posttoday

เชิดชูครูกวี 73 ปี ‘เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์’

15 กรกฎาคม 2556

โดย... อินทรชัย พาณิชกุล ภาพ ชวิน ถวัลย์ภิยโย

โดย... อินทรชัย พาณิชกุล ภาพ ชวิน ถวัลย์ภิยโย

ไม่ต้องเอ่ยถึงชื่อชั้นบารมีกันอีกแล้ว สำหรับกวีแห่งกรุงรัตนโกสินทร์คนนี้ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ เพราะสังคมไทยต่างรับรู้กันดีว่า นี่คือกวีผู้มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของยุคสมัย

กว่าครึ่งศตวรรษที่ยืนหยัดทระนงอยู่บนถนนสายวรรณกรรมมาอย่างองอาจ วันนี้กวีซีไรต์คนแรก ศิลปินแห่งชาติ และนักดนตรีวงเพื่อชีวิตนามคันนายาววัย 73 ยังคงสร้างชื่อเสียงเกียรติภูมิให้แก่ประเทศชาติ แก่วงศ์ตระกูล แก่แวดวงวรรณกรรมไม่หยุดหย่อน

หลังจากเมื่อเร็วๆ นี้ บทกวีบทหนึ่งของเขาที่ชื่อ วิถีไทย ได้รับเลือกจากโครงการพาท ออฟ วิชั่นนารี่ ออฟ เดอะ เวิลด์ ซึ่งเป็นโครงการคัดเลือกวาทะบุคคลสำคัญต่างๆ จากทั่วโลก เช่น อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ มหาตมะ คานธี แองตวน เดอ แซ็งค์เตกซูเปรี มาสลักลงแผ่นหินบนทางเท้าฟรีดริชสตราเซอร์ ณ กรุงเบอร์ลิน เยอรมนี

ช่วงเดียวกันนั้นเนาวรัตน์ยังเป็นกวีเพียงหนึ่งเดียวของไทยที่ได้รับรางวัลกวีสุนทรภู่ จากกระทรวงวัฒนธรรม เนื่องในวันสุนทรภู่ ร่วมกับเหล่ากวีผู้มีชื่อเสียงอีก 9 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน

“ผมมีวันนี้เพราะท่านสุนทรภู่”

อาจารย์เนาว์ภายใต้บุคลิกเคร่งขรึม ใจดี เส้นผมสีเงินสลวยถูกหวีเสยอย่างเท่ๆ เช่นเดียวกับจอนหนา บอกด้วยรอยยิ้มละไม ในความคิดของเขา สุนทรภู่ เป็นผู้เจียระไนเพชรแห่งอักษรภาษาไทยที่มีความไพเราะอยู่แล้วให้เป็นระบบ เรียบเรียงให้ไพเราะดุจเสียงดนตรี

“สุนทรภู่เป็นครูคนแรกที่สอนให้รู้จักความไพเราะของภาษาไทย งานประเภทวรรณคดี กาพย์กลอนของท่านมันให้จังหวะ ให้เสียงเหลื่อมล้ำของภาษา ซึ่งมันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของภาษาไทยอยู่แล้ว แต่ท่านมาจัดระเบียบทำให้ความไพเราะเหล่านี้มันเด่นชัดขึ้น ทำให้อ่านง่าย เข้าใจง่าย ติดหู ติดปาก”

ติดหูติดปากในที่นี่ หมายถึง คนสมัยโบราณส่วนใหญ่ที่อ่านหนังสือไม่ออก มักวานลูกหลานอ่านให้ฟัง ก็จะจดจำได้ง่าย ตรงไหนอ่านผิด ก็หยุด มาพร่ำสอนกันให้อ่านทวนใหม่อีกครั้ง จนคล่องแคล่วลื่นไหลทั้งคนอ่านและคนฟัง

“คนสมัยก่อนชอบอ่านออกเสียง เดี๋ยวนี้พอเปลี่ยนมาอ่านในใจ สังเกตได้ว่าปากยังขมุบขมิบอยู่ ใครอ่านหนังสือแบบนี้แสดงว่าเป็นคนโบราณ (หัวเราะ) รุ่นนี้ไม่มีให้เห็นแล้ว อ่านออกเสียงจะสัมผัสกับความไพเราะของกาพย์กลอนได้เด่นชัดที่สุด

