ปิดเทอมใหญ่หัวใจไม่ว้าวุ่น (มาบวชกันเถอะ...!?)

โครงการบวชภาคฤดูร้อนช่วงซัมเมอร์ ถือเป็นกิจกรรมที่ตอบโจทย์เด็กและเยาวชนในเรื่องการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์

โดย...วรธาร ทัดแก้ว

โครงการบวชภาคฤดูร้อนช่วงซัมเมอร์ ถือเป็นกิจกรรมที่ตอบโจทย์เด็กและเยาวชนในเรื่องการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ทั้งได้เรียนรู้ธรรมะ วินัย และธรรมเนียมของนักบวชได้ฝึกกาย วาจา และขัดเกลาจิตใจของตน ฝึกการอยู่ร่วมกับคนอื่น ขณะเดียวกันก็ตอบโจทย์ผู้ปกครองจำนวนไม่น้อยที่อยากให้ลูกหลานบวชแม้ระยะเวลาสั้นๆ ก็ตาม เพราะเชื่อว่าพวกเขาจะได้สิ่งดีๆ และมีความสุขจากประสบการณ์ครั้งสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิต

การบวชจะเกิดประโยชน์จริงกับผู้บวชหรือไม่ สิ่งสำคัญอยู่ที่ผู้บวชต้อง “สมัครใจบวช” ด้วย ความศรัทธาเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่ด้วยการบังคับ หรือพ่อแม่อยากให้บวชแต่ลูกไม่พร้อม หรือลูกพร้อม แต่พ่อแม่ไม่สนับสนุน อีกส่วนหนึ่งคือตัวโครงการก็เป็นปัจจัยสำคัญ ซึ่งในปัจจุบันมีวัดและศูนย์ต่างๆ จัดโครงการบวชภาคฤดูร้อนนี้ขึ้นมา หลายโครงการเป็นโครงการคุณภาพ ทันสมัย มีความน่าสนใจทั้งในเรื่องของหลักสูตร กิจกรรม วิทยากร ฯลฯ ที่หลายคนอาจไม่รู้และอยากแนะนำเผื่อปีหน้าจะเตรียมตัว

หลักสูตร 9 วัน ที่ฉันตื่น ณ ไร่เชิญตะวัน

มีชื่อเต็มว่า “โครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนเฉลิมพระเกียรติ หลักสูตร 9 วัน ที่ฉันตื่น” โดยการริเริ่มของพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) ประธานโครงการ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-15 เม.ย. ณ ศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน จ.เชียงราย เป็นหลักสูตรที่เหมาะกับเยาวชนจบ ป.6-18 ปี เพราะถ้าไม่ลาสิกขาประธานโครงการจะส่งเสริมในเรื่องของการศึกษาทางพระพุทธศาสนา หรือวิชาการทางโลกต่อไป

หลักสูตรนี้มีความพิเศษคือ ทุกรูปจะได้รับการฝึกปฏิบัติธรรมทั้งทฤษฎีและปฏิบัติอย่างเข้มข้น ตื่นตั้งแต่ตี 4 และจำวัด 3 ทุ่ม เวลากลางวันจะได้เรียนรู้ธรรมะจากการปฏิบัติในชีวิตจริง เช่น การทำวัตร สวดมนต์ นั่งสมาธิ เดินจงกรม ปักกลดเดินธุดงค์ที่ถูกต้องตามแนวทางธุดงควัตร ฉันในบาตรแบบธุดงควัตร การเรียนรู้พระคุณมารดาบิดาอย่างลึกซึ้ง

การฝึกสมาธิตามแนวทางอานาปานัสสติเพื่อช่วยเพิ่มความจำดี คิดเป็นระบบ การฝึกเผชิญกิเลสอย่างตรงไปตรงมา เช่น ความหิว ความง่วง ความกลัว และการอยู่อย่างต่ำทำอย่างสูง โดยมีพระวิทยากรระดับเปรียญธรรม 9 ประโยคเป็นพี่เลี้ยง การทัศนศึกษาและฟังบรรยายพิเศษกับศิลปินแห่งชาติ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ณ วัดร่องขุ่น และ อ.ดร.ถวัลย์ ดัชนี ณ บ้านดำ รวมถึงฝึกการวาดลายเส้นแบบ “One Stroke Painting” สไตล์เซน สอนตวัดลายเส้นเพื่อแก้โรคสมาธิสั้นและรับฟัง “นิทานธรรมะรับอรุณ” เล่าสดๆ โดยท่าน ว.วชิรเมธี ด้วย

