posttoday

จิตดวงสุดท้ายกับการเจริญสติ

26 มีนาคม 2556

ก่อนนอนทุกคืนเราควรจะเจริญมรณัสสติ นั่นก็คือประสานมือไว้ตรงหน้าท้อง ตามดูลมหายใจของเรา จนกว่าจะหลับไปพร้อมกับการเจริญสติ

โดย...ว.วชิรเมธี ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย

ก่อนนอนทุกคืนเราควรจะเจริญมรณัสสติ นั่นก็คือประสานมือไว้ตรงหน้าท้อง ตามดูลมหายใจของเรา จนกว่าจะหลับไปพร้อมกับการเจริญสติ พอตื่นมา อย่าเพิ่งลุกจากเตียง เอามือประสานหน้าท้อง ตามดูลมหายใจ หายใจเข้าท้องพอง หายใจออกท้องยุบ ตามดูอีกสัก 5 นาที พูดง่ายๆ ว่าก่อนนอน 5 นาที ตื่นนอน 5 นาที แค่นั่นแหละ ปุบปับเป็นอะไรขึ้นกลางคืนเราก็จะไปสุคติ

ตื่นมาตอนเช้า ให้จิตดวงแรกสัมผัสกับสิ่งที่เป็นมงคลที่สุดก่อนคือตามดูลมหายใจ จะตามลมหายใจก็ได้ จะตามดูหน้าท้องที่พองก็ได้ คำแรกที่พูดก่อนจะลุกจากเตียง พูดคำที่เป็นมงคลที่สุด อาตมาจะมีคำว่า พุทโธ เป็นคำติดปาก อาตมาฝึกมาเป็นสิบปีแล้ว แต่ถ้าเราตื่นมาเกาหัวยุ่ง ถ้าเริ่มด้วยฮึ่ม หรืออาการฮึดฮัด ระวังให้ดีนะ วันนั้นจะยุ่งทั้งวัน เคยสังเกตไหม ตื่นมาแล้วเราพูดอะไรก่อน

จากนี้เป็นต้นไป เรามีครูแล้วนะ ฝึกให้ดี ตื่นมา ยังไม่ลุก ตามดูลมหายใจสัก 5 นาทีดีไหม หายใจเข้ารู้ หายใจออกรู้ หายใจเข้าพอง หายใจออกยุบ พอพ้น 5 นาทีแล้วค่อยเข้าห้องน้ำ สดชื่นแล้ว เราเริ่มเบิกฤกษ์ของเราด้วยการเจริญสติ ทีนี้ก่อนนอนทุกคืน งานเต็มไปหมด ก่อนจะนอน ตี 1 แล้ว ปิดคอมพิวเตอร์ งานเต็มหัวเลย ถ้าเข้านอนพร้อมกับงาน มันจะฝันถึงงาน แต่ถ้าโยมเข้านอน โยมตามดูลมหายใจ คุณโยมเชื่อไหม ทีนี้จิตของโยมจะสงบมาก

มีอยู่คืนหนึ่งอาตมาฝัน ระหว่างปล่อยให้เข้าที่พักในความเงียบ อาตมาฝันว่าอาตมากำลังดูจิตอยู่ พอตื่นตี 4 จิตจะปฏิบัติต่อจากในฝันทันทีเลย นี่มันได้ขนาดนี้ คือในฝันก็ฝันว่ากำลังดูจิตอยู่ พอตื่นมาจิตเชื่อมทันที ต่อเนื่องทั้งวัน เป็นสายโซ่แห่งการเจริญสติ

วันหนึ่งอาตมาออกเดิน พลางคิดว่า ช่วงนี้ป่ามันรก ถ้าเจองูจะทำอย่างไร เดินจงกรมจากที่แห่งหนึ่งไปที่แห่งหนึ่ง พอเดินกลับไป งูตัวเท่าแขนนอนตากแดดรออยู่ตรงนั้น

จิตของคนที่เจริญสติ เวลาคิด แรงมาก มีพลังแผ่คลุมไปหมด หลวงพ่อของอาตมาจึงสอนว่า เวลาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน อย่าแช่งใครเป็นอันขาด แช่งแล้วมีผล ท่านถึงให้แก้ด้วยการปฏิบัติเสร็จแล้วให้แผ่เมตตาทันที จิตมีพลังมาก ไปอยู่ใกล้ต้นไม้ ต้นไม้ก็ยังงอกงาม เห็นไหมที่มีคนเปิดบทสวดมนต์แล้วต้นไม้ผลิบาน มันงอกงาม พลังของจิตทั้งนั้น

ฉะนั้นทุกคืน ถ้าเราหลับไปพร้อมกับจิตดวงสุดท้ายทั้งที่ยังเจริญสติอยู่ ก็จะหลับฝันดี มีความตายมาพรากปุบปับ เราก็ได้วีซ่าเป็นวีซ่าขาว กลับมาเกิดในมนุษยภูมิ หรือไม่ก็เทวภูมิ คือไม่มนุษย์ก็เทพ แต่ถ้าเราหลับไปพร้อมกับจิตที่ยุ่งเหยิง ด่ากัน ขู่จะฆ่าจะฟันกัน หรือดูหนังละครน้ำเน่า อิจฉาตาร้อน เสร็จแล้วก็หลับ ปุบปับเป็นอะไรขึ้นมา ทุคติรอเราอยู่แน่ๆ

