นี่หรือ... ‘ความงาม’
ไม่ใช่เพราะเป็นผู้หญิง ไม่ใช่เพราะความรักสวยงาม ทว่าเพราะการมองหาและมองเห็นความงามในหลากหลายรูปแบบที่ผู้คนนำเสนอออกมา
โดย...เสน่ห์จันทน์
ไม่ใช่เพราะเป็นผู้หญิง ไม่ใช่เพราะความรักสวยงาม ทว่าเพราะการมองหาและมองเห็นความงามในหลากหลายรูปแบบที่ผู้คนนำเสนอออกมา รวมถึงดิ้นรนไขว่คว้าหาความงามที่ว่านั้นมาประดับตกแต่งตัว เพียงเพื่อจุดหมาย คือ “ความงาม” เป็นสิ่งที่วนๆ เวียนๆ อยู่ในความสนใจของศิลปินสาวนามว่า “สุริวัลย์ สุธรรม”
นี่เองจึงเป็นที่มาสู่นิทรรศการชื่อว่า “บิวตี้” จากแนวคิดเกี่ยวกับมุมมองของผู้หญิง ผ่านความรู้สึกที่มีต่อวัตถุภายนอกในเรื่องความสวยความงามที่แยกกันไม่ออก เป็นสิ่งเย้ายวนใจอย่างมาก ไม่ว่าจะอดีตจวบจนถึงปัจจุบันก็ยังอยู่คู่กันเสมอมา และปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีของโลกที่เปลี่ยนไป ทำให้ผู้หญิงสามารถแปลงโฉมตัวเองราวกับเป็นคนละคน
ภาพรวมของนิทรรศการครั้งนี้จึงคุมธีม “ความรักสวยรักงามของผู้หญิงที่เกินพอดีจนเอ่อล้น ทำให้ผู้หญิงตกอยู่ในสภาวะหรือห่วงของกิเลสนั้นเอง” สุริวัลย์ กล่าว
แม้ สุริวัลย์ จะมีผลงานออกมาสู่สายตาผู้ชมอยู่บ้าง ทว่านิทรรศการนี้นับเป็นครั้งแรกที่เธอได้แสดงเดี่ยว มาดูกันว่าเธอจะสามารถส่งพลังหญิงไปสู่ผลงานศิลปะที่ว่าเรื่องความงามของผู้หญิงได้กระทบสะเทือนใจของผู้ชมหรือไม่
“ดิฉันเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนรักสวยรักงามตามแบบฉบับของตัวเอง แต่จะมีเพียงบางกลุ่มที่หลงใหลวัตถุอย่างสุดโต่ง จึงเป็นที่มาจุดประเด็นในการสร้างสรรค์ผลงาน ดิฉันคิดว่าผู้หญิงทุกคนมีความงามที่เหมาะสมในแต่ละบุคคลที่แตกต่างกันไป เพียงแต่รู้กาลเทศะ สถานที่ และบริบทแวดล้อม ก็น่าจะเป็นความงามจริงๆ ที่เพียงพอแล้ว
แต่ปัจจุบันสังคมโลกโลกาภิวัตน์ มีสื่อทุกประเภทยากที่จะหลีกเลี่ยง มักจะครอบงำให้เราหลงเชื่อตามมายาคติต่างๆ นานา ขึ้นอยู่กับตัวเราจะมีความรู้เท่าทันและยับยั้งชั่งใจได้มากน้อยเพียงใด การตามกระแสแฟชั่น ไม่สนใจตัวเองว่าเราเหมาะสมกับสิ่งนั้นๆ หรือไม่ โลกหมุนและเปลี่ยนไปทุกวัน ถ้าเรามัวแต่ตามกระแส คงไม่มีทางรู้ได้เลยว่าแท้ที่จริงแล้วตัวเราเองเหมาะสมกับสิ่งใด”
สุริวัลย์ ชอบและถนัดการเขียนวัตถุ (หุ่นนิ่ง) ซึ่งเธอเล่าว่า ความมันวาว เงาสะท้อน ทำให้มองเห็นว่าวัตถุแต่ละชิ้นมีเนื้อหาและบรรจุเรื่องราวในตัวของมันเอง จากความชอบนี้เองก็นำไปสู่การค้นหาความหมายของวัตถุว่าถูกสร้างมาเพื่อสิ่งใด และส่วนใหญ่ที่เธอค้นพบจากเจ้าของวัตถุนั้น ก็คือ “ผู้หญิงนั่นเอง”
“ใช้เทคนิคสีน้ำมันบนผ้าใบ ส่วนวิธีการสร้างสรรค์นั้น เริ่มจากการจัดหุ่นโดยใช้นางแบบเป็นโมเดล เราก็แต่งหน้าให้กับนางแบบตามแนวความคิดในแต่ละชิ้นงานตามความต้องการหรือตามข้อมูลที่อยากนำเสนอภาพ รวมทั้งเทคนิค สัญลักษณ์ในงาน โครงสี แสง เงา ถูกจัดขึ้น เสมือนว่าผู้หญิงในภาพตกอยู่ในห้วงสภาวะแห่งความลุ่มหลง คือดิฉันมีเจตนาอยากให้เป็นเช่นนั้น