“ตลอดโครงการจะมีวิทยากรพิเศษที่ประสบความสำเร็จในระดับชาติและระดับนานาชาติหมุนเวียนมาบรรยายทักษะวิชาชีวิตทุกวัน อาทิ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ หนูดี-วนิษา เรซ บัณฑิต อึ้งรังษี ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา และที่เป็นเกียรติสูงสุดต่อผู้บวชคือ โครงการนี้ได้รับพระราชทานผ้าไตรและอัฐบริขารจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี”

สามเณรปลูกปัญญาธรรม 2

เป็นโครงการที่บริษัทเอกชนโดยกลุ่มทรูร่วมกับวัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 หลังจากปีแรกได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี โดยความพิเศษของโครงการอยู่ที่วิธีการได้มาซึ่งเยาวชนที่อยากบวช 3 ขั้น คือ ต้องส่งผลงานคลิปวิดีโอและเรียงความเรื่อง “พระพุทธศาสนาจะทำให้ผมเป็นคนดีได้อย่างไร” ผ่านทาง www.trueplookpanya.com และคัดเลือกรอบสองโดยพิจารณาจากความพร้อม ความตั้งใจจริงที่จะบรรพชา รวมถึงทัศนคติและการสนับสนุนของครอบครัวผู้สมัคร และรอบสุดท้ายตัดสินโดยคณะกรรมการว่าใครจะเป็น 1 ใน 9 ได้รับการคัดเลือกเป็นสามเณรปลูกปัญญาธรรม ซึ่งบอกได้เลยว่าใครจะได้บวชในโครงการนี้คุณต้องตั้งใจจริง

ความพิเศษอีกอย่างโครงการนี้มีการนำเสนอเรื่องราวการใช้ชีวิตจริงและกิจวัตรประจำวันเยาวชน 9 คน ที่บวชเป็นสามเณรเป็นเวลา 1 เดือน ทั้งขณะอยู่ที่วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก รวมถึงการออกไปทำกิจกรรมนอกสถานที่ เช่น เดินธุดงค์ที่พุทธมณฑล เป็นต้น ในรูปแบบรายการธรรมะเรียลิตี ผ่านทางทรูวิชั่นส์ ช่อง 60 และทรูวิชั่นส์ เอชดี ช่อง 120 และทาง www.trueplookpanya.com/truelittlemonk ตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค.-28 เม.ย.

ปีนี้จัดภายใต้แนวคิด “จากสิ่งที่เป็น สู่สิ่งที่เปลี่ยน” โดยพระราชญาณกวี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก กล่าวว่า ผู้ชมจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของสามเณรตั้งแต่สัปดาห์แรก เพราะเราจะปล่อยให้เขาเป็นและดูว่าจะปรับอย่างไร พอสัปดาห์ที่ 2 จะปรับกิริยาวาจา ถ้าได้ที่เหมือนปรับดินได้ดีแล้วก็พร้อมปลูกปัญญาธรรม และสัปดาห์สุดท้ายจะเห็นการเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่แน่นอน

ด้าน ด.ช.ปัญญ์ เทอดสถีรศักดิ์ หรือน้องปัน อายุ 11 ขวบ จากโรงเรียนจิตรลดา เล่าว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 9 คน เพราะอยากบวชมาก และตั้งใจว่าจะเก็บเกี่ยวธรรมะและสิ่งดีๆ จากโครงการให้มากที่สุด เพื่อนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน

ขณะที่ “เฉิดโฉม” แม่ของน้องปัน กล่าวว่า เชื่อว่าน้องปันจะได้ประโยชน์จากการบวชในครั้งนี้แน่นอน เห็นได้จากโครงการนี้เมื่อปีที่แล้วเด็กมีความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่วันแรก พวกเขาโตขึ้นทุกวันในเรื่องของความคิดความอ่าน ความมีจิตสาธารณะ กิริยาวาจาดี แต่หากไม่เป็นอย่างที่คิดไว้น้องปันก็ต้องอยู่ได้