เรื่องนี้มีคัมภีร์เล่าไว้ คือยาจกคนหนึ่งไปขอทานบ้านเศรษฐี แล้วเห็นเศรษฐีเอาตับบดใส่ข้าวเหยาะน้ำนมให้หมากิน แกบอก หมาบ้านเศรษฐียังดีกว่าฉัน ถ้าได้เกิดเป็นหมาบ้านเศรษฐี แจ๋วเลย คืนนั้นอาหารแกไม่ย่อยเกิดตายขึ้นมา พอจิตดวงสุดท้ายดับ ก็ไปเกิดเป็นลูกหมาบ้านเศรษฐีทันที เข้าไปในท้อง คลอดออกมาเป็นหมา เมื่อวานยังเป็นมนุษย์อยู่เลย พอจิตดับ ไปปฏิสนธิในท้องหมา เพราะจิตมันผูกพัน

พระภิกษุรูปหนึ่ง พี่สาวเอาจีวรมาถวายตอนเย็น ก่อนนอนท่านเอาจีวรมาลูบ ตั้งใจว่า แหม พรุ่งนี้จะห่มจีวรผืนใหม่นี้ไปบิณฑบาต แต่คืนนั้นท่านมรณภาพ เกิดเป็นตัวเล็น ตัวไร ที่จีวรผืนนั้น หลังจากท่านมรณภาพ พระก็เข้าไปจัดห้อง พระพุทธเจ้าบอกว่า จัดห้องได้ แต่จีวรของท่านอย่าให้ใครเอาไปเป็นอันขาด สั่งให้เก็บไว้ 7 วัน แล้วจึงยกเป็นของสงฆ์ ก็มีพระมาถามว่า “ทำไมต้องเก็บไว้พระพุทธเจ้าข้า”

พระพุทธเจ้าบอกว่า “ภิกษุทั้งหลาย จิตของภิกษุรูปนั้นยึดติดถือมั่นอยู่ในจีวร เธอจึงไปเกิดเป็นตัวเล็นตัวไรอยู่ในจีวรนั้น เดี๋ยวรอให้ครบ 7 วัน ซึ่งสัตว์ชนิดนี้อายุสั้นมาก พอเขาตายไปตามอายุสังขาร จีวรนี้ค่อยไปแบ่งแก่สงฆ์”

ใน 7 วันนั้น ถ้าใครไปหยิบจีวร ตัวเล็นตัวไรนี่มันอาฆาต เพราะมันยังวิ่งไปวิ่งมา และร้องว่า “จีวรของกู” พระพุทธเจ้าท่านเห็น

เห็นไหม เอาจิตไปผูกไว้กับอะไร มีแนวโน้มที่จะไปสู่สิ่งนั้นหรือจะไปเป็นสิ่งนั้น ฉะนั้นในทางจิตวิทยา ถ้าใครคิดว่าตนเองชนะ ก็ชนะไปแล้วครึ่งหนึ่ง ใครคิดว่าตนเองแพ้ ก็แพ้ไปแล้วครึ่งหนึ่ง หลักจิตวิทยาและพุทธศาสนาจึงตรงกันในเรื่องของพลังจิต ดังนั้นทุกคืนก่อนนอน เราควรฝึกจิตฝึกใจ ให้จิตดวงสุดท้ายหลับไปกับการเจริญสติ เพื่อที่จะให้เราประพฤติปฏิบัติได้จริงๆ อาตมาจะขอให้ทุกคนได้ทดลองฝึกปฏิบัติโดยให้นอนลง เอาสองแขนแนบไปข้างลำตัว ให้อยู่ในอิริยาบถที่ผ่อนคลายที่สุด

บทสวดมนต์ที่ว่า “เราทั้งหลาย เมื่อร่างนี้ไร้วิญญาณ ก็จะเป็นดังหนึ่งท่อนไม้ที่ถูกเขาทิ้งไว้กลางป่า นิรัตถัง วะ กลิงคะรัง หาประโยชน์อันใดมิได้” ท่านทั้งหลายลองคิดดูว่า ตัวเราเองเป็นดั่งท่อนไม้ ที่ปราศจากลมหายใจ พอเขาทิ้งไว้กลางป่า ตากแดด ตากฝน ก็หมดคุณค่าไป ถ้าหากคืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่เรากำลังเข้านอน เราจะนอนกันอย่างไร ผิว์ความตายมาพรากเราจะรับมืออย่างไร ขอให้ทุกคนคิดว่า คืนนี้จิตดวงสุดท้ายของเราจะต้องดับไปพร้อมกับการเจริญสติ

