ซีอีโอไปรษณีย์ อานุสรา จิตต์มิตรภาพ ‘วิกฤตสร้างพลัง’
1 ทศวรรษก่อนหน้า ไม่มีใครคิดว่ารัฐวิสาหกิจเล็กๆ ที่แปรมาเป็นบริษัทอย่างไปรษณีย์ไทย ด้วยตัวเลขด้านรายได้ติดลบและขาดทุนแบบพึ่งพาตัวเองแทบไม่ได้
โดย...ณัฐวรรณ ฉลองขวัญ
1 ทศวรรษก่อนหน้า ไม่มีใครคิดว่ารัฐวิสาหกิจเล็กๆ ที่แปรมาเป็นบริษัทอย่างไปรษณีย์ไทย ด้วยตัวเลขด้านรายได้ติดลบและขาดทุนแบบพึ่งพาตัวเองแทบไม่ได้ จะพลิกฟื้นกลายเป็นบริษัทที่มีกำไรปีละไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทในวันนี้ และยังเป็นองค์กรที่มีภาพลักษณ์เชิงบวก โดยเฉพาะการสร้างแบรนด์ไปรษณีย์ไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งในประเทศและบนเวทีโลก และเชื่อว่านาทีนี้ไม่มีใครที่ไม่รู้จักอิทธิฤทธิ์ขององค์กร “เล็กพริกขี้หนู” แห่งนี้
4 ส.ค. 2546 เป็นวันแรกของจุดเริ่มต้น บริษัท ไปรษณีย์ไทย หลังจากรัฐบาลมีนโยบายแยกตัวออกจากการสื่อสารแห่งประเทศไทย มาเป็น บริษัท ไปรษณีย์ และ กสท โทรคมนาคม ซึ่ง อานุสรา จิตต์มิตรภาพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไปรษณีย์ไทย คนปัจจุบัน และถือเป็นซีอีโอหญิงคนแรกขององค์กรนี้ ย้อนวันวานถึงเส้นทางการเลือกเดินสายไปรษณีย์ ว่า
“ท่านธีรพงษ์ สุทธินนท์ (ซีอีโอคนแรกของไปรษณีย์) เป็นคนเอ่ยปากชวนด้วยประโยคที่ว่า เรามาทำให้ไปรษณีย์มีกำไรด้วยกันนะ
ตอนนั้นคำนี้เหมือนกับการปลุกพลังและปลุกความร่วมมือที่จะต้องทำให้สำเร็จ ต่างจากโทรคมนาคมในขณะนั้น ไม่มีใครมีเป้าหมายชัดเจนว่าอยากจะให้ กสทฯ เดินไปในทางไหน”
การตัดสินใจในวันนั้น ส่งผลถึง “ความภูมิใจ” อย่างมากในวันนี้ อานุสรา ถ่ายทอดความรู้สึกด้วยน้ำเสียงแห่งความปีติ ที่แม้ว่าหากเทียบตัวเลขรายได้ระหว่างไปรษณีย์และ กสทฯ แล้ว จะต่างกันลิบลับ ด้วยว่าไปรษณีย์มีโบนัสแค่ปีละ 1 เดือน ผิดกับ กสทฯ ที่อู้ฟู่ ได้โบนัส 34 เดือน แต่พนักงานทุกคนก็ทำงานด้วยรอยยิ้มที่เห็นองค์กรเล็กๆ เติบโตมาอย่างแข็งแรง
“สิ่งสำคัญคือการเปลี่ยนทัศนคติการทำงาน (Mind set) ของพนักงาน จากที่เคยชินกับการนั่งอยู่กับที่ให้บริการที่สาขา กลายเป็นต้องลุกขึ้นมาทำงานแบบเดินเข้าหาลูกค้า จุดสำคัญคือ การที่ทุกคนผ่านวิกฤตมาด้วยกัน ทำให้เกิดพลังการทำงานและกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ เพราะ 10 ปีที่แล้ว วันที่ทุกคนมาอยู่ไปรษณีย์ คือ ได้ผลตอบแทนเท่าเดิม เพราะเริ่มจากติดลบ แต่ฝั่งโทรคมนาคมชัดเจนว่ารายได้เพิ่มขึ้นแน่นอน 15%”
อานุสรา กล่าวว่า ไปรษณีย์คือองค์กรที่ ยิ่งทำงาน ยิ่ง “ใช่” มากขึ้น ด้วยว่าทำงานเหมือนการพูดภาษาเดียวกัน ทั้งสร้างแบรนด์ พลิกฟื้นองค์กร โดยช่วงแรกอดีตซีอีโอ ธีรพงษ์ เป็นคนเดินสายทำความเข้าใจและปลุกพลังพนักงานทุกคนให้พร้อมสู้ไปด้วยกัน และผลจากความสามัคคีและพลังของทุกคนก็สะท้อนออกมาเป็นความสำเร็จทุกวันนี้ ทั้งตัวเลขรายได้ที่เริ่มจากปีละ 1,000 ล้านบาท สามารถทะยานขึ้นไปถึง 2 หมื่นล้านบาท และจากผลประกอบการขาดทุนตัวแดง กลายเป็นกำไรมากกว่า 1,000 ล้านบาท
