เตรียมยกยอ ‘กุ้งเคย’ กันเถอะ
วันนี้ผมจะชวนท่านผู้อ่านไปยกยอเคยกันที่ปากน้ำประแสร์ จ.ระยอง ชุมชนประแสร์เป็นชุมชนที่ติดกับแม่น้ำประแสร์ที่ลงอ่าวไทยอีกสายหนึ่ง
วันนี้ผมจะชวนท่านผู้อ่านไปยกยอเคยกันที่ปากน้ำประแสร์ จ.ระยอง ชุมชนประแสร์เป็นชุมชนที่ติดกับแม่น้ำประแสร์ที่ลงอ่าวไทยอีกสายหนึ่ง
โดย...จำลอง บุญสอง
วันนี้ผมจะชวนท่านผู้อ่านไปยกยอเคยกันที่ปากน้ำประแสร์ จ.ระยอง ชุมชนประแสร์เป็นชุมชนที่ติดกับแม่น้ำประแสร์ที่ลงอ่าวไทยอีกสายหนึ่ง ความที่เป็นชุมชนติดแม่น้ำที่ใกล้ทะเลที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ เวลาน้ำขึ้นและน้ำลงจึงมีกุ้งเคยจากทะเลไหลตามน้ำมาด้วย
กุ้งเคยก็คือกุ้งที่เอามาทำกะปิดีนั่นแหละ!
และด้วยความเป็นชุมชนริมแม่น้ำที่ต่อกับทะเล คนประแสร์จึงสามารถยกยอกุ้งเคยได้ที่ริมน้ำหน้าบ้านได้โดยง่าย เวลายกก็เดินมายก เวลาที่เหลือก็ทำงานบ้านไปดูทีวีไป วันไหนเป็นช่วงน้ำเป็น (มีน้ำไหลขึ้นลงมาก) มีเคยไหลตามน้ำมามาก แต่ละบ้านก็ได้กันหลายสิบๆ กิโล กุ้งเคยทำแกงป่า ทอดไข่ ยำ กินกันจนพุงกาง ไม่หมดก็ต้องเอามาทำกะปิ ทำเคยเค็มแบบกุ้งจ่อม หรือไม่ก็ไปต้มทำกุ้งแห้งตัวเล็กขาย กุ้งแห้งตัวเล็กๆ ที่เอามาใส่ส้มตำไง ทำแล้วก็เอาไปขายในตลาด ขายส่งออกนอกชุมชน
กะปิระยองแท้ๆ ที่ว่าสะอาดไม่ปนเปื้อนสีที่ขายตามถนนบางนาตราดขวดละ 90 บาท ส่วนใหญ่ก็มาจากชุมชนประแสร์ทั้งนั้น
กุ้งแห้งของที่นี่ก็ไม่ใส่สีเสียแดงแจ๊ดแบบที่อื่น ต้มแล้วเอาไปตากขายกิโลละสองร้อย ซื้อมากิโลเดียวก็กินไปได้เป็นเดือนๆ อย่าเอามือเอาช้อนเปียกน้ำไปตักก็แล้วกัน
ยอเคยของชาวชุมชนมีเยอะเป็นร้อยๆ พันๆ หลัง วันไหนกุ้งเคยเข้ามามาก ยกหลังโน้นขึ้น ยกหลังนี้ลงก็เหนื่อยแรงแล้ว คุณพี่นรา ชาญวัตถาภรณ์ ประธานกลุ่มโฮมสเตย์ของชุมชน บอกว่า ถ้าไม่เอาไปทำกะปิหรือทำกุ้งแห้งอยากจะเก็บเอาไว้กินสดให้นานๆ ก็อย่าเอากุ้งไปล้างน้ำ ให้เอากุ้งเคยสดที่ได้ใส่ถุงแล้วยัดช่องฟรีซเลย พอจะเอามาทำอาหารคาวก็ให้เอามาล้างน้ำจืด ล้างน้ำจืดกุ้งก็จะคืนสภาพเหมือนกุ้งที่ได้มาใหม่ๆ