เมื่อหลับตาลง ขอให้คิดว่านี่คือการนอนครั้งสุดท้ายในอัตภาพนี้ ผิว์ความตายมาพรากในค่ำคืนนี้ เราจะรับมือความตายอย่างดีที่สุด เราจะไม่ตายอย่างคนที่หลงตาย แต่เราจะตายอย่างสงบ ตายอย่างสง่า ตายอย่างงดงามด้วยการเจริญสติ เอามือมาแตะไว้ตรงหน้าท้อง เหนือสะดือ เบาๆ สบายๆ ทำให้ผ่อนคลายที่สุด หายใจเข้าลึกๆ แล้วหายใจออกยาวๆ ผ่อนคลาย ตามดูอาการของท้องที่พองยุบ หายใจเข้าท้องพอง หายใจออกท้องยุบ

ตามดูตามรู้ไป จนจิตดวงสุดท้ายตกลงสู่ภวังค์หลับลึก อย่างสงบ ลองปฏิบัติดูนะ

นอกจากตามดูตามรู้ลมหายใจหรืออาการพองยุบของลมหายใจแล้ว มีอีกวิธีหนึ่งที่เราจะเป็นผู้มีกรมธรรม์ประกันภพหน้าว่าจะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ นั่นคือเราต้องมีศีล ก่อนนอนนอกจากจะตามดูตามรู้ลมหายใจแล้ว ทุกท่านควรสมาทานศีลให้ตัวเองเงียบๆ อธิษฐานในใจ ท่านอาจจะสมาทานก่อน แล้วค่อยตามดูตามรู้ลมหายใจก็ได้

หลังจากสมาทานศีล 5 แล้วก็ตามดูตามรู้ลมหายใจไป หายใจเข้ารู้ หายใจออกรู้ หายใจเข้าพอง หายใจออกยุบ ตามดูตามรู้ไป จนกว่าเราจะหลับไปพร้อมกับจิตดวงสุดท้ายที่ประกอบกุศลกรรม ด้วยวิธีการปฏิบัติดังกล่าวนี้ ผิว์ความตายมาพรากในค่ำคืนนั้น เป็นอันรับประกันได้ว่า เราจะไปสู่สุคติภพอย่างแน่นอน และนี่ก็คือกรมธรรม์ประกันภพหน้าของเราทุกคน

เราคงเคยได้ยินคำกล่าวว่ามนุษย์เลือกเกิดไม่ได้ นั่นนับเป็นความเข้าใจที่ผิด แท้ที่จริงถ้าเราประพฤติปฏิบัติให้ถูกต้อง เราสามารถกำหนดภพหน้าของเราได้ตั้งแต่ภพนี้ด้วยกรรมวิธีที่กล่าวมา

ในระดับจริยธรรม ขอให้เราท่านทั้งหลาย เมื่อตั้งใจทำอะไรดีๆ กับใครแล้ว รีบทำทันที ทำเต็มที่ ทำดีที่สุด ดูแลทุกความสัมพันธ์ด้วยความเคารพอย่างดีที่สุด อย่าให้ความสัมพันธ์ใดๆ นำมาซึ่งความหม่นหมองครองทุกข์หรือความเจ็บช้ำน้ำใจ จากนั้นดูแลตัวท่านเอง และคนที่รายล้อม ให้มีชีวิตที่ร่มเย็นเป็นสุข

ส่วนในระดับปรมัตถธรรม ก่อนนอนขอให้เราเจริญมรณัสสติ โดยการบอกตัวเองว่า หากคืนนี้เป็นคืนสุดท้าย ผิว์ความตายมาพราก ข้าพเจ้าก็จะขอให้คืนสุดท้ายและจิตดวงสุดท้ายนี้ดับไปพร้อมกันกับการเจริญสติ โดยการสมาทานศีลและครองกายครองใจให้หลับลงไปพร้อมกับการตามดูตามรู้ลมหายใจของเรา เมื่อเราประพฤติปฏิบัติทั้งหมดที่กล่าวมานี้ วันหนึ่ง ผิว์ความตายมาพรากโดยไม่คาดฝัน ก็เป็นอันมั่นใจได้ว่าภพหน้าของเราเป็นภพที่ดีอย่างแน่นอน

ถ้าหากพรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายในชีวิต หากเรามีเวลาที่จะทำสิ่งสำคัญที่สุดเพียง 3 สิ่ง เราจะทำอะไร ถ้ามีชีวิตอยู่เพียง 1 วันในโลกนี้ เราเลือกจะทำอะไร 3 สิ่งสำคัญที่สุดเท่านั้น คำตอบข้อนี้จะทำให้เรารู้จักเลือกทำพฤติกรรมที่คุ้มค่าที่สุด เพราะถ้าเราบอก ยังไม่เป็นไรหรอก เราจะทำสารพัด นู่นก็ทำ นี่ก็ทำ แต่ถ้าเราเหลือวันพรุ่งนี้เพียงวันเดียว เราจะต้องเลือกทำแต่พฤติกรรมที่ดีที่สุด

ข่าวล่าสุด

เปิด Top 3 ดวงขึ้นแรงสุด 12 นักษัตร นักธุรกิจ ใครปัง รับปีม้าไฟ