กระบวนการทำงานของดิฉันมีภาพถ่ายเข้ามาช่วยเพื่อเป็นการบันทึกรายละเอียดหามุมมอง จังหวะของภาพที่เหมาะสม ช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น คือดิฉันใช้ภาพถ่ายเพื่อเป็นการอ้างอิงในการทำงาน กระบวนการของมันจึงไม่ใช่การลอกรูปทั้งหมด ภาพจะถูกวางโครงสร้างหลักไว้ ส่วนที่เหลือคือรายละเอียด แสง เงา บรรยากาศ ดิฉันจะคิดขึ้นในขณะทำงาน และทุกครั้งจะต้องสเกตช์สีน้ำขนาดเล็กเพื่อเป็นต้นแบบอย่างคร่าวๆ ก่อนจะถูกขยายใหญ่บนผืนผ้าใบ”
ศิลปินเจ้าของผลงานได้ยกตัวอย่างผลงานที่ชื่อ “Fack” ว่า “ภาพนี้แสดงให้เห็นใบหน้าผู้หญิงที่แต่งหน้าด้วยสีสันฉูดฉาด ดวงตาเบิกโพลง และสีหน้าตื่นตกใจท่ามกลางพวงอัญมณีที่รายล้อมกรอบหน้าที่หญิงสาวพยายามจะเปลี่ยนสีตา สีผม สีผิว ให้ไม่ใช่ตัวเอง และบางส่วนมีสัญลักษณ์บางอย่างที่ดิฉันต้องการพูดถึง ของปลอม ดอกไม้ปลอม ทุกสิ่งทุกอย่างถูกสร้างมาเพื่อตอบสนองความต้องการ ที่บางครั้งก็ดูผิดแปลกจากธรรมชาติที่มนุษย์ควรจะเป็น”
ท้ายสุด สุริวัลย์ บอกว่า “นี่เป็นนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรก และถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการทำงานศิลปะที่มีการจัดแสดงและถูกเผยแพร่ ดิฉันเองแอบตื่นเต้นและดีใจไม่น้อยที่งานศิลปะเดินทางมาถึงวันนี้ และเป็นสิ่งที่ยืนยันว่าดิฉันกับศิลปะตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบันไม่เคยห่างจากกันเลย”
ความงามในมุมที่ สุริวัลย์ เลือกนำเสนอในนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรก จะงามจับใจผู้ชมทั้งในด้านเนื้อหาและเทคนิคการสร้างสรรค์หรือไม่นั้น ต้องตามไปชมกันที่ ดีโอบีหัวลำโพง แกลเลอรี เปิดวันอังคารเสาร์ เวลา 10.30-19.00 น. และ วันอาทิตย์ เวลา 10.30-17.30 น. มีให้ชมถึงวันที่ 14 ก.ค.นี้เท่านั้น
สุริวัลย์ สุธรรม
การศึกษา
ศิลปบัณฑิต สาขาวิจิตรศิลป์ ภาควิชาจิตรกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตเพาะช่าง
ศิลปมหาบัณฑิต สาขาทัศนศิลป์ ภาควิชาจิตรกรรมประติมากรรม และภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
ผลงานแสดงนิทรรศการร่วม อาทิ..
การแสดงนิทรรศการจิตรกรรมร่วมสมัย 2th UOB exhibition การแสดงนิทรรศการ อิตสตรี ณ Teeoli Gallery d “walk of art space” การแสดงนิทรรศการ “พันธนาการ กับคำลวงอันหอมหวาน” Ties and Fragrantlies ณ วัน อีสต์ เอเชีย ประเทศสิงคโปร์
ศิลปินในดวงใจ
“ฟรีดา คาร์โล” ศิลปินหญิงชาวเม็กซิกัน เพราะชอบประวัติชีวิตในการทำงาน เธอมีมุมมองต่อการใช้ชีวิตและศิลปะที่นำเสนอชีวิตของเธอเอง เธอทำงานแม้กระทั่งนอนอยู่บนเตียง เจ็บป่วยก็ยังเขียนรูปจนวินาทีสุดท้าย
“นที อุตฤทธิ์” เป็นศิลปินไทยที่มีชื่อเสียง ส่วนตัวดิฉันเป็นคนวาดหุ่นนิ่ง พอได้เห็นผลงานของศิลปินท่านนี้ ก็รู้สึกประทับใจในการนำเสนอการเขียนหุ่นนิ่งที่มีแนวความคิดที่ต่างออกไป มีวิธีคิด เล่าเรื่องของรูปแบบจิตรกรรมที่มีขั้นตอน กระบวนที่ถูกวางแผนมาเป็นอย่างดี ผลงานจึงดูพิเศษ
นิทรรศการในครั้งหน้า
ก็ยังคงพูดถึงเรื่องของผู้หญิงกับวัตถุ เพราะคิดว่ายังรู้สึกสนุกในการทำงาน ทั้งยังมีอีกหลายแง่มุมที่ยังไม่ถูกนำเสนอ ดิฉันจะพัฒนางานอย่างต่อเนื่องและหาข้อมูลใหม่ตามแต่ประสบการณ์ในช่วงขณะนั้นๆ