บวชพุทธสาวิกาน้อย 2 แผ่นดิน

อาจกล่าวได้ว่าเป็นมิติใหม่ของการบวชภาคฤดูร้อนที่โดยทั่วไปเราจะเห็นการบวชของเด็กและเยาวชนชาย แต่เสถียรธรรมสถานโดยแม่ชีศันสนีย์ ร่วมกับสาวิกาสิกขาลัย มหาวิชชาลัยธรรมะเพื่อเยียวยาสังคม ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ขึ้นในสังคมไทยด้วยการจัดการบวชเด็กและเยาวชนหญิงขึ้น เรียกโครงการนี้ว่า “บวชพุทธสาวิกาสองแผ่นดิน” คือ บวชในประเทศไทยและประเทศอินเดีย แดนกำเนิดของพระพุทธศาสนา โดยมีแม่ชีศันสนีย์เป็นประธานโครงการ

โครงการนี้มิใช่เพิ่งเกิดขึ้นในปีนี้ แต่ได้ริเริ่มประเดิมจัดมาแล้วในปี 2555 โดยผู้บวชมีทั้งเด็กและเยาวชนหญิง รวมทั้งผู้ใหญ่ มาปีนี้ก็ได้รับความสนใจจากเด็กและเยาวชนหญิงตลอดจนผู้ใหญ่จำนวนมากเช่นกัน โดยเด็กหญิงที่อายุน้อยที่สุดในครั้งนี้อายุ 5 ขวบ และเป็นเด็กหญิงที่จะเดินทางไปบวชที่อินเดียในวันที่ 31 มี.ค.นี้ด้วย โดยการบวชจะแบ่งเป็น 2 ชุด ชุดแรกจะทำพิธีบวชชีถือศีล 10 เหมือนเช่นสามเณรและทำกิจกรรมต่างๆ มากมาย ที่ประเทศอินเดีย ระหว่างวันที่ 31 มี.ค.-11 เม.ย. ส่วนชุดที่ 2 จะทำการบวชที่เสถียรธรรมสถาน ระหว่างวันที่ 12-22 เม.ย.

ความน่าสนใจของโครงการนี้คือ ความกล้าหาญของผู้ริเริ่มโครงการ และที่สำคัญกว่านั้นคือผู้ริเริ่มไม่มีการปิดกั้นโอกาสของเด็ก แต่เปิดให้กับทุกคนขอเพียงสมัครใจบวชและมีความพร้อมที่จะเข้าสู่โครงการแน่วแน่

“เรื่องเด็กๆ เราไม่ปิดกั้นเลย ยิ่งเล็กยิ่งดี ยิ่งเล็กยิ่งเร็ว คือ ฝึกได้ดีและฝึกได้เร็ว เราต้องเริ่มจากที่เขาเป็นเด็กจะฝึกง่าย เด็กเหล่านี้ที่มาบวชส่วนใหญ่มีพื้นฐานทางธรรมะตั้งแต่อยู่ในครรภ์ พ่อแม่มีสัมมาทิฐิ หลายคนเคยเข้าโครงการจิตประภัสสรของเสถียรธรรมสถาน ก่อนจะบวชให้เรามีการบ่มเพาะ ฝึกละความเคยชินเดิมๆ มาสร้างความเคยชินใหม่ด้วยการฝึกวินัย และสอนในเรื่องกิริยา มารยาท ธรรมเนียมนกบวชที่ควรต้องรู้ เพราะการบวชต้องบวชทั้งกายและใจ”

โครงการนี้ยังเปิดรับสมัครเด็กหญิงอายุตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป ในรอบที่ 2 ระหว่างวันที่ 12-22 เม.ย. โดยสมัครด้วยตัวเองที่เสถียรธรรมสถาน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่โทร. 02-519-1119, 08-4557-5123 หรือติดตามรายละเอียดที่ www.sdsweb.org

ยังมีโครงการบวชภาคฤดูร้อนคุณภาพๆ อีกเยอะที่หลายวัดจัดขึ้น ที่กล่าวมานี้แค่ส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ประโยชน์จะเกิดกับผู้บวชหรือไม่นั้น ก็ต้องถามกลับว่า คุณสมัครใจบวชหรือว่าถูกบังคับ

&<2288;