ชุมชนเทศบาลเมืองประแสร์ในอดีตเป็นเมืองท่าที่สำคัญของฝั่งทะเลตะวันออกเช่นเดียวกับตราดและท่าใหม่ ช่วง 30-40 ปี ใครจะไปกรุงเทพฯ ก็ต้องมาขึ้นเรือด่วนที่ประแสร์เหมือนคนสุพรรณเข้ากรุงเทพฯ ก็ต้องนั่งเรือตามท่าเรือต่างๆ ริมแม่น้ำท่าจีน คนราชบุรี คนสมุทรสงครามจะเข้ากรุงเทพฯ ก็ต้องนั่งเรือเข้าคลองดำเนินสะดวกมาโผล่ที่กลางเมือง
เมืองท่าประแสร์ก็เหมือนกับเมืองท่าอัมพวาที่เคยรุ่งเรืองมาก่อน ครั้นมีการตัดถนนหลวงสายต่างๆ เข้าสู่กรุงเทพฯ เมืองท่า (เรือ) เหล่านั้นก็หมดความสำคัญลง เพราะศูนย์กลางของการคมนาคมเปลี่ยนจากคลองมาเป็นถนน คนภาคตะวันออกไม่ต้องนั่งเรือด่วนมาตามทะเล คนสุพรรณไม่ต้องนั่งเรือมาตามแม่น้ำท่าจีน คนราชบุรี อัมพวาไม่ต้องนั่งเรือในคลองดำเนินสะดวก ชุมชนที่เคยรุ่งเรืองเหล่านั้นก็เลยกลายเป็นชุมชนปิดไปโดยปริยาย คนหนุ่มคนสาวที่เคยนั่งเรือมาเรียนในกรุงก็นั่งรถมาแทน ไม่เพียงแต่เท่านั้น โรงงานต่างๆ ที่ผุดขึ้นมาตามริมถนนตัดใหม่ยังกว้านเอาแรงงานที่เคยทำงานในภาคเกษตรเข้าไปสู่แรงงานในภาคอุตสาหกรรมเสียอีก บ้านเมืองที่มีอยู่ก็เลยกลายเป็นบ้านร้าง บ้านร้างที่มีแต่คนแก่อยู่กะเหย้าเฝ้าแต่บ้านไปทุกๆ ชุมชน
ชุมชนประแสร์ถูกทิ้งร้างมาคล้ายๆ กับชุมชนอัมพวา สมุทรสงคราม เรือประมงที่เคยนำปลามาขายก็ต้องย้ายที่ขึ้นปลาใหม่ เพราะที่เดิมไม่มีคนซื้อ ยิ่งสัตว์น้ำในอ่าวไทยหมดลงมากเท่าใด เรือประมงต้องไปจับปลาตามฝั่งอันดามันหรือที่อินโดนีเซีย ไปแล้วก็ต้องนำปลาขึ้นที่ท่าต่างๆ ทางภาคใต้ของประเทศ เช่น ระนอง หรือสงขลา ขืนเอาเรือมาส่งปลาที่ประแสร์ค่าน้ำมันก็กินหมด ท้ายสุดเรือประมงขนาดใหญ่ของที่นี่จึงลดปริมาณลง
ดีที่ว่าภาคตะวันออกเป็นภาคที่การท่องเที่ยวคึกคักตลอดปี มีนักท่องเที่ยวมาก็มีคนซื้ออาหารทะเลไป นอกจากอาหารทะเลที่หาได้ตามชายฝั่งจะใช้เป็นอาหารของคนท้องถิ่นแล้ว ที่เหลือก็ยังได้ขายให้กับนักท่องเที่ยวตามถนนสายบางนาตราดอีกด้วย โดยเฉพาะกะปิและกุ้งแห้งที่ไม่มีการใส่สีผสมอาหารหรือสีย้อมผ้า
