ญาดา รุ่งวัฒนภักดิ์ สาวรุ่นใหม่หัวใจสีเขียว
โดย...วรธาร ทัดแก้ว ภาพ จากคอลเลกชันญาดา
โดย...วรธาร ทัดแก้ว ภาพ จากคอลเลกชันญาดา
สาวสวยและเก่งสมชื่อคนนี้ “ญาดา รุ่งวัฒนภักดิ์” เธอคือทายาทของ “สาธิต รุ่งวัฒนภักดิ์” เจ้าของโรงแรม อนันตรา บ้านราชประสงค์ จัดเป็นสาวรุ่นใหม่ที่มีหัวใจ “สีเคี้ยว...สีเขียว” ว่าด้วยเรื่องเกี่ยวกับการใส่ใจสิ่งแวดล้อมไม่เป็นสองรองใคร เธอให้ความสำคัญทั้งภายในองค์กรและนอกองค์กรเสมอ
“ญาดา” หรือ “กิ๊ฟ” หลังจบการศึกษาสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ด้านภาษาและการสื่อสาร ก็เข้ามาช่วยคุณพ่อสานต่อธุรกิจทันที ปัจจุบันดูแลธุรกิจสปาหนึ่งในธุรกิจของครอบครัว ที่ เอสเตรลลา สปา (Estrella Spa) ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 2 โรงแรม อนันตรา บ้านราชประสงค์ และตอนนี้ธุรกิจก็ไปได้สวยงามเหมือนคนที่ดูแล
แม้ภาระหน้าที่เธอต้องรับผิดชอบจะเป็นงานด้านความสวยความงามเป็นหลัก แต่อย่างที่บอกแต่ต้นว่าในมุมหนึ่งของทายาทเจ้าของโรงแรมอนันตราแล้ว เป็นสาวรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมาก โดยเฉพาะการประหยัดพลังงานเป็นสิ่งที่เธอเริ่มทำจากตัวเอง แล้วบอกต่อไปยังคนรอบข้างอย่างไม่ลังเล
เธอเล่าว่า การช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องสำคัญมาก และถึงเวลาที่ทุกคนต้องร่วมด้วยช่วยกันดูแลโลกใบนี้ให้กลับมาเหมือนเดิม ซึ่งแม้ความจริงจะรู้ว่าไม่สามารถทำให้กลับมาเหมือนเดิมได้ แต่อย่างน้อยก็ช่วยบรรเทาให้โลกไม่แย่ไปกว่าเดิม อย่างที่เห็นง่ายๆ คือในเรื่องสภาพอากาศ ฤดูกาลต่างๆ แปรปรวนไปหมด ฤดูร้อน ฝนกลับตก พอฤดูหนาวฝนก็มาตก นับเป็นสัญญาณร้ายที่ไม่ควรมองข้าม ไหนจะเรื่องอุทกภัย ภัยธรรมชาติต่างๆ ที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก
“ในการดูแลโลกใบนี้ของกิ๊ฟที่ทำเป็นประจำ คือการลดการใช้พลังงานไฟฟ้า โดยที่ เอสเตรลลา สปา กิ๊ฟจะบอกลูกน้องทุกคนไม่ให้เปิดแอร์ในแต่ละห้องทิ้งไว้ทั้งวัน แต่ถ้าจะมีลูกค้าเข้าใช้บริการก็ค่อยเปิดก่อนลูกค้ามาถึง 30 นาที นอกจากจะช่วยประหยัดพลังงานแล้วค่าไฟฟ้าของสปาก็ลดลงด้วย
โปรดักต์ที่ใช้ในสปาก็เลือกเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก ทำจากสารสกัดจากผลไม้ทั้งนั้น โดยลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการก็จะไม่มีความเสี่ยงต่อสารเคมีตกค้าง แถมยังช่วยในเรื่องการลดสารเคมีในการผลิตได้อีกด้วย นอกจากนี้โซนบริการนวดเท้าสปาของเรายังจัดเป็นมุมพิเศษ มีการจัดสวนหย่อมขนาดเล็ก มีธารน้ำตก ต้นไม้อยู่รอบๆ ทำให้ลูกค้าได้รู้สึกว่าได้อยู่ใกล้ธรรมชาติมากขึ้น” ผู้บริหารคนสวยบอกถึงการใส่ใจโลกใน เอสเตรลลา สปา
