posttoday

พันธุ์ไม้ในป่าเหนือ ยามฝนมาเยือน (1)

04 สิงหาคม 2556

เดินทางขึ้นเหนือคราวนี้มุ่งไปที่ จ.น่าน เพื่อดูพันธุ์พืชในป่าจนถึงชายแดนลาวที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ จากเครื่อง 2 ใบพัด

เดินทางขึ้นเหนือคราวนี้มุ่งไปที่ จ.น่าน เพื่อดูพันธุ์พืชในป่าจนถึงชายแดนลาวที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ จากเครื่อง 2 ใบพัด เราใช้รถยนต์จากโครงการหลวงพาพวกเราไปที่ศูนย์ภูไทพัฒนา อ.บ่อเกลือ (เกลือสินเธาว์) และพักแรมที่ศูนย์เพื่อศึกษาพันธุ์ไม้ในป่าโดยรอบ แม้จะเป็นพื้นที่ทำกินของราษฎรชนชาวเขาซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยและชาวไทยพื้นเมือง ซึ่งแน่ละข้าวและข้าวโพดจะเป็นพืชหลักของที่นี่ แต่จากร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของศูนย์ทำให้เราเห็นภาพของพันธุ์ไม้ซึ่งมีการส่งเสริมให้ปลูกในเขตนี้ได้บ้าง ที่นี่ไม้เศรษฐกิจเป็นพืชในวงศ์ปาล์ม (Arecaceae) ที่โดดเด่นได้แก่ ต้นชิด หรือตาว (Arenga pinnata)

เมื่อลองเทียบลำต้นไม้ใหญ่ในป่ากับต้นปาล์มเช่นชิดหรือตาวจะเห็นได้ทันทีถึงความแตกต่างว่าต้นปาล์มนั้นมีลำต้นเดี่ยวชูชะลูดไม่แตกกิ่งก้านสาขา แต่มีกลุ่มใบชูขึ้นที่บริเวณยอด แต่ไม้ยืนต้นจะประกอบด้วยกิ่งก้านสาขาและมีใบเล็กใบน้อยอยู่ที่ปลายกิ่ง ความแตกต่างอื่นได้แก่ลำต้นของต้นไม้ทั่วไปจะหนาขึ้นอ้วนขึ้นเรื่อยๆ เมื่อต้นไม่มีอายุเพิ่มขึ้น แต่ลำต้นของปาล์มจะไม่เพิ่มความหนาขึ้นอีกเลยหากมันฟอร์มลำต้นขึ้นแล้ว ที่ว่านี้รวมทั้ง หมาก มะพร้าว จาก ลาน หรือเต่าร้างยักษ์ แห่งดอยภูคา ซึ่งเราจะกล่าวถึงในตอนที่ 2 ความหนาของลำต้นปาล์มไม่เพิ่มขึ้นอีกเลย ไม่ว่าปาล์มนั้นจะมีอายุยืนนานสักกี่สิบกี่ร้อยปี ดูต้นตาลโตนดนั่นปะไร ความแตกต่างในด้านลักษณะนิสัยและโครงสร้างภายในนับเป็นปัจจัยสำคัญเช่นเดียวกับลักษณะอื่นๆ เช่น ลำต้นของปาล์มจะเพิ่มความหนา เช่นเดียวกับรากซึ่งจะไม่หนาขึ้นแม้จะมีอายุมากขึ้นสักเท่าใดตลอดอายุขัยของปาล์มนั้นๆ

ในป่าดิบชื้นเราอาจพบพืชอื่นอีกหลายชนิดที่ขาดพลังในการเพิ่มขนาดความหนาของต้นหรือราก นอกจากปาล์มแล้วยังอาจนับรวมต้นเตย (Pandans) ต้นไผ่ หญ้า ขิงข่า กระทือ กล้วยไม้และพวกบอน เยือกหรือบุกเข้าไว้ด้วย