ไม่เพียงแต่ตัวเลขรายได้ที่เป็นดัชนีชี้วัดความสำเร็จเท่านั้น การสร้างแบรนด์ของไปรษณีย์ก็แข็งแรงไม่แพ้กัน และพื้นฐานของความแข็งแรงทุกวันนี้มิใช่เกิดขึ้นได้ในวันเดียว แต่มีการทำต่อเนื่องมาตั้งแต่ครั้งที่ อานุสรา รับผิดชอบในฐานะรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด หากกะเทาะลงไปให้ลึกแล้ว อานุสรา บอกว่า
“ไปรษณีย์เป็นหน่วยงานที่เงินน้อย ดังนั้นจะไม่เน้นการใช้เงินลงทุน แต่จะใช้จุดแข็งด้านเครือข่ายสาขาทั่วประเทศ พื้นที่ในรถขนส่ง ศูนย์ปฏิบัติการ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ว่าจะไปร่วมมือกับพันธมิตรด้านใดได้บ้าง และพันธมิตรจะหลากหลาย ทั้งธนาคาร สายการบิน หน่วยงานรัฐ เพราะไปรษณีย์พร้อมที่จะร่วมมือทุกด้าน เพราะบางบริการมีผลตอบแทนเป็นตัวเงินน้อย แต่ได้ในเรื่องของอิมเมจ และทำให้ไปรษณีย์มีฐานลูกค้า มีคนพูดถึงมากขึ้น ก็ถือเป็นกำไรเช่นกัน”
อีกหนึ่งความสำเร็จไปรษณีย์ที่ อานุสรา ภูมิใจเสนอ คือ การที่ไปรษณีย์ไทยจะมีเครื่องบินเป็นของตัวเอง ด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรสายการบินที่เหนียวแน่นอย่างแอร์เอเชีย ยินดีให้เครื่องบินแอร์เอเชียแปะตราไปรษณีย์ไทย ภายใต้บริการใหม่ “Super EMS” ที่จะเปิดตัวเดือน ก.ค.นี้
“ดีใจมากตอนคุณโจ (ทัศพล แบเลเว็ลด์) บอกว่าจะ Wrap เครื่องบินให้ เหมือนไปรษณีย์มีเครื่องบินส่วนตัว (หัวเราะ) ซึ่งเป็นความฝันของไปรษณีย์ไทย ว่าอยากมีเครื่องบินเหมือนดีเอชแอลมี และวันนี้ฝันก็เป็นจริงแล้ว แม้จะไม่ใช่เครื่องบินส่วนตัวก็ตาม แต่การที่แอร์เอเชียทำให้แบบนี้ เราก็ดีใจมากแล้ว”
นอกจากบริการใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นจากความร่วมมือกับพันธมิตรแล้ว ในเดือน ส.ค. ไปรษณีย์จะเปิดตัวไปรษณีย์กลาง บางรัก โฉมใหม่ ใช้งบลงทุนแปลงโฉมครั้งนี้ 300 ล้านบาท ตกแต่งสถานที่ภายในเพื่อให้เช่าเป็นสถานที่จัดงานต่างๆ เป็นธุรกิจใหม่ที่สร้างมูลค่าเพิ่มจากสถานที่ที่มีความคลาสสิกในตัวอยู่แล้ว ให้เกิดผลในเชิงรายได้มากขึ้น
ขอให้รอชม เพราะซีอีโอหญิงการันตีว่า ทุกคนจะต้อง “ว้าว” แน่นอน
ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทยยังตอกย้ำการบริการที่ไม่หยุดนิ่ง ด้วยบริการใหม่ๆ ตอบโจทย์โลกที่เปลี่ยนสู่โลกดิจิตอล ไม่ว่าจะเป็นแอพพลิเคชั่นไปรษณีย์บนสมาร์ทโฟน แสตมป์ บาร์โค้ด ที่จ่อคิวเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง
ทั้งหมดนี้ ทำให้หลายคนต้องลบคำสบประมาท ลบคำปรามาสที่ว่า ไปรษณีย์ไทยจะล้มหายตายจากไปพร้อมกับบริการการส่งจดหมายได้อย่างสิ้นเชิง
เดือน ส.ค. 2557 จะเป็นเวลาที่ อานุสรา ต้องเกษียณตัวเองจากซีอีโอหญิงของไปรษณีย์ หลังจากเข้าทำหน้าที่หัวเรือใหญ่เมื่อเดือน ม.ค. 2553
แต่ความผูกพันกับไปรษณีย์ไทยไม่ได้มีแค่ 4 ปีที่ทำงานในฐานะซีอีโอ แต่การเติบโตมากับไปรษณีย์ไทยเกือบ 3 ทศวรรษ ทำให้ซีอีโอหญิงคนนี้เต็มใจที่จะประกาศได้อย่างภาคภูมิว่า
“ภูมิใจที่ได้เห็นการเติบโต และเราทำได้”