ซึ่งไม่เพียงแค่การใส่ใจสิ่งแวดล้อมภายในองค์กรเท่านั้น ภายนอกองค์กรหรือในชีวิตประจำวัน เธอก็ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน เช่น ในการเดินทางไปทำงาน เธอตระหนักถึงการลดพิษในอากาศด้วยการเลือกใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสเป็นประจำ พร้อมชักชวนเพื่อนๆ หันมาใช้บริการไปกับเธอด้วย
“กิ๊ฟโชคดีที่มีบ้านและที่ทำงานอยู่กลางเมืองและใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอส จึงทำให้การเดินทางสะดวกสบาย แต่ไม่ใช่แค่กิ๊ฟที่เลือกใช้บริการรถไฟฟ้าเท่านั้น กิ๊ฟยังชวนเพื่อนๆ ให้มาใช้บริการด้วย เช่น ถ้าเมื่อก่อนเวลานัดเจอเพื่อน 5 คน ก็เท่ากับมีรถ 5 คันวิ่งอยู่บนถนน เมื่อไปถึงที่หมายก็ต้องหาที่จอดรถให้วุ่นวาย แต่ตอนนี้กิ๊ฟจะให้ทุกคนมาจอดรถที่คอนโดฯ แล้วนั่งรถไฟฟ้าไป หรือไม่ก็ใช้รถคันเดียว นอกจากจะเป็นการลดมลพิษในอากาศแล้วยังช่วยลดปัญหาการจราจร และประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงไปในตัวด้วย
นอกจากนั้น เวลาไปช็อปปิ้ง ถ้าเป็นไปได้กิ๊ฟกับคุณแม่จะพกช็อปปิ้งแบ็กติดกระเป๋าไว้ตลอด ถ้าเราไปซื้อของเล็กๆ น้อยๆ แทนที่จะใส่ถุงพลาสติกมาให้เปลือง เราก็เอาช็อปปิ้งแบ็กออกมาใส่แทน แค่นี้ก็เท่ากับเราช่วยลดขยะบนโลกได้แล้วค่ะ เพราะเท่าที่เห็นถุงพลาสติกหลังเลิกใช้ก็กลายเป็นขยะแทบทั้งนั้น” ทายาทเจ้าของโรงแรมอนันตรา ยกตัวอย่างวิธีรักษ์โลกในชีวิตประจำวัน
สำหรับกิจกรรมที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เธอบอกว่า ถ้ามีโอกาสและมีเวลาว่างก็จะไม่พลาด เพราะนอกจากจะช่วยรักษ์โลกแล้วยังสนุกด้วย แต่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีเวลา ต้องดูธุรกิจตลอดเพราะไม่มีวันหยุด
“จริงๆ มีเพื่อนๆ ชวนไปทำกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมอยู่บ่อยๆ ค่ะ เช่น ไปปลูกต้นไม้ ปลูกปะการัง แต่ด้วยงานที่ไม่มีวันหยุดทำให้กิ๊ฟไม่มีโอกาสได้ไปร่วมกิจกรรมนั้นๆ เลย แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งตอนที่แถวถนนราชประสงค์ถูกใช้เป็นที่ชุมนุม หลังเหตุการณ์ต่างๆ จบลงก็ได้มีกิจกรรม บิ๊กคลีนนิงเดย์ (Big Cleaning day) กิ๊ฟก็ได้เป็นส่วนหนึ่งร่วมทำความสะอาดถนนบริเวณนั้นด้วย เป็นกิจกรรมที่กิ๊ฟประทับใจมาก ได้เห็นความร่วมมือของคนไทย และได้ช่วยให้สิ่งแวดล้อมที่นั่นกลับมาสะอาดและสวยงามเหมือนเดิม” ผู้บริหาร เอสเตรลลา สปา ทิ้งท้าย
นี่คือตัวอย่างของคนรุ่นใหม่เปี่ยมด้วยหัวใจสีเขียวที่พร้อมจะทำเพื่อโลกทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้โลกของเราแย่ไปกว่านี้ ซึ่งหากคนรุ่นใหม่ หรือแม้แต่คนรุ่นเก่าทั้งหลายตระหนัก คิด และทำเพื่อโลกเช่นนี้โลกคงน่าอยู่ไม่น้อย


