‘เห็นทางสว่างจากการอ่าน’ อรพรรณ อาจสมรรถ
ครูบิวอรพรรณ อาจสมรรถ หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านการสอนการแสดง ให้กับภาพยนตร์หลายๆ เรื่อง อาทิ ห้าแพร่ง รถไฟฟ้ามาหานะเธอ Suckseed ห่วยขั้นเทพ ฯลฯ
โดย...วราภรณ์
ครูบิวอรพรรณ อาจสมรรถ หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านการสอนการแสดง ให้กับภาพยนตร์หลายๆ เรื่อง อาทิ ห้าแพร่ง รถไฟฟ้ามาหานะเธอ Suckseed ห่วยขั้นเทพ ฯลฯ ปัจจุบันเป็นอาจารย์พิเศษให้กับคณะนวัตกรรม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และครูสอนการแสดงอิสระ รวมทั้ง เป็น Acting Trainer ในรายการ Academy Fantasia season 7 และ 9 ที่ครูบิวเป็นครูสอนด้านการแสดงที่เข้าถึงบทบาท อาจเป็นเพราะเธอได้มาจากการอ่าน โดยเริ่มอ่านหนังสือที่ชื่นชอบมาตั้งแต่วัยเด็ก เธอชอบอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ วรรณกรรมที่ต้องตีความ ซึ่งการอ่านเร็ว อ่านตีความให้ด้านความเข้าใจ และให้ด้านจินตนาการ
ในชีวิตการทำงาน หนังสือเล่มหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อความคิด และให้แง่คิดที่ดีๆ กับ ครูบิวมากๆ คือ หนังสือกึ่งๆ วรรณกรรมเด็ก ปรัชญาชีวิต เรื่องเล่า ชี้ทางให้ชีวิต “จะเล่าให้คุณฟัง” เขียนโดย ฆอร์เฆ่ บูกาย และโดย เพ็ญพิสาข์ ศรีวรนารถ โดยอาจารย์รสิกาที่สอนด้านการแสดงตอนเรียนคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้มาอีกทีหนึ่งในโอกาสครบรอบวันเกิดเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องเล่าของคุณหมอด้านจิตวิทยา ได้เล่าให้คนไข้ของคุณหมอฟัง อ่านแล้วสนุก ทำให้เธอได้ปรัชญาชีวิตมากมาย เป็นปรัชญาชีวิตเล่าแบบนิทาน อ่านเข้าใจง่าย อ่านแล้วได้ข้อคิด เช่นเรื่อง “พระราชากับเหรียญที่ เก้าสิบเก้า”
เรื่องเล่ามีอยู่ว่า พระราชาของเมืองนี้ เป็นคนไม่มีความสุขมีแต่ความทุกข์ เห็นข้าราชบริพารคนหนึ่งมีความสุขตลอด พระราชาก็เลยสงสัยว่าทำไม พระราชาเลยประกาศไปทั่วเมืองว่า ใครก็ได้ช่วยทำให้เขามีความสุขที และทำให้ข้าราชบริพารมีความทุกข์ให้ได้ ก็มีคนมาบอกให้พระราชามอบเงิน 1 ถุงให้ข้าราชบริพารที่มีความสุข โดยไปวางไว้หน้าบ้าน ด้วยความที่ข้าราชบริพารเป็นคนดีจึงมอบให้ร้อยเหรียญ แต่จริงๆ แล้วให้แค่ 99 เหรียญ พอข้าราชบริพารนับเหรียญขาดไปหนึ่งก็รู้สึกเป็นทุกข์ทันที เรื่องนี้สอนว่า คนเราจะทุกข์ก็ต่อเมื่อเรารู้สึกขาด
“เมื่อเราอายุมากขึ้น เจอโลกมากขึ้น บางครั้งก็เกิดความทุกข์ก็ไปเล่าให้อาจารย์รสิกาฟัง อาจารย์ก็เลยมอบหนังสือเล่มนี้ให้มาเป็นเพื่อนคูคิด มีอีกบทหนึ่งเรื่องพระหนุ่มกับพระแก่ ซึ่งหลักคำสอนคือพระห้ามโดนตัวผู้หญิง วันหนึ่งพระ 2 รูป พระหนุ่มกับพระแก่ต้องข้ามแม่น้ำเจอหญิงท้องแก่ ซึ่งบอกให้ช่วยอุ้มพาข้ามแม่น้ำหน่อย พระหนุ่มไม่ยอมช่วย แต่พระแก่ไม่แคร์ ให้ผู้หญิงขึ้นหลัง และเดินข้ามแม่น้ำไป พระหนุ่มเกิดความทุกข์และความเครียดที่ไม่ได้ช่วยเหลือ พระหนุ่มถามพระแก่ว่า ท่านคิดว่าการที่ท่านไปแบกผู้หญิงไม่อาบัติเหรอ พระแก่บอกว่า เราแบกผู้หญิงไม่ผิด แต่เจ้ายังแบกความทุกข์และความรู้สึกผิดยังติดตัวอยู่ กฎบางกฎเรายึดได้ แต่บางสิ่งต้องปล่อยวาง ถ้าเรื่องบางเรื่องเรายังตัดไม่ได้ เท่ากับเราแพ้ใจตัวเอง เล่มนี้ให้แง่คิดทำให้เราเห็นถึงสัจธรรมชีวิต โปรดเล่มนี้มาก วางไว้ข้างเตียง วันไหน หาทางออกกับปัญหาไม่ได้ก็หยิบมาเปิดอ่าน บางบทอ่านแล้วก็ลืม แต่บางบทอ่านซ้ำๆ แบบนั้น ”


