สุชาดา นิ่มนวล ‘ถ้าคิดจะทำแล้ว ต้องออกมาดีที่สุด’
“ถ้าคิดจะทำแล้ว ต้องออกมาดีที่สุด” เฟิร์น-สุชาดา นิ่มนวล สาวสวย นัยน์ตากลมโต มีบุคลิกโดดเด่นเฉพาะตัว
“ถ้าคิดจะทำแล้ว ต้องออกมาดีที่สุด” เฟิร์น-สุชาดา นิ่มนวล สาวสวย นัยน์ตากลมโต มีบุคลิกโดดเด่นเฉพาะตัว
โดย...ณัฐกานต์ โดยชื่นงาม
“ถ้าคิดจะทำแล้ว ต้องออกมาดีที่สุด” เฟิร์น-สุชาดา นิ่มนวล สาวสวย นัยน์ตากลมโต มีบุคลิกโดดเด่นเฉพาะตัว บอกกับเราอย่างนั้น ปัจจุบันเฟิร์นกำลังศึกษาอยู่ที่คณะนิเทศศาสตร์ สาขาวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ชั้นปีที่ 4 เธอเป็นนักกิจกรรมตัวยง แต่เรื่องการเรียนเธอก็ไม่ทิ้งจนสามารถคว้าผลการเรียนระดับเกียรตินิยมอันดับ 1 มาครองได้สำเร็จ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่นักศึกษาคนหนึ่งจะแบ่งเวลาให้กับการเรียนและกิจกรรมได้ดีทั้งคู่ แต่เจ้าตัวก็ยังถ่อมตนว่าไม่ได้เป็นคนเก่ง เพียงแต่เธออาศัยเอาความขยันเข้าช่วยจนทำให้มาถึงทุกวันนี้ได้
“ช่วงที่เรียนโรงเรียนตอนประถมถึงมัธยมเคยได้เป็นประธานนักเรียนของโรงเรียน ชอบทำกิจกรรมเกือบทุกอย่าง รำไทยก็เคยอยู่ในชมรมนาฏศิลป์มา บุคลิกอาจจะดูไม่ให้ใช่ไหม (เฟิร์นถามกลับระคนหัวเราะอย่างร่าเริง) แต่ตอนนั้นเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของวัยรุ่น ก็มีเกเรบ้าง และเฟิร์นไม่ได้เป็นคนเรียนเก่งมาก จะประมาณกลางๆ เวลาเกรดออกทุกครั้งต้องเอามาให้แม่ดู ก็มีครั้งหนึ่งที่ไม่เอาให้เขาดู เพราะผลการเรียนเลขแย่มากไม่ดีเลยได้เกรดศูนย์ แต่สุดท้ายแม่จับได้ก็โดนแม่บ่นยาว จากนั้นเราก็ปรับปรุงตัวเริ่มขยันเรียนมาเรื่อยๆ” เฟิร์น เล่าถึงชีวิตช่วงหนึ่งในระดับมัธยม ที่ทำให้เธอกลายเป็นคนขยันเรียนและจริงจังกับทุกสิ่ง
จนกระทั่งเมื่อชีวิตนักเรียนต้องก้าวสู่การเป็นนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยเพื่อกำหนดเส้นทางอาชีพของชีวิต น้องเฟิร์นชื่นชอบรายการข่าวมากเป็นพิเศษ โดยมีผู้ประกาศข่าวในดวงใจอย่าง ต๊ะนารากร ติยายน และกิตติ สิงหาปัด เป็นไอดอล และอยากรู้ว่าเขามีกระบวนการทำงานอย่างไรกว่าข่าวแต่ละชิ้นจะออกมาสู่สายตาประชาชน จึงตัดสินใจเข้าเรียนที่คณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ด้วยแรงใฝ่ฝันอยากเป็นผู้ประกาศข่าว
เฟิร์นเรียนได้ผลการเรียนระดับดีมากมาโดยตลอด จนกระทั่งช่วงเรียนปี 3 มีการทำหนังสือพิมพ์ฝึกปฏิบัติชื่อว่า “หอข่าว” ที่จัดทำขึ้นจากฝีมือนักศึกษาเพื่อส่งเข้าประกวดและเป็นส่วนหนึ่งของวิชา เฟิร์นจึงได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนและอาจารย์ ให้เป็นบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ฝึกปฏิบัติ “หอข่าว” ในที่สุด
“ประสบการณ์จากการได้รับเลือกให้ทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์หอข่าว คือเรื่องของการบริหารคนจำนวนมาก เฟิร์นเป็นคนที่แคร์เพื่อนมากๆ เพราะฉะนั้นการที่เราต้องติเพื่อนสักคนเป็นเรื่องที่ลำบากแต่เราต้องทำ และเรื่องที่สำคัญที่สุดคือเราต้องมีความเป็นกลาง ต้องมีความเป็นผู้นำ ต้องมีความรับผิดชอบงาน
การทำงานใหญ่เราไม่สามารถที่จะทำงานคนเดียวได้ต้องแบ่งหน้าที่ให้คนหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นคนที่เป็น บก.ข่าวของแต่ละฝ่าย เราต้องประสานงานกับทุกคน เราต้องสามารถพูดคุยกับทุกคนได้ และการทำงานต้องมีประสิทธิภาพ และทำให้ดีที่สุดไม่อย่างนั้นเราไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ค่ะ” อดีต บก.หนังสือพิมพ์ฝึกหัดสาวเล่าอย่างภาคภูมิใจ
นสพ.หอข่าว ได้รางวัลทั้งหมด 9 รางวัลจากสมาคมนักข่าว นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ข่าวฝึกปฏิบัติดีเด่น รางวัลชมเชยหนังสือพิมพ์ฝึกปฏิบัติ รางวัลชมเชยข่าว 2 รางวัล รางวัลชนะเลิศข่าวป้ายแดง รางวัลเสื้อสามารถนักข่าวป้ายแดง รางวัลชนะเลิศข่าวไอที และรางวัลชมเชยข่าวไอทีอีก 2 ข่าว ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีผลงานข่าวของเธออยู่ด้วย อีกทั้งยังได้เป็นตัวแทนของสาขาวารสารศาสตร์ไปอบรมเป็นนักข่าวพิราบน้อยของสมาคมนักข่าวฯ และก็มีไปอบรมเป็นวิทยากรของข่าวสิทธิเด็กขององค์กรยูนิเซฟ
นอกจากนี้เฟิร์นยังบอกอีกว่า สิ่งที่เธอได้รับจากการเรียนนิเทศศาสตร์และประสบการณ์ในสนามข่าวช่วงฝึกงานของเธอก็คือการเป็นนักข่าวที่ดี สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องของจรรยาบรรณที่คนทำข่าวทุกคนพึงต้องมี และสำหรับเธอแล้วการทำงานทุกงานไม่ว่าจะเป็นงานเล็กงานใหญ่ต้องออกมาดูดีที่สุด เพราะถ้าทำวันนี้ให้ดีที่สุดวันหน้าก็จะดีเอง จะได้เก็บไว้เป็นความภาคภูมิใจเมื่อนึกถึงผลงานของเราในวันข้างหน้า โอ้ว...เห็นอย่างนี้แล้วอนาคตผู้ประกาศข่าวสาวจะหนีมือน้องเฟิร์นไปไหนได้