แม้นที่นี่ปลูกป่าชายเลนเอาไว้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์เล็กสัตว์น้อยก่อนจะไปเติบใหญ่กลางทะเลลึกได้ ซ้ำยังมีแม่น้ำประแสร์พาเอาฮิวมัสมาเป็นอาหารให้แพลงก์ตอน แพลงก์ตอนเป็นอาหารของกุ้งเคย หอย ปู ปลาขนาดเล็กเพื่อให้มันได้เติบโตไปเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ในทะเลลึกเพื่อกลับมาวางไข่ที่ป่าชายเลนอีก แต่ปัญหาก็คือ เรือประมงขนาดเล็กอันประกอบไปด้วยผู้คนที่ยากจนทั้งหลายไม่สามารถออกไปจับปลาใหญ่ตามน่านน้ำต่างๆ ได้ พวกเขาจึงจำต้องจับปลาเล็กปลาน้อยที่เพิ่งเกิดอยู่ตามริมฝั่งเพื่อยังชีพ และถ้าจะว่ากันไปแล้ว นั่นคือการตัดวงจรสัตว์ทะเลดีๆ นี่เอง แล้วอย่างนี้จะให้อ่าวไทยไม่ร้างปูปลาได้อย่างไร ปัญหานี้ไม่ได้เกิดจากชาวบ้านผู้หาเช้ากินค่ำแต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากรัฐ รัฐที่ประเคนรายได้แห่งชาติไปให้มือเท้าของคนรวยมือยาว แล้วทิ้งให้คนจนมือสั้นต้องไปขอดทรัพยากรอันน้อยนิดกินจนกลายเป็นคนทำลายวงจรธรรมชาติไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
ตลาดเช้าประแสร์เป็นตลาดเล็กๆ นอกจากจะเอาไว้เป็นที่ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าด้วยเงินแล้ว มันยังเป็นที่ที่ “คนสูงวัย” ในชุมชนได้ถามสารทุกข์สุกดิบของลูกหลานที่อยู่ห่างไกลเหมือนตลาดโบราณอื่นๆ ในประเทศไทย อาหารทะเลที่จับโดยเรือประมงขนาดเล็กของชุมชนถูกนำมาขายในตลาดเช้าและบ่าย ปลาทะเลที่เอามาขายส่วนใหญ่จะเป็นปลาวัยอ่อนที่อยู่ริมชายฝั่งที่ไม่ควรจับมาเป็นอาหาร แต่ถ้าเขาไม่จับมาขายก็จะให้พวกเขาไปทำมาหากินที่ไหนในเมื่อทั้งชีวิตของเขาอยู่ริมทะเล แต่ปัญหาก็คือถ้าพวกเขายิ่งจับสัตว์น้ำวัยอ่อนมากขึ้นเท่าใด สัตว์ทะเลในอ่าวไทยของพวกเขาก็ลดน้อยลงมากขึ้นเป็นงูกินหาง ถ้าจะว่ากันไปแล้วการ “หากิน” ของคนยากจนก็เพื่อ “ไม่มีจะกิน” ในอนาคตแท้ๆ
ปัญหานี้ไม่สามารถแก้ได้ในระดับท้องถิ่น เพราะเป็นปัญหาเรื่องโครงสร้างอำนาจอธิปไตยของชาติ อำนาจอธิปไตยที่เปิดโอกาสให้คนรวยมือยาวสาวรายได้แห่งชาติเอาไปกองอยู่ที่หน้าตักเกินควร คนเล็กคนน้อยก็เลยต้องหันมาทำลายทรัพยากรของชาติเพื่อรอความตายในวันข้างหน้า