อีกอย่างที่ผมเป็นห่วง แต่ก่อนวิชาภาษาไทยต้องสอนนักเรียนทุกคนให้แต่งกลอนแต่งโคลงได้ แต่งไม่ได้ก็ต้องรู้ฉันทลักษณ์ รู้แบบแผน ถึงเขียนไม่ได้ก็ต้องอ่านเป็น ทุกวันนี้อย่าว่าแต่เขียนได้ อ่านก็อ่านไม่เป็น นอกจากหลักสูตรภาษาไทยไม่ได้สอนแล้ว ยังไม่ให้เด็กมีประสบการณ์ด้านการท่องบทอาขยาน การท่องบทอาขยานจะทำให้ได้สัมผัสความไพเราะของบทกวีที่แท้จริง”

ตามความรับรู้โดยทั่วไปของคนไทยรุ่นแล้วรุ่นเล่า พระสุนทรโวหาร สุนทรภู่ หรือภู่ กวีสามัญชนที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติ มาจาก อ.แกลง จ.ระยอง มีความสามารถลึกล้ำทางด้านการแต่งกลอน ได้สร้างสรรค์ผลงานอันฉีกขนบธรรมเนียมยุคเก่าขึ้นมาใหม่จนกลายเป็นที่นิยมสืบเนื่องมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน

ผลงานที่ยังได้รับความนิยมมีมากมายหลายเรื่อง เช่น พระอภัยมณี ขุนช้างขุนแผน นิราศภูเขาทอง นิราศเมืองแกลง เพลงยาวถวายโอวาท กาพย์พระไชยสุริยา สุภาษิตสอนหญิง เป็นต้น อีกด้านหนึ่ง ชีวิตส่วนตัวของสุนทรภู่ก็โลดโผน สนุกครบรสไม่แพ้กัน นิสัยขี้เมา เจ้าชู้ ตลอดจนวีรกรรมอันเลื่องลือต่างๆ ล้วนถูกถ่ายทอดผ่านผลงานทั้งหมดไว้แล้ว

“เป็นเรื่องธรรมดา ไม่แปลกที่ท่านขี้เมา เจ้าชู้ เพียงแต่ท่านเอามาเขียนไว้ในบทกวี มันเลยกลายเป็นโดดเด่นกว่าภาพลักษณ์อื่นๆ อันจริงควรมองทะลุไปอีกภาพลักษณ์หนึ่งของท่าน นั่นคือ ขี้เมาแต่ยังเขียนงานได้มากมายมหาศาล เจ้าชู้ แต่ก็ยังมีความคิดที่มันลึกซึ้งในเชิงปรัชญา เข้าใจชีวิตอย่างปรุโปร่ง ดำรงไว้ซึ่งมาตรฐานของศีลธรรมอันดีไว้ได้ ประเด็นเหล่านี้ไม่สำคัญเท่าการศึกษางานของท่าน”

กลับมาที่ชีวิตของ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ชายชราวัย 73 ที่นั่งจิบกาแฟอยู่ตรงหน้า เขาเป็นคนพนมทวน จ.กาญจนบุรี จบนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ แต่สลัดชุดครุยไปสวมจีวร ดื่มด่ำรสพระธรรมอย่างลึกซึ้งด้วยการไปศึกษากับท่านพุทธทาสภิกขุที่สวนโมกข์ ไชยา

ก่อนจะดังกระหึ่ม เมื่อตัดสินใจรับบทพระอภัยในภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่อง พระอภัยมณี สอนหนังสือระยะหนึ่ง สุดท้ายหันมาเอาจริงเอาจังบนเส้นทางวรรณกรรม เขียนกาพย์ กลอน โคลง ฉันท์ จวบจนนาทีนี้