ต้นเตยที่เราพบในป่ามีอะไรที่คล้ายปาล์มอยู่มาก เช่น การเกิดลำต้นและราก ซึ่งไม่อาจเพิ่มขนาดความหนาขึ้นได้ แต่มันต่างจากปาล์มที่ลำต้นมักแตกกิ่งออกจากบริเวณเหนือพื้นดิน และรากมักถูกรั้งขึ้นในบริเวณเหนือพื้นดินเสมอ รากนี้จะค่อยๆ งอโค้งลงดิน ดังนั้นจึงเกิดเป็นรากค้ำขึ้นในรอบโคนของต้นเตย และมีความหนามากกว่ารากของปาล์มส่วนใหญ่ ความจำเป็นในการสร้างรากค้ำจุนของต้นเตยนี้ก็เพราะลำต้นเตยจะมีความผอมดูสะโอดสะองมากกว่าลำต้นปาล์ม และอีกประการคือเตยมักมีการแตกลำต้นค่อนข้างมาก ทำให้ยอดหนัก ลำต้นอาจหักโค่นได้

ปาล์มและเตยเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ซึ่งโดยทั่วไปไม่มีความสามารถจะเพิ่มความหนาของลำต้นได้เพราะมีเพียงบางอย่างที่มีเยื่อเจริญหรือแคมเบียม (Cambium) แต่ก็ไม่คล้ายแคมเบียมของต้นไม้เช่น ยางพารา

ชิดหรือตาวบางครั้งเรียกว่าต้นชก พบที่ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ เป็นจำนวนมากเช่นเดียวกับที่ จ.น่าน ส่วนทางภาคใต้พบมากตามเขตเขาหินปูนใน จ.พังงา กระบี่ นครศรีธรรมราช พัทลุง

ปาล์มชนิดนี้นับว่าเป็นปาล์มขนาดใหญ่ไม่แตกหน่อ ใบเกิดเป็นใบเดี่ยวแบบใบประกอบขนนกชั้นเดียว ดอกเกิดเป็นช่อ แยกเพศช่อ เพศผู้เกิดหลายครั้ง แต่ช่อดอกเพศเมียออกเพียงครั้งเดียว พอติดทะลายเกิดเป็นผลแล้งต้นจะหมดอายุล้มตายไป ทะลายของตาวหรือต๋าวนี้มีผลติดอยู่หลายร้อยผล ลักษณะเป็นพูตื้นสามพู ผลแก่สีเหลืองและน้ำตาลไม่มีก้านผล โดยกลีบเลี้ยงติดกับช่อดอกและพัฒนาไปเป็นผล ชาวบ้านทางภาคใต้ปาดช่อดอกเอาน้ำหวานไปเคี่ยวทำน้ำโตนด และได้ผลตาวไปต้มในน้ำเดือดจนนิ่มนำมาปาดหัวให้เห็นเนื้อในแล้วเอาลูกตาวภายในออกมาแช่น้ำเชื่อมทำขนมได้หลายอย่าง รวมทั้งลูกชิดแห้ง

เส้นใยจากกาบใบมีความแข็งแรงในชวา บาหลีนำไปมุงหลังคาได้ทนทาน โดยเขาจะปูทับบนแผ่นสังกะสีเพื่อป้องกันฝนเสียก่อนชั้นหนึ่ง แล้วปิดทับด้วยใยรกจากกาบใบซึ่งห่อหุ้มลำต้น

ป่าในเขต จ.น่าน ถูกตัดโค่นเผาทำลายไปมากจนกระทั่งเราเห็นว่าภูเขาส่วนใหญ่เป็นภูเขาหัวโล้น โล้นจริงๆ จนเห็นแต่ทิวแถวของต้นข้าวโพด ซึ่งชาวเขาหยอดเมล็ดทิ้งไว้ในเดือน มิ.ย. ต้นเดือน ก.ค. ซึ่งเป็นช่วงต้นฝน ความที่เป็นดินอุดมเกิดจากป่าเก่าที่เคยมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่แต่ก่อนจึงทำให้การปลูกข้าวโพดข้าวไร่ได้ผลดี

เราจะขึ้นไปดูพืชพันธุ์ไม้อื่นบนอุทยานแห่งชาติดอยภูคากันในคราวหน้า

ข่าวล่าสุด

บอร์ดเคาะแล้ว “ทรงพล” MD ออมสินคนใหม่ รอชัดอำนาจรักษาการเซ็นได้หรือไม่