โอ้ววว...โอลีฟ

เปล่านะ...เราไม่ได้กำลังจะพูดถึง โอลีฟ สาวรูปร่างผอมบางที่เป็นแฟนของป๊อปอาย แต่หมายถึงผลไม้ลูกเขียวซึ่งบ้านเราเรียกว่า มะกอก อ๊ะ...แล้วก็ไม่ใช่มะกอกที่ใส่ในส้มตำปูด้วย (แอบน้ำลายไหลเล็กน้อย)

ที่เราจะพูดถึงวันนี้คือ มะกอก (Olive) อันเป็นไม้พื้นถิ่นของแถบเมดิเตอร์เรเนียน นอกจากมะกอกเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพแล้ว ลูกของต้นไม้ชนิดนี้ยังเป็นอาหารสุขภาพที่รับประทานกันมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์จนถึงปัจจุบัน

คำว่า โอลีฟ ก็มาจากภาษาละติน Olivea ทางพฤกษศาสตร์แล้วมะกอกมีชื่อว่า Olea Europaea ชื่อนี้ปรากฏครั้งแรกในบันทึกของชาวอียิปต์เมื่อศตวรรษที่ 17 ทั้งยังถูกเอ่ยถึงหลายต่อหลายครั้งในไบเบิล เพราะมะกอกเป็นผลไม้พื้นถิ่นของเมดิเตอร์เรเนียน จึงไม่น่าแปลกใจที่แหล่งผลิตมะกอกที่ใหญ่ที่สุดในโลกจะอยู่แถวๆ อิตาลีและสเปน คนย่านนี้เขาก็นำมะกอกมาประกอบอาหารกันเป็นหลักตั้งแต่โบร่ำโบราณ

ต่อมาในช่วงต้นทศวรรษที่ 18 ชาวสเปนก็ได้นำต้นมะกอกไปปลูกที่แคลิฟอร์เนีย จนถึงปัจจุบันแคลิฟอร์เนียกลายเป็นหนึ่งในแหล่งผลิตสำคัญของมะกอก และในช่วงทศวรรษที่ 19 ศาสตราจารย์เฟรเดอริค ที. ไบโอเลตติ แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียก็คิดค้นวิธีทำมะกอกกระป๋อง (หรือที่เรียกกันว่าเป็นมะกอกสุกสีเขียว) โดยใช้สารละลายด่างและน้ำเกลือ กระบวนการนี้ทำให้มีมะกอกรับประทานกันตลอดทั้งปี แถมยังทำให้เกิดอุตสาหกรรมมะกอกขึ้นด้วย

มะกอกสีเขียวคือ มะกอกที่เก็บก่อนจะสุก ส่วนมะกอกสีดำนั้นเก็บจากต้นหลังจากสุกแล้ว สามารถบริโภคแบบสดแบบดองแบบคั้นเอาน้ำมันก็ได้ทั้งนั้น มะกอกดิบนิยมนำมาใช้หมักเนื้อหรืออาหารตุ๋น อบ หรือปิ้ง ส่วนมะกอกสุกใช้ผสมทำซอส

สำหรับน้ำมันมะกอกนั้นมีอยู่หลายประเภท ที่เป็นดาวเด่นหรือยอดนิยมก็คือ น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ (Extra Virgin Olive Oil) จัดเป็นน้ำมันมะกอกที่มีคุณภาพดีที่สุด (แล้วก็ราคาแพงที่สุดด้วย) ผลิตโดยการสกัดแยกน้ำมันออกมาจากผลมะกอกโดยตรง

แม้จะเป็นน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์เหมือนกัน แต่ว่าสินค้าจากแหล่งผลิตต่างกันก็จะมีรูปพรรณสัณฐานแตกต่างกันอยู่บ้าง เช่น น้ำมันมะกอกจากสเปนจะมีรสและกลิ่นเด่นชัดที่สุด สินค้าจากอิตาลีก็จะมีความคล้ายคลึงกับสเปน ส่วนความเข้มข้นต้องยกให้น้ำมันมะกอกจากกรีซ ใครชอบกลิ่นอายรสชาติละมุนแบบฟรุตตีก็ต้องเลือกมะกอกฝรั่งเศส

เอ็กซ์ตร้า เวอร์จิน โอลีฟ ออยล์นี้เหมาะกับการปรุงอาหารแบบเย็นอย่างเช่นสลัด ใครชอบรับประทานสลัดผักควรมีน้ำมันมะกอกชนิดนี้เก็บไว้เพื่อทำน้ำสลัดแบบง่ายๆ แต่อร่อยมาก แค่ผสมน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์กับน้ำส้มบัลซามิกราดบนผักเท่านั้นก็เสร็จพิธี ว่ากันว่าน้ำมันมะกอกชนิดนี้ดีต่อร่างกายเพราะประกอบด้วยไขมันไม่อิ่มตัว มีวิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระ

ส่วน รอยนวล นิยมมะกอกดองทั้งแบบธรรมดา แบบแกะเม็ดออกแล้ว หรือสอดไส้พริก ดองในน้ำเกลือให้รสเค็ม เปรี้ยว มัน ยิ่งถ้าเป็นมะกอกที่ประดับอยู่บนแก้วดรายมาตินีแล้วละก็ยิ่งช้อบบบชอบค่ะ

อ้อ...ถ้าใครอยากชิมเมนูที่ปรุงด้วยมะกอกก็ลองแวะไปที่ห้องอาหารนานาชาติฟาวเท่น คาเฟ่ โรงแรมสวิสโฮเต็ล เลอ คองคอร์ด กรุงเทพฯ ก็ได้ค่ะ ช่วงนี้เสิร์ฟอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนเป็นบุฟเฟต์มื้อค่ำ มีทั้งมะกอกทั้งชีสและอื่นๆ อีกมากมายให้เลือกรับประทาน หรือถ้าอยากจะเน้นเป็นอาหารสเปนก็ที่ห้องอาหารนานาชาติ เฟลเวอร์ โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ ในบุฟเฟต์มื้อเย็น