วันนี้คนประแสร์มีโฮมสเตย์แล้วครับ พวกเขาพร้อมที่จะรับรองแขกที่จะมาพักได้จำนวนหนึ่ง พักแล้วก็มายกยอกุ้งเคย ยกได้ก็เอามาให้แม่ครัวทำกินตามกรรมวิธีของท้องถิ่น เช่น เอามาทำแกงป่าแบบเดียวกับแกงป่าปลาทรายหรือจะเอามายำ เอามาทอดกับไข่กินกับน้ำปลาแซบๆ ก็ได้ จะตำน้ำพริกกะปิกินกับผักพื้นเมืองก็ได้ ซึ่งเมื่อสองเดือนที่แล้วได้กุ้งเคยเป็นกะละมัง แต่เดือนนี้ (เม.ย.) เป็นช่วงเว้นระยะ ชาวบ้านกำลังยกยอขึ้นตาก รอเวลาให้กุ้งเคยมาอีกครั้งในเดือน พ.ค. นอกจากกุ้งเคย หอยที่นี่มีเยอะครับ ไม่ว่าหอยตลับ หอยหวาน หอยแครง หอยครางหรือหอยปากเป็ด เพราะพื้นที่เป็นทรายปนดินฮิวมัส หอยปากเป็ดที่นี่กินได้ทั้งตัวนะครับ
มีแม่ค้ารายเดียวในตลาดเช้าที่เอาหอยชนิดนี้มายำ และด้วยฝีมือการยำที่เป็นมรดกตกทอดมานาน ยำมาขายทีไร ไม่เกินครึ่งชั่วโมงเป็นหมด เพราะนอกจากคนจะซื้อเอาไปกินแล้ว ยังซื้อเอาไปฝากเพื่อนฝูงอีกต่างหาก เช้านั้นผมชิงกับเขามาได้ไม่กี่ถุง ทรงศักดิ์ ศรีเคลือบ รองประธานสภาอุตสาหกรรมในประเทศไทย ได้ไปถุงสองถุงโทรมาบอกว่าอร่อยจริง แต่ผมว่ามันหวานไปนิดตามรสลิ้นของคนระยอง เอามะนาว พริกขี้หนูใส่เพิ่มเข้าไปหน่อย เยี่ยมจริงๆ กุ้งเคยตากแห้งที่กลมกล่อมตามธรรมชาติเอามายำแบบยำกุ้งแห้งก็เยี่ยมครับ เปลือกนุ่มจึงกินได้ทั้งเปลือก
ร้านอาหารที่อยากจะแนะนำก็คือ ร้านครัวย่าฉิม เขาทำแกงป่าก็อร่อย ต้มส้มก็ยอด ที่เลิศก็คือกุ้งหรือปลาหรือหมูผัดกะปิ ปัญหาก็คือคนภาคตะวันออกโดยเฉพาะคนระยองชอบกินหวาน ใครไม่กินหวานก็ต้องบอกกับทางร้านเขาก่อนว่าไม่กินหวาน เขาจะได้ลดน้ำตาลลง
งานนี้ต้องขอบคุณนายกเทศมนตรีประแสร์ ไชยรัตน์ เอื้อตระกูล คนนี้เป็นนายกมา 3 สมัยแล้ว ไม่ต้องบอกเลยว่าเขาใจกว้างเป็นแม่น้ำอย่างไร ผลของการบริหารงานเทศบาลทำให้เมืองประแสร์เป็นเมืองที่สะอาดมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ไม่พ้นเมืองแกลงที่ผมรู้จัก ครูเบญจา พงษ์เอนก ที่ทำขนมอร่อยให้ทาน อีกคนก็คือปลัดเทศบาลคือ ปลัดเดชฤทธิ์ สิมศิริ ที่กำลังคร่ำเคร่งกับเรื่องทำถนนคนเดินให้ชุมชน และที่สำคัญอีกคนหนึ่งก็คือ ประธานกลุ่มโฮมสเตย์ของชุมชน คุณนรา ชาญวัตถาภรณ์
ใครอยากจะพาไปยกยอตามโฮมสเตย์ริมน้ำประแสร์ ก็ติดต่อคุณนราได้ที่เบอร์ 08-1399-8756 ปลัดเดชฤทธิ์ที่เบอร์ 08-1996-8331


