posttoday

80 ปี ศาลาเฉลิมกรุง โรงมโหรสพคู่กรุง

23 มิถุนายน 2556

เชื่อว่าหลายๆ คนเคยได้ยินชื่อ “ศาลาเฉลิมกรุง” ทว่าจะมีสักกี่มากน้อยที่รู้จักศาลาเฉลิมกรุงมากกว่าสถานที่ไว้จัดแสดงละครเวที คอนเสิร์ตศิลปินรุ่นบรมครู

โดย...นายใจดี

เชื่อว่าหลายๆ คนเคยได้ยินชื่อ “ศาลาเฉลิมกรุง” ทว่าจะมีสักกี่มากน้อยที่รู้จักศาลาเฉลิมกรุงมากกว่าสถานที่ไว้จัดแสดงละครเวที คอนเสิร์ตศิลปินรุ่นบรมครู และจะมีไหมสักกี่คน ที่ตระหนักและหวนระลึกถึงคุณค่าของสถานที่แห่งนี้ ว่าเป็น “โรงมหรสพ” ความบันเทิงคู่กรุงรัตนโกสินทร์มายาวนานจวบจน 80 ปี ใน พ.ศ.นี้

ในปี 2475 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์กว่า 9 ล้านบาท เป็นทุนในการจัดสร้างโรงภาพยนตร์ สำหรับฉายภาพยนตร์เสียงขึ้นเป็นแห่งแรกในประเทศไทยให้มีลักษณะเป็นที่เชิดหน้าชูตาของประเทศ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ “หม่อมเจ้าสมัยเฉลิม กฤดากร” เป็นผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง และได้พระราชทานนามของโรงมหรสพนี้ว่า “ศาลาเฉลิมกรุง”

วันที่ 2 ก.ค. 2476 ศาลาเฉลิมกรุงได้ทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ ระยะแรกภาพยนตร์ที่นำออกฉายที่ศาลาเฉลิมกรุงส่วนใหญ่เป็นภาพยนตร์เสียงในฟิล์มจากต่างประเทศ เนื่องจากภาพยนตร์ไทยยังคงผลิตกันได้น้อย มีการนำการพากย์เสียงภาษาไทยให้กับภาพยนตร์เสียงในฟิล์มจากต่างประเทศแทนการพากย์ภาพยนตร์เงียบ โดยมี “สิน สีบุญเรือง” หรือทิดเขียว เป็นผู้ริเริ่ม

ส่วนภาพยนตร์เรื่อง “สามปอยหลวง” เป็นภาพยนตร์ 16 มิลลิเมตร พากย์โดยทิดเขียว ที่เข้าฉายที่ศาลาเฉลิมกรุง ปี 2483 ฉายอยู่นาน 21 วัน และทำรายได้สูงสุดของสมัยนั้นถึง 3.4 หมื่นบาท ทำลายสถิติรายได้สูงสุดที่ภาพยนตร์ต่างประเทศเรื่อง “ทาร์ซานกับมนุษย์วานร” เคยทำไว้เมื่อปี 2482 ลงได้

ในยุคทองของภาพยนตร์ไทย “สามเสือสมุทร” เป็นเรื่องแรกที่ได้จัดรอบปฐมทัศน์ เพื่อโปรโมตภาพยนตร์ที่ศาลาเฉลิมกรุง ในปี 2496 ในยุคนั้นศาลาเฉลิมกรุงถูกเปรียบเป็น “ฮอลลีวู้ดเมืองไทย” เป็นที่พบปะของกลุ่มบุคคลในวงการบันเทิงทั้งผู้สร้าง ดารา ตัวประกอบ นักเขียนโปสเตอร์ นักพากย์ ฯลฯ นับว่าศาลาเฉลิมกรุงเป็นสถาบันการผลิตบุคลากรภาพยนตร์และละครเวทีก็ได้

นอกจากนี้ ยังเป็นเวทีสำหรับละครเวที การประกวด คอนเสิร์ตต่างๆ บรรดานักร้องหน้าม่าน (เป็นการร้องเพลงสดๆ โดยไม่มีวงดนตรีบรรเลง) ที่มีชื่อเสียงโด่งดังก็มี เพ็ญศรี พุ่มชูศรี สถาพร มุกดาประกร ชาญ เย็นแข คำรณ สัมปุณณานนท์ ล้วน ควันธรรม นคร มงคลายน นคร ถนอมทรัพย์ ฯลฯ ส่วนวงดนตรีที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ได้แก่ วงดุริยะโยธิน วงดนตรีทรัพย์สินฯ และวงสุนทราภรณ์

ด้วยบริเวณที่ตั้งของศาลาเฉลิมกรุง (ปัจจุบันถนนเจริญกรุง แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร) เป็นย่านธุรกิจที่สำคัญแล้ว ที่บริเวณนี้ยังเป็นแหล่งบันเทิงสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจของผู้คนในสมัยนั้นอีกด้วย เพราะตลอดแนวใกล้เคียงถนนเจริญกรุงไปจรดสามแยก (ต้นประดู่) เป็นแหล่งรวมโรงมหรสพที่สำคัญของยุคนั้น เช่น โรงภาพยนตร์นาครเขษม โรงภาพยนตร์พัฒนากร โรงภาพยนตร์สิงคโปร์ (ศาลาเฉลิมบุรี) ฯลฯ อีกทั้งบริเวณฝั่งตรงข้ามของศาลาเฉลิมกรุงคือ ตลาดบำเพ็ญบุญ ก็เป็นแหล่งที่ผู้คนมาเที่ยวหาความสำราญกันคึกคัก

ศาลาเฉลิมกรุงจึงจัดว่าเป็นแหล่งศูนย์กลางความบันเทิงที่ยิ่งใหญ่ของเมืองไทย จนเป็นประเพณีนิยมว่าคนหนุ่มสาวสมัยนั้นที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ ต้องมาใช้ชีวิต ส่วนหนึ่งสัมผัสกับบรรยากาศของย่านนี้ ขนาดที่ว่าใครไม่รู้จัก ศาลาเฉลิมกรุงถือว่า “เชย” ที่สุดทีเดียว

ทว่า ถึงกาลนี้ศาลาเฉลิมกรุงที่เคยเฟื่องฟูในยุคหนึ่งก็มิอาจยืนหยัดท่ามกลางความนิยมของผู้คนที่ผันแปรไปได้ ปัจจุบันศาลาเฉลิมกรุงเปลี่ยนบทบาท เปิดพื้นที่ให้เป็นเวทีสำหรับการจัดแสดงงานต่างๆ ได้หลากหลาย เพื่อให้โรงมหรสพเก่าแก่แห่งนี้ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ศาลาเฉลิมกรุงไม่เพียงเป็นสถานที่จัดแสดงศาสตร์และศิลป์แห่งความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ศึกษาความเจริญก้าวหน้าของศิลปวัฒนธรรมของชาติทั้งประวัติความเป็นมาและวิวัฒนาการในหลายแขนงอีกด้วย หาก 80 ปีที่ผ่านมา ใครยังไม่มีโอกาสได้ไปที่ศาลาเฉลิมกรุงเลย ตอนนี้ก็ยังไม่สาย เพราะศาลาเฉลิมกรุงยังมีการจัดงานต่างๆ อยู่เรื่อยๆ ที่สำคัญคัดสรรมาแต่งานที่มีคุณภาพทรงคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมไทย

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา