มาสิริ อนะมาน หญิงเก่งผู้ไม่(ยอม)หยุดเรียนรู้
คงไม่ผิดหากจะบอกว่า ห้องกระจกสี่เหลี่ยมที่มีอุปกรณ์ทำงานเพียงแค่หูฟัง ไมโครโฟน และกระดาษ ปากกา คือ สถานที่ปฏิบัติการ(ส่วนใหญ่)ของ วิ้งมาสิริ อนะมาน
โดย...พุสดี สิริวัชระเมตตา ภาพ ภัทรชัย ปรีชาพานิช
คงไม่ผิดหากจะบอกว่า ห้องกระจกสี่เหลี่ยมที่มีอุปกรณ์ทำงานเพียงแค่หูฟัง ไมโครโฟน และกระดาษ ปากกา คือ สถานที่ปฏิบัติการ(ส่วนใหญ่)ของ วิ้งมาสิริ อนะมาน เพราะหน้าที่ของเธอ คือ พิราบแปลงสารที่ถูกส่งมาจากภาษาหนึ่งให้เป็นอีกภาษาหนึ่ง ใช่แล้ว...อาชีพของเธอคนนี้คือ ล่ามแปลภาษาและนักแปล
อ่านถึงบรรทัดนี้ อย่าเพิ่งถอดใจ คิดว่าผู้หญิงน่ารักตรงหน้าซึ่งมีดีกรีเป็นถึง 1 ใน 10 สาวแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ผลิตภัณฑ์พอนด์ เอจ มิราเคิล จะมีภาษีเพียงเพราะมีความสามารถทางภาษา เพราะที่น่าทึ่งกว่านั้น คือ เธอยังเป็นคนไทย 1 ใน 3 ที่ได้รับตำแหน่งล่ามแปลภาษาของสถาบันฝึกอบรมระหว่างประเทศว่าด้วยการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ILEA) ซึ่งมีสำนักงานเพียง 5 แห่งในโลก ประกอบด้วย ไทย ฮังการี สหรัฐอเมริกา เอลซัลวาดอร์ และบอตสวานา
1 ใน 3 ล่ามสาวแห่งไอแอลอีเอ
สาววิ้งเปิดฉากเล่าถึงหน่วยงานที่เธอสังกัดอยู่อย่างน่าตื่นเต้นว่า เป็นสถาบันที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและสหรัฐ เพื่อเป็นแหล่งฝึกอบรมหลักสูตรให้กับผู้บังคับใช้กฎหมายในระดับภูมิภาค ซึ่งหมายความว่าในการฝึกอบรมแต่ละครั้งจะมีเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายทั้งจากจีน ลาว กัมพูชา อินโดนีเซีย เวียดนาม รวมทั้งไทยมาเข้าร่วม เพื่ออบรมในหลักสูตรต่างๆ เช่น การต่อต้านการก่อการร้าย การลักลอบค้ามนุษย์ วิธีการตรวจคนเข้าเมือง การสืบสวนสอบสวนในที่เกิดเหตุ การพิสูจน์หลักฐาน ยุทธวิธีต่างๆ ในการคุยกับผู้ต้องหา การใส่กุญแจมือ เป็นต้น โดยวิทยากรที่ให้ความรู้คือตัวแทนที่สหรัฐส่งมา เช่น เอฟบีไอ
“งานล่ามเป็นงานที่ต้องใช้สมาธิมาก เพราะเราต้องฟังและแปลเป็นอีกภาษาที่ฟังแล้วรู้เรื่องเข้าใจได้ในทันที ซึ่งล่ามแปลสดในลักษณะนี้จะทำงานต่อเนื่องต่อครั้งได้ไม่เกิน 30 นาที ก็ต้องเปลี่ยนคนแล้ว”
สำหรับความท้าทายของงานนี้ สาววิ้งบอกว่า คงหนีไม่พ้นความหลากหลายของหัวข้อหลักสูตรที่เธอต้องเจอในแต่ละวัน เพราะนอกจากจะต้องแปลสด ด้นสดจากภาษาอังกฤษเป็นไทยแล้ว ต้องยอมรับว่าหัวข้อที่เธอต้องแปลแต่ละวันนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม และมีเนื้อหาซับซ้อน แต่วิ้งก็สามารถก้าวข้ามความท้าทายนี้ด้วยการอาศัยการเตรียมตัวอย่างดีทั้งในส่วนของข้อมูล หมั่นอัพเดตตัวเองให้ทันโลกทันสถานการณ์ และการเตรียมร่างกายให้พร้อมด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ
“ล่ามไม่ใช่ผู้ที่รอบรู้ทุกอย่าง ดังนั้นคนที่เป็นล่ามจึงต้องเป็นคนที่หมั่นค้นคว้าหาความรู้ตลอดเวลา เพื่อให้มีความรู้ที่กว้างขวาง ทันโลกทันเหตุการณ์ อย่างเรื่องของอาชญากรรม เราต้องคอยศึกษาเพราะมีอาชญากรรมรูปแบบใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา ดังนั้นในการทำงานแต่ละครั้งวิ้งเลยต้องทำการบ้านเยอะมาก”
ภาษาอังกฤษคือลมหายใจ
แม้จะต้องคลุกคลีอยู่กับภาษาอังกฤษและประเด็นสังคมที่อาจจะไกลตัวสำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง แต่สาววิ้งออกตัวเลยว่า ไม่ไกลตัวสักนิด เพราะด้วยความที่คุณพ่อเป็นนักการทูต ทำให้เธอมีโอกาสติดตามคุณพ่อไปยังประเทศต่างๆ ตั้งแต่เด็ก ได้มีโอกาสเข้าเรียนโรงเรียนต่างชาติสลับกับโรงเรียนไทย ทำให้ภาษาอังกฤษไม่ใช่ยาขมสำหรับเธอ แต่กลับกลายเป็นสิ่งที่เธอรักที่จะอยู่ด้วย
ยิ่งกว่านั้น วิ้งยังเรียนจบปริญญาตรีด้านสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาโท คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนจะลัดฟ้าไปคว้าปริญญาโทอีกใบด้านเพศสภาพศึกษา จากประเทศอังกฤษ ทำให้ประเด็นความเคลื่อนไหวในสังคมก็ไม่ใช่เรื่องเกินเข้าใจสำหรับเธอ
นอกจากบทบาทการเป็นล่าม วิ้งยังสวมบทนักแปลตัวยงมาตั้งแต่สมัยเรียน ทั้งแปลภาพยนตร์และหนังสือเธอผ่านมาหมด วิ้งยอมรับแบบไม่อายว่า ถ้าให้ประเมินคุณภาพการแปล เธอบอกว่าถนัดแปลไทยเป็นอังกฤษมากกว่า เพราะเธอมีคลังศัพท์ภาษาอังกฤษมหาศาล ขณะที่คลังศัพท์ภาษาไทยยังน้อยนิด ซึ่งจุดนี้เป็นสิ่งที่เธอพยายามพัฒนาตัวเองต่อไป
“ความท้าทายของอาชีพนี้คือ จะทำอย่างไรให้สารที่ส่งออกไปมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะในการแปลแต่ละครั้งต้องมีเนื้อหาของสารบางส่วนที่ตกหล่นไป แต่จะทำอย่างไรให้มีสิ่งที่หายไปน้อยที่สุด รวมทั้งต้องสื่อสารออกไปแล้วผู้ฟังเข้าใจ ได้สารตรงตามที่ผู้ส่งสารต้องการจะสื่อ”
สำหรับเป้าหมายของสาววิ้ง เธอบอกว่ายังหลงรักอาชีพนี้อยู่ และยังอยากทำไปจนอายุ 70 ปี เพราะจริงๆ แล้วด้วยวัย 36 ปี ถือว่ายังเด็กมากสำหรับวงการนี้
“วิ้งมีไอดอลในวงการนี้หลายคนมาก และอยากจะพัฒนาตัวเองให้เก่งเหมือนรุ่นพี่ในวงการ วิ้งตั้งเป้าว่าอยากให้เมื่อมีคนนึกถึงล่ามที่เก่ง ต้องนึกถึงวิ้ง (หัวเราะ)”
นานาน่ารู้กับสาววิ้ง
วันว่าง : เทเวลาให้น้องหมาและการออกกำลังกาย ทั้งวิ่ง ชกมวย โยคะ ขี่จักรยาน
เคล็ดลับสวยอ่อนกว่าวัย : เน้นสวยจากภายใน ดูแลตัวเองตั้งแต่ภายใน ทั้งการพักผ่อนให้เพียงพอ นอนอย่างน้อย 8 ชม./วัน ดื่มน้ำมากๆ
ภาษาที่อยากเรียนเพิ่ม : สเปน เพราะน่าสนใจและมีพื้นฐานคล้ายภาษาฟิลิปปินส์ ซึ่งพอมีความรู้อยู่บ้าง
เรียนรู้(ยังไง)ไม่หยุด : ทุกวันนี้วิ้งยังเรียนรู้เวลาเจอคำศัพท์ที่น่าสนใจจะพิมพ์เก็บไว้ในไอโฟน ว่างๆ ก็มาเปิดดูเพื่อทบทวน
ฝึกฝนตัวเอง : วิธีฝึกเป็นล่าม(แปลสด) คือ เวลาฟังข่าวภาษาอังกฤษ วิ้งจะแปลออกมาเป็นภาษาไทย เพื่อทดสอบว่าเราจะแปลทันมั้ย
งานที่ภูมิใจ : การประชุมผู้นำน้ำครั้งล่าสุด ซึ่งเป็นครั้งแรกที่สาววิ้งได้เป็นล่ามแปลออกอากาศสดเป็นครั้งแรก


