อีโค่ รูฟ กลางป่าแม่สะเรียง หลังคาเขียวจากกล่องรีไซเคิล
โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์
โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์
ขอบคุณที่ช่วยกันรีไซเคิล นำสิ่งของที่ใช้แล้วกลับมาใช้ประโยชน์กันใหม่ บางทีน้ำตาซึมเมื่อได้ทราบว่า ผู้คนมากมายได้ประโยชน์จากสิ่งของที่เรา(เคย)คิดว่าไร้ราคาค่างวด รีไซเคิลวันนี้ เป็นรีไซเคิลที่ใช้ความรู้สึกเป็นตัวนำทาง ซึ่งนำเราไป ณ กลางป่าลึกแม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่สัมผัสความคืบหน้าโครงการใช้ประโยชน์จากขยะกล่องอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อผลิตเป็นหลังคาเขียว (Eco Roof) มอบให้แก่ผู้ประสบภัยธรรมชาติทั่วประเทศ
หลังคาเขียวที่แม่สะเรียง
หลังคาเขียว เป็นโครงการในมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างมูลนิธิฯ กับบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ และบริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) เริ่มนับหนึ่งในปี 2553 รณรงค์รับบริจาคกล่องเครื่องดื่มอาหารจากทั่วประเทศ เพื่อนำมาผลิตเป็นหลังคารีไซเคิล
สำหรับผู้ที่เคยบริจาคกล่องนมหรือกล่องเครื่องดื่มต่างๆ มากบ้าง น้อยบ้าง ไม่ว่ากัน อยากรู้แล้วใช่ไหมว่า กล่องบริจาคของคุณถูกนำไปแปรรูปเป็นประโยชน์มหาศาลต่อผู้คนร่วมชาติได้อย่างไร
ในปีแรก มีการรวบรวมกล่องเครื่องดื่มได้ 72 ตัน (7.2 ล้านกล่อง) ผลิตหลังคาเขียวได้ 3,600 แผ่น ในปี 2554 รวบรวมกล่องเครื่องดื่มได้ 208 ตัน (20.8 ล้านกล่อง) ผลิตหลังคาเขียวได้ 1.04 หมื่นแผ่น และในปี 2555 มียอดบริจาคกล่องเครื่องดื่มใช้แล้ว 50 ล้านกล่องจากทั่วประเทศ และนำมารีไซเคิลเป็นแผ่นหลังคาได้ 2.5 หมื่นแผ่น
อย่างไรก็ตาม ความต้องการแผ่นหลังคาเขียวที่สูงต่อเนื่อง ได้จัดส่งหลังคาเขียวให้มูลนิธิฯ เพิ่มเติม รวมทั้งสิ้น 3.8 หมื่นแผ่น เพื่อนำไปช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ เป็นการติดตั้งหลังคาเขียวที่ชุมชนชาวกะเหรี่ยงอันห่างไกล ณ บ้านห้วยโผ ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน
กลอยตา ณ ถลาง ผู้อำนวยการ ฝ่ายสื่อสารองค์กรและสิ่งแวดล้อม บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม เล่าว่า การลงพื้นที่เพื่อติดตามโครงการล่าสุดพบว่าคืบหน้าไปมาก จากการที่ชาวกะเหรี่ยงกว่าร้อยครอบครัวต้องไร้ที่อยู่จากภัยธรรมชาติเมื่อ 2 ปีก่อน ปัจจุบันได้มอบแผ่นหลังคาเขียวให้ไปแล้ว 85 หลังคาเรือน รอการติดตั้งอีก 30 หลังคาเรือน
นอกจากนี้ ก็จัดส่งเพิ่มเติมอีก 6,000 แผ่น ให้กับวัดในพื้นที่ (วัดศรีบุญเรือง) เพื่อนำไปสร้างสถานปฏิบัติธรรม ณ บ้านห้วยโผ ศูนย์รวมจิตใจทางพุทธศาสนาของชุมชนกะเหรี่ยง
กรรมวิธีรีไซเคิลกล่อง
ก่อนจะไปถึงกระบวนการผลิต ขอแนะนำให้รู้จักกับกล่องเครื่องดื่มก่อน กล่องนมหรือกล่องเครื่องดื่มที่เราคุ้นเคยนี้ ผลิตขึ้นจากกระดาษเคลือบพลาสติกและอะลูมิเนียมฟอยล์แผ่นบาง ที่ผนึกแน่นหนาถึง 6 ชั้น ประกอบด้วยส่วนของกระดาษ 75% ซึ่งช่วยทำให้กล่องมีรูปทรงแข็งแรงและทนทาน
ส่วนพลาสติกโพลีเอทิลีนมีจำนวน 20% มีคุณสมบัติของน้ำหนักที่เบา ช่วยเรื่องการผนึก และที่เหลือ 5% คือสัดส่วนของอะลูมิเนียมฟอยล์ ซึ่งช่วยป้องกันอากาศ แสงสว่าง แบคทีเรีย ไม่ให้เข้าไปสัมผัสเครื่องดื่มที่อยู่ภายใน องค์ประกอบทั้งหมดทำให้กล่องเครื่องดื่มไม่ได้เป็นแค่บรรจุภัณฑ์เท่านั้น หากเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ทุกส่วนสามารถนำไปรีไซเคิลได้
