posttoday

ธูปที่ไม่มีวันดับ บทสวดที่ไม่มีวันจบ

16 มีนาคม 2556

เมื่อปีที่แล้วตัวเลข 260 ปรากฏแทบทุกวัดในประเทศไทย และในปีนี้ชุดตัวเลขเดิมจะกลับมาอีกครั้ง ในวัด ณ ศรีลังกา

เมื่อปีที่แล้วตัวเลข 260 ปรากฏแทบทุกวัดในประเทศไทย และในปีนี้ชุดตัวเลขเดิมจะกลับมาอีกครั้ง ในวัด ณ ศรีลังกา

โดย...กาญจน์ อายุ

เมื่อปีที่แล้วตัวเลข 260 ปรากฏแทบทุกวัดในประเทศไทย และในปีนี้ชุดตัวเลขเดิมจะกลับมาอีกครั้ง ในวัด ณ ศรีลังกา

“260” คือตัวเลขของความสัมพันธ์ทางพระพุทธศาสนาระหว่างไทยและศรีลังกา เรื่องราวเริ่มนับหนึ่งในปี พ.ศ. 2296 เมื่อพระอุบาลี พระธรรมทูตจากสยามได้เดินทางถึงศรีลังกาแล้วทำการอุปสมบทสามเณร ซึ่งถือเป็นกาลแรกที่พระพุทธศาสนานิกาย “สยามวงศ์” ประดิษฐานบนแผ่นดินลังกา

แต่ก่อนที่จะเริ่มนับหนึ่ง สยามวงศ์มีที่มาตั้งแต่สมัยพระเจ้าศรีวิชัยราชสิงห์แห่งอาณาจักรแคนดี (พ.ศ. 2282-2290) ช่วงเวลาที่พระพุทธศาสนาในลังกาตกอยู่ในภาวะเสื่อมถอย ขาดแคลนพระสงฆ์ พระองค์จึงทรงปรึกษาสามเณร “สรณังกร” ผู้รอบรู้ภาษาบาลีและคัมภีร์ ท่านเสนอให้ส่งพระธรรมทูตไปขอพระสงฆ์จากกรุงศรีอยุธยา แผ่นดินที่พระพุทธศาสนามั่นคง ให้กลับมาฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในลังกา

ความพยายามส่งพระธรรมทูตไปกรุงศรีอยุธยาเกือบสำเร็จ เรือได้มาถึงปากน้ำสยามแล้ว แต่ก็ต้องกลับไปเพราะพระเจ้าศรีวิชัยราชสิงห์สิ้นพระชนม์ ในรัชสมัยต่อมา สามเณรสรณังกรได้ทูล “พระเจ้ากีรติศรีราชสิงห์” กษัตริย์ผู้สืบทอดบัลลังก์ให้ทรงส่งพระธรรมทูตไปกรุงศรีอยุธยาอีกครั้ง และเป็นไปตามที่คาดหวัง พระธรรมทูตได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศสำเร็จในเดือน ต.ค. 2294

กษัตริย์ไทยทรงโปรดให้คณะสงฆ์และราชทูตสยาม โดยมีพระราชาคณะ 2 รูป ได้แก่ “พระอุบาลีมหาเถระ” และพระอริยมุนีมหาเถระ เป็นผู้นำเดินทางไปลังกาในเดือน ธ.ค. 2294 แต่กว่าจะถึงลังกาและเข้าเฝ้าฯ พระเจ้ากีรติศรีราชสิงห์ ได้สำเร็จต้องใช้เวลากว่า 2 ปี โดยระหว่างทางเรือถูกคลื่นใหญ่ซัดเสากระโดงหักและไปเกยตื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช

เมื่อคณะสงฆ์และราชทูตสยามขึ้นฝั่งบนลังกาแล้ว วันที่ประวัติศาสตร์ต้องจดบันทึกคือ วันที่ 19 ก.ค. 2296 พระเจ้ากีรติศรีราชสิงห์ทรงอาราธนาให้คณะสงฆ์สยามทำการอุปสมบทสามเณรสิงหล 6 รูป รวมถึงสามเณรสรณังกร ณ วัดมัลวัตตะ เมืองแคนดี เป็นการเริ่มนับ “หนึ่ง” ของพระพุทธศาสนานิกายสยามวงศ์ในลังกา และยังคงเป็นนิกายที่มีจำนวนพระสงฆ์มากที่สุดในศรีลังกา ณ ปัจจุบัน

สามเณรสรณังกร ต่อมาได้เป็นสมเด็จพระสังฆราชแห่งลังกาในนิกายสยามวงศ์เป็นองค์แรก ส่วนพระอุบาลีมหาเถระ ท่านได้อุปสมบทชาวลังกาเป็นพระจำนวน 700 รูป บวชเป็นสามเณร 3,000 รูป ทำให้ลังกาไม่ขาดแคลนพระสงฆ์อีกต่อไป และได้มรณภาพที่ลังกานั่นเอง

เมื่ออดีตเริ่มต้นจึงส่งผลถึงปัจจุบัน ชาวพุทธในศรีลังกายังคงตระหนักในคุณูปการที่สยาม โดยเฉพาะพระอุบาลีที่มีต่อพระพุทธศาสนาในศรีลังกา เพราะหากไม่มีการส่งคณะสงฆ์และราชทูตสยาม พระพุทธศาสนาก็อาจสูญสิ้นไปแล้ว

นี่ไม่ใช่หนี้บุญคุณ 260 ปี แต่เป็น “สายสัมพันธ์” อันยาวนานระหว่างทางไทยและศรีลังกา ซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะรักษาสิ่งที่เราให้ไปไว้อย่างหวงแหนที่สุด

