posttoday

นัฐรุจี วิศวนารถ เรียนไปทำงานไปได้ประสบการณ์ที่ดี

24 มีนาคม 2556

สาวน้อยสวยใสวัยทีน รูปร่างกะทัดรัด หน้าตาจุ๋มจิ๋มน่าเอ็นดู น้องสตางค์-นัฐรุจี วิศวนารถ มิสกอสซิป 2012 วัย 19 ปี

สาวน้อยสวยใสวัยทีน รูปร่างกะทัดรัด หน้าตาจุ๋มจิ๋มน่าเอ็นดู น้องสตางค์-นัฐรุจี วิศวนารถ มิสกอสซิป 2012 วัย 19 ปี

โดย...ชมดาว

สาวน้อยสวยใสวัยทีน รูปร่างกะทัดรัด หน้าตาจุ๋มจิ๋มน่าเอ็นดู น้องสตางค์-นัฐรุจี วิศวนารถ มิสกอสซิป 2012 วัย 19 ปี กำลังเรียนชั้นปีที่ 2 ที่คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (นานาชาติ) มหาวิทยาลัยมหิดล เคยมีผลงานถ่ายโฆษณามาแล้ว 2-3 ชิ้น รวมทั้งงานถ่ายภาพนิ่งอีกเล็กน้อย โดยเซ็นสัญญากับบริษัท 3 ปี จะสิ้นสุดสัญญาในปี 2015

หาประสบการณ์จากการประกวด...

การที่มาประกวดมิสกอสซิป ก็เพื่อหาประสบการณ์ และหากได้รางวัลก็ได้ทุนการศึกษามาแบ่งเบาภาระคุณแม่ อีกทั้งเวทีนี้เน้นสวยใส ไม่ต้องใส่ชุดว่ายน้ำโชว์เรือนร่างอะไรมากเกินไป ถือว่าเป็นการประกวดครั้งแรก และเธอก็สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศได้ โดยมีเงินรางวัล 1 แสนบาทและรถโตโยต้ายาริส 1 คัน และเธอก็คิดไม่ผิดที่มาประกวด เพราะสามารถต่อยอดงานอื่นๆ ให้กับเธอ จนทำให้ค้นพบว่างานในวงการบันเทิงก็เป็นอีกอย่างที่เธอชอบ และคิดว่าเป็นงานที่มีเสน่ห์น่าสนใจมีรายได้ดี

สำหรับตำแหน่งมิสกอสซิปนั้นก็มีงานเข้ามาเรื่อยๆ ทั้งงานถ่ายหนังสือ ออกงานของบริษัท รวมทั้งงานเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ทางบริษัท โมโน กรุ๊ป มีส่วนร่วม เช่น ไปปลูกป่า ทาสีโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร

เทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต...

ด้วยความที่สนใจเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีมาตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย เพราะเห็นคุณลุงที่ทำงานด้านนี้แล้วเกิดชอบ ทำให้น้องสตางค์ประทับใจและตั้งใจว่าจะเรียนและทำงานทางด้านนี้ ดังนั้นวิชาที่เรียนก็คือเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และตอนนี้ก็เป็นนักเรียนทุนของคณะ โดยน้องมีผลการเรียนอยู่ในระดับดี มีเกรดอยู่ที่ระดับ 3 กว่าตลอด

“หนูมองว่าปัจจุบันเทคโนโลยีมันเป็นส่วนสำคัญในชีวิตที่เราขาดไม่ได้แล้ว ในแต่ละวันเราต้องใช้เทคโนโลยีกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง มันเป็นอนาคตที่เราจะต้องใช้มันมากขึ้นๆ ทุกวัน ทุกบ้านต้องมีคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ยุคนี้ต้องมีอินเทอร์เน็ต คนเมืองส่วนใหญ่เล่นเฟซบุ๊ก เทคโนโลยีการสื่อสารทำให้คนอยู่ใกล้กันมากขึ้น ทำให้โลกแคบลง แล้วเราก็จะใช้เทคโนโลยีมากยิ่งขึ้นทุกวัน หนูจึงคิดว่าเรียนวิชานี้คงไม่ตกงาน มันเป็นเทรนด์ของโลก” เธอ กล่าวอย่างมั่นใจ

หากเรียนจบปริญญาตรีแล้วน้องสตางค์คิดว่าจะเรียนต่อปริญญาโททันทีทางด้านการตลาด เพื่อวันนั้นอาจจะมีธุรกิจเล็กๆ เป็นของตนเอง

เรียนดีกิจกรรมเด่น...

ด้วยความที่เป็นลูกคนเดียวน้องจึงไม่มีพี่น้องเป็นเพื่อนเล่น ตั้งแต่เด็กมาจึงเน้นกิจกรรมในโรงเรียนเป็นหลัก พอมาอยู่มหาวิทยาลัย น้องสตางค์ก็ได้เป็นเชียร์ลีดเดอร์ เป็นดาวคณะ อยู่ชมรมถ่ายรูป เรียกว่าหากมีจังหวะเวลาที่ลงตัว น้องสตางค์ก็ไม่รีรอที่จะร่วมกิจกรรมอยู่เสมอ

“เรื่องเรียนเป็นเรื่องหลัก แต่กิจกรรมในโรงเรียน ในคณะก็จำเป็นเหมือนกัน ที่เราควรจะมีส่วนร่วมได้ ลองทำงานกับคนอื่น หัดรับผิดชอบงานอื่นๆ บ้าง เป็นการฝึกแบ่งเวลาและความรับผิดชอบ พอตอนนี้ได้มาทำงานเยอะขึ้น เราก็จะได้แบ่งเวลาได้ดีขึ้นกว่าเพื่อนในวัยเดียวกัน การได้เรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย ทำให้เรามีความรับผิดชอบมากขึ้น บริหารเวลาได้ดีขึ้น” เธอ กล่าวด้วยรอยยิ้ม

 


 

 

ข่าวล่าสุด

ไทยเบฟคว้า 2 รางวัลอาหารจากเวที RED TABLE AWARDS 2025