ในที่นี้จะกล่าวถึงกรรมวิธีรีไซเคิลเป็นแผ่นหลังคาเขียว หรือ Eco Roof หลังคาที่ได้จากการรีไซเคิลกล่องเครื่องดื่มใช้แล้ว
1.แยกเศษพลาสติกและอะลูมิเนียมฟอยล์ ที่เหลือจากกระบวนการเยื่อกระดาษออกจากกล่องเครื่องดื่ม จากนั้นนำไปอบแห้ง
2.ตัดย่อยเป็นชิ้นเล็กๆ
3.นำไปโรยบนแผ่นเหล็กเพื่อขึ้นรูป จากนั้นประกบทับด้วยแผ่นพลาสติกพีอีที (PET) แบบแผ่นบาง
4.นำเข้าเครื่องอัดร้อน ตั้งอุณหภูมิที่ระดับ 180 องศาเซลเซียส เพื่อหลอมพลาสติกและอะลูมิเนียมฟอยล์ให้ติดกันแน่นเป็นแผ่น
5.นำแผ่นพลาสติกและฟอยล์หลอมที่ได้ (และยังคงความร้อนอยู่) แผ่นพลาสติกและฟอยล์ขณะที่กำลังอ่อนตัว นำมาวางบนแท่นขึ้นลอนหลังคา แล้วใช้แท่งเหล็กกลมวางทับตามลอน
6.ขั้นตอนสุดท้าย ใช้แผ่นกระเบื้องหลังคามาตรฐานวางทับซ้อนอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะนำไปตัดขอบ ทิ้งให้เย็น และนำไปใช้เป็นแผ่นหลังคาสำหรับบ้านอาคารทั่วไป
กลอยตา เล่าว่า กล่องเครื่องดื่มที่ใช้แล้ว 2,000 กล่อง สามารถนำไปผลิตแผ่นหลังคาขนาด 0.90 x 2.4 เมตร ได้ 1 แผ่น โดยบ้าน 1 หลัง จะใช้หลังคาจำนวนกี่แผ่น ขึ้นอยู่กับขนาดของบ้าน ทั้งนี้ จากการคำณวนบ้านเดี่ยวชั้นเดียว 30 ตารางเมตร จะใช้หลังคา 35 แผ่น
คุณสมบัติคับหลังคาเขียว
1.ผลิตจากกล่องเครื่องดื่มที่บริโภคแล้ว ไม่มีการใช้สารเคมีในกระบวนผลิต
2.แตกยาก กระเบื้องทั่วไปแตกง่ายกว่ามาก
3.ทนไฟ
4.ไม่ต้องใช้โครงสร้างหนัก (เนื่องจากไม่ซึมซับน้ำ)
5.ไม่ดูดซับแสงแดดหรือความร้อน ช่วยประหยัดพลังงาน
6.ปลอดเชื้อรา
7.ซ่อมแซมง่าย (โดยการใช้ความร้อนเชื่อมประสาน)
หลังคาเขียวฯ ดำเนินการที่ศูนย์รีไซเคิลกล่องเครื่องดื่ม ตั้งอยู่ที่บางเสาธง จ.สมุทรปราการ โครงการจุดประกายให้ทุกคนได้รู้ว่า ทุกคน ทุกภาคส่วน และขยะทุกชิ้น สามารถนำมารีไซเคิล ช่วยลดปัญหาโลกร้อน ลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (จากการไม่นำกล่องที่ใช้แล้วไปเผาหรือฝัง) มีส่วนร่วมในการช่วยผู้ประสบภัยและผู้ขาดโอกาสในทุกรูปแบบ
นฤมล ปาลวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เล่าว่า อีโค่รูฟนำมามุงเป็นหลังคาบ้านได้อย่างสมบูรณ์ เป็นที่พึ่งพาของผู้ยากไร้ จังหวัดยังได้ร่วมลงนามข้อตกลงความร่วมมือ กำหนดให้แม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดนำร่อง รณรงค์จัดเก็บกล่องเครื่องดื่มใช้แล้ว ขยายเครือข่ายเพื่อสิ่งแวดล้อมต่อไป
สุชาติ สิงขรบรรจง สมาชิกสภาเทศบาลตำบลแม่ยวม ตัวแทนชาวบ้านห้วยโผ เล่าว่า ด้วยความช่วยเหลือและกำลังใจจากหลายฝ่าย ชาวบ้านห้วยโผจึงลุกขึ้นได้อีกครั้ง สำหรับบ้านหลังใหม่ที่มุงด้วยหลังคาเขียวนั้น ครั้งแรกที่ทราบว่าเป็นหลังคาที่ทำมาจากกล่องรีไซเคิลก็มหัศจรรย์ใจ ยิ่งทราบว่ามาจากการร่วมแรงร่วมใจของคนไทยทั้งประเทศ ที่ช่วยกันเก็บกล่องเครื่องดื่มมาบริจาค ก็ยิ่งมหัศจรรย์ตื้นตัน
“ผมรู้สึกทึ่งที่ขยะนำมาใช้งานได้อย่างดี แถมมีประสิทธิภาพ ชาวบ้านเองก็ชอบ เพราะติดตั้งและซ่อมแซมง่าย น้ำหนักเบา ขอบคุณทุกๆ คนที่ช่วยให้พวกเราได้ลุกและหยัดยืนขึ้น” สุชาติ เล่า
ตบท้ายด้วยกลอยตาจากเต็ดตร้า แพ้ค ซึ่งขอบคุณจากใจไปยังผู้บริจาคทั่วประเทศ
“หลังคาเขียว คือความมุ่งมั่นและปณิธานในการรู้ใช้ทรัพยากรให้เกิดคุณค่าสูงสุด ต้องขอขอบคุณผู้บริจาคทุกท่าน ที่มีส่วนร่วมในการส่งกล่องเครื่องดื่มมารีไซเคิลผ่านโครงการของเรา และทำให้เราช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั่วประเทศได้อย่างมากมายเหลือเกิน”
สอบถามข้อมูลโครงการ โทร. 02-752-8575 หรือwww.greenroof.in.th


