ดินแดนแห่งพม่า มุมเล็กๆ ในพระธาตุอินแขวน
สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ วันนี้ผมอยากพาทุกท่านขึ้นไปเที่ยวพระธาตุอินแขวน
สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ วันนี้ผมอยากพาทุกท่านขึ้นไปเที่ยวพระธาตุอินแขวน
โดย...นพดล ชูกลิ่น
สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ วันนี้ผมอยากพาทุกท่านขึ้นไปเที่ยวพระธาตุอินแขวน หรือภาษาพม่าเรียกว่า เจดีย์ไจ้ทีโย (Kyaithiyo Pagoda) หรือเรียกเป็นภาษาทั่วไปว่า Golden Rock แปลว่า ก้อนหินทองอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,200 เมตร ลักษณะเป็นเจดีย์องค์เล็กๆ สูงเพียง 5.5 เมตร ตั้งอยู่บนก้อนหินกลมๆ ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาอย่างหมิ่นเหม่ แต่ชาวพม่ามีความเชื่อและศรัทธาเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่มีวันตกลงสู่พื้นดินด้านล่างได้และชาวพม่าเองยังเชื่อว่าถ้าหากเป็นผู้ที่มีบุญบารมี และมีความศรัทธาสูงจะสามารถลากเชือกหรือด้ายลอดผ่านระหว่างหินกลมกับพื้นดินได้ โดยเชื่อว่าหินกลมนี้ลอยอยู่ในอากาศตลอดเวลา อันเป็นเพราะมีการบรรจุพระเกศาธาตุศักดิ์สิทธิ์ไว้ในพระเจดีย์องค์นี้
ผมเองมีโอกาสได้ขึ้นไปสักการะองค์พระธาตุอินแขวนหลายครั้ง ทุกๆ ครั้งที่ขึ้นไปก็จะได้ประสบการณ์ที่แตกต่างกันเสมอ ตั้งแต่วิธีการเดินทางขึ้นพระธาตุจะต้องไปขึ้นรถหกล้อที่ใช้ไม้สัก บางคันที่ผมเคยขึ้นเป็นไม้สักทอง ก็มีแต่สิ่งที่ผมตกใจมากๆ คือ ขนาดความหนาและความยาวของไม้ ถ้าหากไม้รองนั่งอันนี้มาขายในเมืองไทยคงมีราคาสูงมากๆ
ผมเลยรู้สึกว่าถึงแม้จะเป็นรถหกล้อแบบเปิดหลังคาที่ต้องนั่งไปแบบโขยกเขยกไปตลอดทาง และจะต้องเจ็บก้นในบางขณะ แต่ก็ถือว่าคุ้ม เพราะได้นั่งบนเก้าอี้ที่มีราคาแพงมากๆ จากเส้นทางที่ลาดชันและหักโค้งไปมาตลอดเส้นทางนั้น คงจะมีปัญหาสำหรับผู้ที่เมารถบ้างนะครับ แนะนำให้ทานยาแก้เมารถก่อนขึ้น และที่สำคัญที่จะช่วยผู้เมารถ คือ การมองออกไปไกลๆ ซึ่งขอบอกว่าเป็นมุมมองที่มีความสวยงามมาก ตั้งแต่แสงแดดที่ทอดผ่าหุบเขาที่มีขนาดใหญ่ทอดยาวสลับซับซ้อนไปมากับสถาปัตยกรรมที่มีสิ่งก่อสร้างตามความเชื่อของพระพุทธศาสนา มีให้เห็นเป็นองค์ประกอบไกลๆ สวยงามมาก ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ผมมักจะถึงจุดนี้ในเวลาบ่ายๆ ที่แตกต่างกัน ผมก็รู้สึกประทับใจทุกครั้ง แต่ไม่เคยบันทึกภาพได้ เพราะรถเคลื่อนที่เร็วและกระโดดไปมาอยู่ตลอดเวลา
และภาพที่สวยจำเป็นต้องใช้เลนส์ถ่ายภาพที่เป็นเทเลส์ที่มีช่วงยาวๆ ในความเห็นผม ช่วง 100-400 mm ถึงจะจัดองค์ประกอบได้ดี เลยไม่เคยบันทึกภาพได้เลยนอกจากนั่งรถอันแสนสนุก การได้นั่งเสลี่ยงก็ถือเป็นประสบการณ์ที่สนุกมากๆ อีกอย่างนะครับ แต่แอบบอกไว้ก่อนนะครับว่า ท่านที่นั่งขึ้นไปแล้วบ่นว่ากระแทกนั้น ขาลงอาจจะทำให้รู้สึกว่ากระเพาะอาหารกับลำไส้ของท่านมากองอยู่รวมกันเมื่อถึงเชิงเขา แต่ก็ไม่อยากให้ทุกท่านพลาดนะครับกับการนั่งเสลี่ยง การขึ้นชมพระธาตุควรขึ้นให้ถึงยอดเขาก่อน 5 โมงเย็นในหน้าหนาว จะได้มีโอกาสบันทึกภาพพระธาตุตอนพระอาทิตย์ตกดิน ซึ่งถือว่าสวยงามมากเหมือนที่เราพบเห็นตามภาพโปสต์การ์ด
จุดถ่ายภาพที่สำคัญมี 2 จุดนะครับ จุดที่หนึ่งจะมีลานอยู่ด้านซ้ายมือก่อนถึงองค์พระธาตุเป็นลานหินอ่อนกว้างๆ จะทำให้เห็นองค์พระธาตุเต็มองค์สวยงามมาก เทคนิคการถ่ายภาพนี้ควรใช้เลนส์เทเลส์ช่วงประมาณ 200 mm นะครับ และควรเปิดหน้ากล้องที่ f8 ขึ้นไป แต่ไม่จำเป็นต้องถึง f11 ก็น่าจะพอนะครับ ส่วนอีกจุดคือ บริเวณด้านข้าง โดยเฉพาะด้านซ้ายมือต้องเดินลงบันไดลงไป ซึ่งบริเวณนี้ถ้าเจ้าหน้าที่เข้มงวดคุณสุภาพสตรีจะลงไปไม่ได้ มุมนี้เก็บภาพที่เป็นอิริยาบถของความศรัทธาของผู้คนที่มาสักการะ ผมได้ภาพชาวบ้านที่มาทำความสะอาดสถานที่ปักธูปเทียน กับภาพที่พระสงฆ์มาเดินสวดมนต์ ผมเลยใช้ความเร็วชัตเตอร์ให้ช้าลง เพื่อให้เกิดภาพที่เคลื่อนไหวตามบรรยากาศที่เต็มเปี่ยมด้วยพลังศรัทธาของชาวพม่า พบกันฉบับหน้าครับ


