เสียงกรีดร้องของความจริง
โดย...แหนงดู
โดย...แหนงดู
หนังฝรั่งเศสเรื่องนี้ทำให้โลกตะลึงมาแล้ว ด้วยการล้วงลับล้วงลึกไปสู่แวดวงตำรวจที่ไม่ใช่ว่าจะได้ล่วงรู้กันได้ง่ายๆ
Polisse นำเสนอภาพวันทำงานของตำรวจหน่วยคุ้มครองเด็ก ซึ่งมีหน้าที่จับกุมพวกล่วงละเมิดเด็ก รวมไปถึงจัดการกับนักล้วงกระเป๋ารุ่นเล็ก แม้กระทั่งสืบสวนพ่อแม่ที่ทำร้ายลูกของตัวเอง ตลอดจนฟังคำให้การของเด็กๆ ไม่ว่าจะปัญหาเรื่องเซ็กซ์หรืออื่นๆ ต้องมารับรู้เรื่องราวเลวร้ายต่างๆ โดยเฉพาะ เฟร็ด ตำรวจใหม่ผู้ซึ่งอ่อนไหวไปกับสถานการณ์ที่เข้ามากดดัน ลำพังงานที่ทำก็เครียดอยู่แล้ว ยิ่งพวกเขา เมลิสซา ช่างภาพที่ทางกระทรวงมหาดไทยส่งมาสังเกตการณ์ทำงาน ทั้งหมดก็ยิ่งเครียดยิ่งขึ้นไปอีก
หนังเรื่องนี้สร้างความฮือฮาอย่างมาก เป็นการตีแผ่การทำงานของหน่วยงานตำรวจซึ่งน่าสนใจ ตำรวจที่ไม่ได้มีหน้าที่แค่บังคับใช้กฎหมาย แต่ยังมีบทบาททางด้านสังคมสงเคราะห์ด้วย
ช่วงต้นของหนัง เราต้องต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเองว่า อยากจะดูต่อหรือเลิกดูไปเลย แต่ในที่สุดความอยากดูก็ชนะ
นี่เป็นหนังที่จะทำให้คนดูหัวเราะแล้วร้องไห้สลับไปมาอย่างง่ายดาย ทว่าไม่ได้ “แก่น” ที่ต้องการนำเสนอ ความสามารถของผู้กำกับนั้นปรากฏโดดเด่น โดยเฉพาะฉากละเอียดอ่อนที่เกี่ยวข้องกับพวกเด็กๆ ภาพน่าเกลียดน่ากลัวแทนที่ภาพสวยงามแต่ก็ไม่เสียเป้าหมาย เธอเลือกได้อย่างถูกต้องว่า อะไรควรจะเพิ่มอารมณ์ดราม่าเข้าไป อะไรควรจะหลีกเลี่ยงแปลงเปลี่ยนเป็นอารมณ์อื่นๆ มายเวนน์ ยังให้เกียรติคนต้นเรื่องในวิธีการของเธอ ขณะที่การแสดงก็มีความเข้มแข็งเข้มข้น
Polisse ถูกเสนอชื่อเข้าชิง 13 สาขาซีซาร์อวอร์ด (ออสการ์ของฝรั่งเศส) มากที่สุด ก่อนจะคว้า 2 รางวัล คือ ตัดต่อยอดเยี่ยม และนักแสดงหญิงที่น่าจับตาไปครอง ที่สำคัญได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจูรีไพรซ์ เทศกาลหนังเมืองคานส์ 2011
นี่คือหนังที่จะทำให้ทุกคนตระหนักว่า ขณะที่พวกเรากำลังมีความสุขกับชีวิตและงาน ความจริงอันโหดร้ายกำลังเกิดขึ้นอยู่ในอีกฟากของสังคมและส่วนหนึ่งของโลก@
Polisse สู้เพื่อดวงใจอันยิ่งใหญ่
ปี 2011
ประเทศ ฝรั่งเศส
ประเภท ชีวิต/อาชญากรรม
ความยาว 127 นาที
กำกับ มายเวนน์
แสดงนำ คาริน วิอาร์ด, มารินา โฟอิส, โจอี สตาร์, เอมมานูเอล เมอร์คอท, นิโคลา ดูโวเชลล์, มายเวนน์
แรงบันดาลใจของมายเวนน์
ผู้กำกับหญิงชาวฝรั่งเศส มายเวนน์ ได้รับแรงบันดาลใจในการทำงานชิ้นนี้จากสารคดีเกี่ยวกับหน่วยคุ้มครองเด็ก
“วันรุ่งขึ้นฉันโทรไปหาสถานีโทรทัศน์ทันทีแล้วบอกว่าฉันอยากติดต่อกับผู้กำกับสารคดีคนนั้น ฉันอยากจะรู้ว่าฉันจะไปพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยคุ้มครองเด็ก (ซีพียู) ได้ยังไง
