posttoday

แพนซี หรือไวโอลาดอกหน้าแมว

11 สิงหาคม 2556

แพนซีและไวโอเล็ตมักถูกเรียกสลับสับกันเสมอ แต่หากจะจำแนกกันจริงๆ แล้ว แพนซีนั้นจะมีดอก 4 กลีบ ที่ชูขึ้นด้านบนและอีกสองกลีบชี้ลงด้านล่าง

โดย...ม.ล.จารุพันธ์ ทองแถม

แพนซีและไวโอเล็ตมักถูกเรียกสลับสับกันเสมอ แต่หากจะจำแนกกันจริงๆ แล้ว แพนซีนั้นจะมีดอก 4 กลีบ ที่ชูขึ้นด้านบนและอีกสองกลีบชี้ลงด้านล่าง ดั้งนั้น จึงใช้ชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า Viola Tricolor ผสมข้ามกับพืชสกุล Viola ชนิดอื่นๆ และลูกผสมเหล่านี้มักใช้ชื่อ Viola x Wittrockiana แต่อย่างไรก็ตาม Viola Cornuta ก็ได้รับชื่อว่าเป็นแพนซีด้วยชนิดหนึ่ง อย่างไรก็ตาม นักพืชสวนสมัยใหม่มักใช้คำว่า “แพนซี” กับไม้ดอกลูกผสมดอกใหญ่หลายสี ซึ่งปลูกลงแปลงกันทุกปีเพื่อประดับสวนและมีน้อยรายที่จะปลูก เพื่อใช้ตัดดอกเอาไว้ทับอัดแห้ง เช่น ที่ปฏิบัติอยู่ในโครงการดอกไม้แห้ง โครงการหลวงที่ดอยอินทนนท์

ว่ากันตามลักษณะสัณฐานวิทยาแล้วดอกแพนซีมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางราว 23 นิ้ว และมีกลีบดอกบนซ้อนกันอยู่ 2 กลีบ ส่วนกลีบดอกแนวข้างมีอยู่ 2 กลีบเช่นกัน ส่วนกลีบดอกด้านล่างเป็นกลีบเดี่ยวๆ ซึ่งมีอวัยวะคล้ายหนวดโผล่ออกมาจากใจกลางดอก ต้นแพนซีอาจสูงได้ 89 นิ้ว และชอบขึ้นอยู่กลางแจ้งในดินที่เตรียมอย่างดีโดยมีความอุดมสมบูรณ์สูง เราใช้แกลบสดหมักกับขี้วัวใช้ผสมดิน หลังจากขึ้นแปลงกว้าง 80 ซม. สูง 30 ซม. แล้วจึงคลุมแปลงด้วยใบตองตึงและเจาะรู ปลูกกล้าแพนซีลงไปโดยปลูกเป็น 2 แถวสลับฟันปลา ใช้ระยะห่างระหว่างต้น 30 ซม. สำหรับการเพาะเมล็ดจะทำในเดือน ส.ค.ก.ย. ตั้งแต่เพาะเมล็ดจนถึงย้ายกล้าลงแปลงได้จะตก 45 วัน ศัตรูสำคัญของแพนซี ได้แก่ เพลี้ยไฟ ไรแดง ดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ดอกเสียหายใช้กาวดักแมลงช่วย หรือหากระบาดรุนแรงเป็นปัญหาที่ต้องการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ซึ่งปัจจุบันใช้โปรวาโด โดยใช้เฉพาะกรณีที่จำเป็นเท่านั้น