“ต้องให้เครดิตพ่อผม ท่านสอนให้ผมรักบทกวี สอนให้รักดนตรีด้วย ผมท่องกาพย์กลอนได้ตั้งแต่ก่อนเข้าเรียนหนังสือ ขีดๆ เขียนๆ หัดเป่าขลุ่ยงูๆ ปลาๆ ไปเรื่อย แต่ทำให้เรารู้ว่ามันการท่องกาพย์กลอนและเล่นดนตรีมันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มีความไพเราะ มีเสียง มีจังหวะ เหมือนกัน โตขึ้นมาก็ทำให้เขาใจว่า ดนตรีเป็นสิ่งที่ช่วยในเชิงวรรณศิลป์ได้ และวรรณศิลป์ก็ทำให้เราสัมผัสทิพยธาตุของดนตรี”

ขลุ่ยไม้ไผ่ สมุดบันทึก และปากกาหมึกซึมสีดำในย่าม ยังเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ติดตัวไว้ตลอด เพราะไม่รู้ว่าแรงบันดาลใจจะลอยมากระทบอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดเมื่อใด

“บางครั้งเราก็ต้องคำนึงถึงเรื่องว่าจะเขียนอะไร แล้วค่อยไปหาข้อมูล ต้องมีใจกับเรื่องนั้น มันแล้วแต่อารมณ์ ถ้าไม่เจอ ไม่สัมผัสอารมณ์ที่มันน่าเขียน ก็เฉยๆ ไม่จำเป็นต้องจับปากกาเขียน แต่จดไว้ในใจ เขียนในใจก็ได้ แล้วค่อยมาบันทึกเป็นอักษรทีหลัง”

มนุษย์เรางอกงามได้ด้วยบทกวี มั่นคงได้ด้วยหลักศีลธรรม เติมเต็มให้สมบูรณ์ได้ด้วยดนตรี ปรัชญาของขงจื๊อ เป็นหลักคำสอนที่กวีรัตนโกสินทร์เชื่อมั่นเสมอมา

เนาวรัตน์ขออนุญาตเอ่ยอ้างหยิบยกหนังสือเล่มหนึ่งของตัวเองขึ้นมา เป็นกวีนิพนธ์เล่มแรกในชีวิตชื่อว่า คำหยาด ปัจจุบันพิมพ์ครั้งที่ 10 แล้วกับสำนักพิมพ์อมรินทร์ เขาแนะนำว่า เหมาะสำหรับมือใหม่หีดเขียนบทกวียิ่งนัก

“คำหยาด คือหนังสือรวมบทกลอนเล่มแรก ทั้งหมดกว่า 82 บท มันมาจากความสดใสของวัยหนุ่ม มีทั้งอารมณ์ดุดันร้อนแรง อ่อนหวาน ซื่อบริสุทธิ์ของวัยเยาว์ พูดถึงความรัก อกหัก การแสวงหา พรรณนาถึงธรรมชาติ ความฝันความจริง อุดมคติ เอาไว้ด้วยกัน”

วันวานกับวันนี้ ผมว่ามันต่างกัน ช่วงวัยรุ่น บทกวีที่เกี่ยวกับความรู้สึกมันเขียนได้ดี พอเข้าวัยกลางคนก็เริ่มตั้งคำถาม วัยนี้มันเลยกลายเขียนคำตอบ หาคำตอบ ได้คำตอบ” อาจารย์เนาว์ยิ้มเยือกเย็น

นี่คือรอยยิ้มภาคภูมิใจของกวีเอก ความภาคภูมิใจอันยิ่งใหญ่สมศักดิ์ศรีกวีรัตนโกสินทร์

ฉายากวีรัตนโกสินทร์ มาจาก สุจิตต์ วงษ์เทศ เขียนโปรโมตโปรยไว้บนปกกวีนิพนธ์ชื่อ ชักม้าชมเมือง เมื่อปี 2520

นอกจากเขียนบทกวี เนาวรัตน์ยังเดินสายเล่นดนตรีร่วมกับน้องนุ่ง ประกอบด้วย ป่อง ต้นกล้า หรือรังสิต จงฌานสิทโธ นัช หาญพาณิชย์พันธ์ และชูเกียรติ ฉาไธสง ในนามวงคันนายาว

ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของกวีรัตนโกสินทร์คนนี้ได้ที่แฟนเพจ https://www.facebook.com/pages/เนาวรัตน์พงษ์ไพบูลย์

ข่าวล่าสุด

ไทยเจ้าภาพประชุมโลก ผนึกกำลัง 60 ชาติปราบสแกมเมอร์ข้ามชาติ