“ก่อนที่ฉันจะมั่นใจว่าฉันอยากจะเขียนบทภาพยนตร์เกี่ยวกับซีพียูจริงๆ ฉันรู้สึกว่าฉันจะต้องทำความรู้จักกับชีวิตของตำรวจเหล่านี้เสียก่อน ฉันอยากจะใช้เวลากับพวกเขา ฟังพวกเขา และดูพวกเขาใช้ชีวิต มันเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานและยากเย็นค่ะ แต่ในที่สุด ฉันก็ได้รับการยอมรับให้ฝึกงาน และฉันก็จากกลุ่มหนึ่งไปหาอีกกลุ่มหนึ่ง ฉันจดบันทึก ทำตัวเป็นเหมือนฟองน้ำที่ดูดซับข้อมูลทั้งหมดเท่าที่ฉันจะหาได้ แม้กระทั่งระหว่างพักรับประทานอาหารเที่ยงสามชั่วโมง หรือหลังเลิกงานที่พวกเขาไปดื่มกัน ฉันก็จะตามไปด้วยเพื่อที่จะไม่พลาดการพูดคุยของพวกเขา และฉันก็จะรัวคำถามใส่พวกเขา
“สิ่งที่ฉันเขียนได้เค้าโครงมาจากเรื่องราวที่ฉันได้เห็นจริงๆ หรือจากเรื่องราวที่พวกเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกฉัน ฉันได้เปลี่ยนแปลงบางสิ่งในบางคดีไปบ้าง แต่ฉันก็ไม่ได้คิดมันขึ้นมาเอง ฉันได้รู้อย่างละเอียดว่าตำรวจพวกนี้ทำอะไรบ้างในแต่ละวัน และฉันก็ไม่อยากข้ามหน้าที่หนึ่งใดของพวกเขาไปเลย ฉันอยากจะพูดถึงพวกล่วงละเมิดเด็ก เพศสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องในครอบครัวชั้นสูง สภาพการณ์ของพวกวัยรุ่น และ ฯลฯ ในทางกลับกัน ฉันพบว่าสิ่งสำคัญคือการแสดงให้เห็นว่าในตอนที่พวกเขารับคดีหนึ่งๆ พวกเขาจะติดตามมันตราบใดที่ผู้ต้องหายังอยู่ในการควบคุมตัว แต่พวกเขาอาจจะไม่ได้รับฟังคำตัดสินที่ออกมา พวกเขาจะต้องรับมือกับคดีแล้วคดีเล่าอย่างรวดเร็วเพื่อจะไม่เกิดความรู้สึกเกี่ยวข้องกับคดีใดคดีหนึ่ง ฉันก็เลยตั้งใจที่จะไม่ให้ผู้ชมได้รู้ว่าผู้ต้องหาต่อไปเป็นยังไงบ้าง เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาบ้าง
“ก่อนอื่นเลย ฉันคิดว่าฉันได้ดูหนังตำรวจมาทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นหนังฝรั่งเศสหรือหนังต่างประเทศ แม้แต่ อัลแลง เดอลอง ตอนที่เขารับบทเป็นตำรวจก็เถอะ แต่แรงบันดาลใจของฉันจริงๆ มาจากสารคดีเกี่ยวกับตำรวจของเวอร์จิล เวอร์เนียร์ พวกเขาแสดงให้เห็นถึงมุมมองของผู้กำกับภาพยนตร์จริงๆ ที่มีต่อชีวิต พูดแบบกว้างๆ สารคดีชั้นเลวเป็นแรงบันดาลใจให้ฉันมากกว่าภาพยนตร์ดีๆ อีกค่ะ ฉันไม่ได้เป็นผู้รอบรู้เกี่ยวกับภาพยนตร์ และฉันก็ไม่ได้พยายามจะเป็นแบบนั้น แต่ฉันต้องบอกว่าความรู้ของฉันไม่ได้ช่วยฉันในการเขียนสักกเท่าไหร่ สิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกตื้นตันและทำให้ฉันรู้สึกอยากเขียนคือตอนที่ฉันรู้ว่าเรื่องราวนั้นเกิดขึ้นจริงๆ สิ่งที่ผลักดันให้ฉันก้าวต่อไปคือเหตุการณ์ในชีวิตจริงค่ะ”
ฉายเฉพาะโรงภาพยนตร์ในเครือเอเพ็กซ์ สยามสแควร์ เท่านั้น