ประวัติของแพนซี

ในตอนต้นศตวรรษที่ 19 เลดี้ แมรี่ เอลิซาเบช เบนเนท (17851861) ธิดาของท่านลอร์ด แทงค์เคอวีลล์ ได้เก็บสะสมพันธุ์และปลูกแพนซีไทรคาเลอร์ (Viola Tricolor) ลงในแปลงที่ริมแม่น้ำเทมส์ เซอร์เรย์ (ที่ตั้งของสวนพฤกษศาสตร์คิวในปัจจุบันผู้เขียน) ซึ่งผลปรากฏว่าคนสวนผู้ชำนาญการของเธอคือ วิลเลียม ริชาร์ดสัน ทำให้ได้พันธุ์ใหม่ที่สวยงามขึ้นมากมายอันเป็นผลจากการผสมข้ามพันธุ์กันนั่นเอง ในปี ค.ศ. 1812 เธอได้นำเอาแพนซีลูกผสมของเธอออกแสดงในงานพืชสวนและในปี ค.ศ. 1813 มิสเตอร์ลี เจ้าของร้านไม้ดอกได้ดำเนินการปลูกแพนซีลูกผสมต่อไปอีกและมิช้าก็มีผู้เจริญรอยตามอีกหลายคน ทำให้แพนซีกลายเป็นพืชที่ได้รับความนิยมในหมู่สาธารณชน

ในขณะที่ เลดี้ เบนเนท ดำเนินการปลูกและผสมข้ามแพนซีอยู่นั้น เจมส์ ลอร์ด แกมบิเออร์ ทำการปลูกแพนซีอยู่เช่นกัน ภายใต้การดูแลของคนสวน คือ มิสเตอร์ ทอมพ์ สัม ต่อมาเขาใช้ไวโอลาสีเหลือง (Viola Lutea) และ Viola Altaica (ดอกใหญ่สีเหลืองอ่อนจากรัสเซีย) มาผสมกันทำให้ได้ลูกผสมใหม่ๆ ที่เรียกกันว่า Viola x Wittrockiana ซึ่งมีดอกส้มกลีบเกยซ้อนกันและปลายปี ค.ศ. 1830 จึงมีการพบต้นที่เกิดผิดเพี้ยนทางพันธุกรรมออกมาอย่างบังเอิญและได้ดอกที่มีกลีบดอกแต้มสีดำกว้างบนกลีบดอก ซึ่งต่อมาทำให้เกิดรูปร่างคล้ายหน้าแมวขึ้นและถูกพัฒนาพันธุ์ขึ้นในสวนของแกมบิเออร์ และกระจายออกสู่สาธารณชนในปี ค.ศ. 1839 ภายใต้นามว่า “มีดอรา” (Medora)

ในปี ค.ศ. 1833 มีแพนซีเกิดขึ้นราว 400 ชนิด และเจมส์กริฟ (James Grieve) ได้พัฒนาพันธุ์ไวโอลาและ ดร.ชาร์ลีสจ๊วต ได้พัฒนาพันธุ์ผสมไวโอเล็ตตา (Violetta) ขึ้น ทำให้ได้ต้นที่เตี้ยแน่นกระชับขึ้นกว่าแพนซี

แพนซีปรากฏชื่อเสียงในงานวรรณคดีของอังกฤษและงานศิลปะ เช่น ในเรื่อง A Midsummer Night’s Dream ของวิลเลียม เชคสเปียร์ และในบทละครเรื่องแฮมเล็ต โอพีเลียได้มอบดอกไม้ให้และกล่าวว่า “There’s Pansies, that’s for Thoughts” ที่น่าอ่านที่สุดคือ เรื่อง Pansies บทกวีโดย D.H.Lawrenee ซึ่งตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1929 นั่นเอง

พันธุ์การค้าของแพนซีล่าสุด

มีหลายกลุ่ม เช่น Matrix Pansies, Cool Wave, Panola ซึ่งต่างกันที่เส้นผ่านศูนย์กลางดอก สำหรับ Pansies ลูกผสมชั่วที่ 1 ซึ่งให้ดอกใหญ่ที่สุด ได้แก่ พันธุ์เอกซ์เอกซ์แอล (XXL) ที่มีขนาดพุ่มใหญ่แข็งแรงปลูกเป็นไม้กระถางส่งตลาดได้ในช่วงฤดูหนาวและมีหลายสีให้เลือก

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด ซันเดอร์แลนด์ พบ นิวคาสเซิ่ล พรีเมียร์ลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68