วันอาทิตย์ที่ศรีลังกาถูกขานว่าเป็น Sea of White คลื่นคนสวมชุดขาวไหลไปรวมกันที่วัด เป็นแบบนี้ทุกสัปดาห์ เป็นเช่นนี้มาเนิ่นนาน ความเคร่งครัดในภาคปฏิบัติยังมีในรายละเอียด เช่น ต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าวัด ห้ามหันหลังให้พระพุทธรูป นักเรียนต้องเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ที่วัด และในวันพระห้ามขายหรือดื่มสุราในที่สาธารณะ เป็นต้น

ความศรัทธาระงมอยู่ในทุกวัด โดยเฉพาะในเมืองอนุราธปุระ เมืองโบราณสถานเทียบได้กับ จ.พระนครศรีอยุธยา บ้านเรา วัดที่มีชื่อเสียงในเมืองนี้ อาทิ เจดีย์รุวันเวลิ (Ruwanweli Seya) เป็นเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองอนุราธปุระ วัดเชตวนาราม (Jethawanaramya) ภายในวัดมีเจดีย์เชตวัน เจดีย์ใหญ่ที่สุดในโลกและสูงเป็นอันดับสามของโลกในยุคเดียวกัน รองจากพีระมิดสองแห่งในอียิปต์ ต้นศรีมหาโพธิ์ (Srimaha Bodhiya) ที่เชื่อว่าเป็นหน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์จากพุทธคยา ประเทศอินเดีย ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้

ใกล้กันกับเมืองอนุราธปุระมี วัดมหินตเล (Mihinthalaya) ภายในวัดมียอดเขาอาราธนากาล ที่เชื่อว่าเทวดาเคยมาชุมนุมฟังธรรมจากพระมหินทเถระ และวัดถ้ำดัมบูลา (Dambulla Cave Temple) ภายในถ้ำมีจิตรกรรมฝาผนังที่ยิ่งใหญ่วาดบนผนังถ้ำที่ไม่สม่ำเสมอ และมีพระพุทธรูปนานาปางที่มีสัดส่วนตามขนาดของถ้ำ UNESCO ได้ประกาศให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมแล้ว

และหากความศรัทธามีระดับ เมืองแคนดี (Kandy) จะมีความเข้มข้นสูงสุดกระจุกตัวอยู่ที่ “วัดพระเขี้ยวแก้ว” (Temple of the Sacred Tooth Relic) ที่ประดิษฐานพระทันตธาตุของพระพุทธเจ้า พระเขี้ยวด้านซ้ายของพระองค์

พระเขี้ยวแก้วนั้นแต่เดิมอยู่ที่อินเดีย แต่เมื่อครั้งที่กษัตริย์ศรีลังการบชนะกษัตริย์อินเดีย เจ้าหญิงอินเดียนาม “เหมชาลา” ได้ลอบเก็บพระเขี้ยวแก้วไว้ในมวยผมนำเข้ามาไว้ในศรีลังกา ประเทศที่สามารถปกป้องสมบัติล้ำค่าได้ ปัจจุบันพระเขี้ยวแก้วเก็บอยู่ในงาช้างลักษณะคล้ายเขี้ยว และเก็บไว้อีกทีในเจดีย์ทอง 3 ชั้น แต่ละชั้นล็อกหนาแน่น ซึ่งลูกกุญแจถูกเก็บรักษาโดยพระผู้ใหญ่ 3 ท่าน

พระเขี้ยวแก้วคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดในชีวิตของชาวศรีลังกา เมื่อกำเนิดบุตรธิดาต้องอุ้มมาขอพรจากพระเขี้ยวแก้ว และทุกวันประชาชนนับไม่ถ้วนจะมาต่อคิวเพื่อมองเจดีย์ทองคนละไม่ถึง 3 วินาที โดยประตูจะเปิดเพียง 3 ครั้งต่อวัน

อาการขนลุกสะดุ้งทันทีเมื่อประตูเปิด เพราะเมื่อแค่แง้มเสียงสวดมนต์ก็พรั่งพรูระงม ภาพที่คนทั่วไปเห็นคือเจดีย์สีทองอร่าม บางคนมีสิทธิเห็นงาช้างที่ครอบพระเขี้ยว แต่ยังหาคนที่มีบุญได้เห็นพระเขี้ยวที่แท้จริงไม่ได้ เกิดเป็นข้อสงสัยว่าพระเขี้ยวของจริงมีลักษณะเช่นไร คนท้องถิ่นกล่าวว่ามีขนาดเล็กไม่ต่างจากฟันปุถุชน ถามกลับว่าเคยเห็นของจริงหรือไม่ เขาตอบไม่เคย ถามต่อว่าแล้วเคยเห็นภาพถ่ายหรือไม่ เขาตอบเคยเห็นในภาพถ่าย แต่ไม่มีภาพถ่ายให้ดูแล้ว

เขาไม่จำเป็นต้องหาภาพถ่ายมาพิสูจน์สิ่งใด เพราะชาวศรีลังกาได้พิสูจน์แล้วว่า พระเขี้ยวแก้วสำคัญต่อจิตวิญญาณมากแค่ไหน และสามารถยึดเหนี่ยวจิตใจของคนทั้งประเทศได้มากกว่าสนามแม่เหล็กใดๆ บนโลก

19 ก.ค. 2296 ไม่เพียงเป็นวันที่สยามวงศ์กำเนิด แต่ยังเป็นวันที่พระพุทธศาสนาในใจคนศรีลังกากลับมาโชติช่วงอีกครั้ง และราวกับว่าจะไม่มีวันมอดไปจากประเทศนี้อีกแล้ว

ข่าวล่าสุด

ALATi “สยาม เคมปินสกี้” เมดิเตอร์เรเนียนโมเมนต์ สำหรับวันธรรมดาที่สุดพิเศษ