตอล เทคนิคถ่ายภาพในสถานการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะภาพบุคคล
“กำลังฝึกถ่ายภาพคนให้สวยอยู่ค่ะ ถ่ายพอร์เทรตหนูว่ายากนะ แต่ละคนใบหน้า อารมณ์เปลี่ยนไปทุกวินาที ต้องฝึกไปเรื่อยๆ ตอนนี้ฝึกถ่ายรูปตัวเองไปก่อนค่ะ” เธอหัวเราะน่ารัก พลางทำท่าหันไอโฟนจ่อตัวเองเหมือนสาวแอ๊บแบ๊วตามสมัยนิยม
นอกห้องเรียน เมธาวียังเป็นนักเต้น ด้วยความที่ชอบกระโดดโลดเต้น ปล่อยอารมณ์ผ่านท่วงท่ามาตั้งแต่เด็กๆ ยามอยู่ต่อหน้าสาธารณชน ในฐานะเชียร์ลีดเดอร์ เธอจึงมีความสุขมากกว่าที่ไหนๆ บนโลก
“ตอนขึ้นไปประกวดดาวมหาวิทยาลัย ก็ไปยืนรอจะออกมาแสดงความสามารถ เห็นพี่ๆ เขาใส่ชุดสวยๆ มาเต้นประกอบดนตรี ก็แอบคิดว่าทำไมเราไม่ไปยืนอยู่ตรงนั้น ทำไมเราถึงมายืนอยู่ตรงนี้ หนูไม่ใช่แนวประกวดนางงาม เป็นพวกชอบแสดงออกมากกว่า” เธอยิ้มเอียงอาย
แม้เวลาจะผ่านไปเพียงสองเดือนของการเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย เส้นทางยังอีกยาวไกล คดเคี้ยว อาจมีหลุมบ่อ มีกำแพงให้ต้องฝ่าข้าม แต่ด้วยความเชื่อมั่นเต็มร้อยในตัวเอง ในตัวเพื่อนๆ รุ่นพี่และอาจารย์ที่ล้วนแต่น่ารักทั้งสิ้น เมธาวีบอกอย่างมั่นใจเลยว่าสู้ไหวแน่นอนค่ะ
เด็กอะไร้ ช่างสดใสเบิกบานเหมือนดอกไม้แรกแย้ม นี่แหละครับ น้องนินิวเมธาวี ด้วงปั้น


