น่า ‘ยักษ์’ ... อ่ะ!?
“มีรามเกียรติ์เกิดขึ้นใหม่ทุกวัน ทุกแห่งหน ทุกผู้คน ไม่เว้นแม้แต่ในโลกของหุ่นยนต์”
โดย...แหนงดู
“มีรามเกียรติ์เกิดขึ้นใหม่ทุกวัน ทุกแห่งหน ทุกผู้คน ไม่เว้นแม้แต่ในโลกของหุ่นยนต์”
ประโยคนี้ชี้ชวนให้หลายคนสนใจที่จะเข้าไปชม “ยักษ์” แอนิเมชันพันธุ์ไทยที่นำรามเกียรติ์มาดัดแปลงหรือตีความใหม่ให้เป็นอวตารที่ล้านเอ็ด ซึ่งทำให้ ทศกัณฑ์ หนุมาน กุมภกรรณ... ฯลฯ กลายเป็นหุ่นยนต์ อีกทั้งรายละเอียดต่างไปจากต้นกำเนิด (น่าจะ) โดยตั้งใจ
หลังสงครามอันยิ่งใหญ่จบลง หนึ่งล้านวันต่อมาสนามรบกลายเป็นสุสานที่พ่อค้าของเก่าตามล่าหาซากเศษโลหะไปขาย วันหนึ่งเจ้าหุ่นยักษ์สีเขียวที่ถูกโซ่ล่ามอยู่กับหุ่นกระป๋องลิงเผือกก็ถูกค้นพบ ทั้งสองอยู่ในสภาวะความจำเสื่อม จำไม่ได้แม้กระทั่งชื่อของตัวเอง เพื่อตามหาตัวตนและเรียนรู้อดีต มิตรภาพระหว่าง “น้าเขียว” หรือทศกัณฑ์ กับ “เจ้าเผือก” หรือหนุมาน จึงเริ่มต้น และวันหนึ่งทั้งสองก็ต้องเลือกระหว่าง “หน้าที่” กับ “มิตรภาพ”
ใช้เวลาสร้างนานถึง 6 ปี โดยเป็นการร่วมทุนของสหมงคลฟิล์ม บ้านอิทธิฤทธิ์ และซูเปอร์จิ๋ว ดำเนินการสร้างโดย เวิร์คพอยท์ พิคเจอร์ส เป็นแอนิเมชันเรื่องแรกของ ประภาส ชลศรานนท์ ที่รับหน้าที่กำกับ สร้างสรรค์เรื่องและตัวละครเอง ร่วมกับ เอ็กซ์ชัยพร พานิชรุทติวงศ์ แอนิเมเตอร์ไทย เจ้าของผลงานเรื่อง ปังปอนด์ งานที่ออกมานั้นแสดงถึงความเป็นมืออาชีพ ไม่ใช่หน้าใหม่หัดทำ บางฉากทำให้นึกถึงแอนิเมชันของฝั่งฮอลลีวูด ไม่ว่าจะเป็น Robots หรือ Wall – E อยู่บ้าง หรือบางตอนทำให้คิดถึง Starwars แต่ไม่ได้เหมือน “แบบน่าเกลียด” แค่ทำให้นึกถึงเท่านั้น โดยรวมแล้วแอนิเมชันของคนไทยเรื่องนี้ทำได้ดีมากกว่าที่คาดหวัง
เรื่องรามเกียรติ์ที่เราๆ ท่านๆ รู้จักกันดีอยู่แล้วถูกนำมาตีความใหม่ได้อย่างน่าตื่นเต้น ตัวละครจากวรรณคดีอันเคร่งขรึมกลายมาเป็นแอนิเมชันที่สนุกสนานเต็มไปด้วยสีสัน เป็นตัวละครที่เราสามารถสัมผัสได้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น น้าเขียวตัวใหญ่ดูน่าเกรงขาม แต่จริงๆ แล้วใจดี ใสซื่อ มองโลกสวยงาม แต่มีอีกตัวตนที่ซ่อนอยู่ภายใน ขณะที่ เผือก ฉลาดแกมโกง ซ่าบ้าบิ่น ตัวละครอื่นๆ ก็ล้วนมีสีสัน อย่าง กุม หรือกุมภกรรณ ที่คิดแปลกๆ หรือเด็กผู้หญิงขี้แพ้อย่าง สนิมน้อย หรือป้าสดายุ นกยักษ์โบราณที่ชอบกัดๆ จิกๆ ตัวโขมยซีนคือ บรูคส์ หุ่นนักปีนเขาที่แอบมีสาระและชอบหนัง The Shawshank Redemption มาก
เรื่องไหลลื่น งานภาพสวยงามไม่น้อย บทเพลงที่นำเข้ามาประกอบก็บอกอารมณ์แต่ละตอนได้เป็นอย่างดี ช่วงมิวสิคัลก็พอเหมาะ อารมณ์ขันมีอยู่ตลอดทั้งเรื่อง ที่สำคัญคือ ไม่ได้เป็นตลกคาเฟ่ตึ่งโป๊ะ...! จุดด้อยเห็นจะเป็นช่วงกลางของเรื่องที่ค่อนข้างจะเอื่อยและยืดยาดไปสักนิด บทเน้นเรื่อง “มิตรภาพ” มากอย่างจงใจจนรู้สึกเหมือนถูกยัดเยียด อันหนึ่งที่มากไปก็คือ ฉากแอ็กชัน ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับเด็กเล็กเท่าไหร่ แต่กับผู้ใหญ่หรือเด็กโตคงอดตื่นเต้นและลุ้นไปกับหนังไม่ได้
เมื่อไปตีตั๋วชม “ยักษ์” พนักงานขายก็ถาม “แหนงดู” ว่า จะชมพากย์ไทยหรืออังกฤษซับไทย ว้าว อินเตอร์มากกก!!! รอบที่เร็วที่สุดซึ่ง แหนงดู สามารถเลือกได้เป็นรอบเสียงภาษาอังกฤษ ซึ่งนำทีมให้เสียงโดย ทอดด์ ทองดี มุขต่างๆ ก็พยายามให้มีเซนส์แบบฝรั่ง ส่วนพากย์ไทยมี หนุ่ม สันติสุข หอย เกียรติศักดิ์ ตั๊ก บริบูรณ์ หรือแม้แต่ โน้ส อุดม คงฮาตรึมด้วยมุข
อาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่ ยักษ์ สอบผ่านในฐานะแอนิเมชันไทย ซึ่งชมกันได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ น่าให้การสนับสนุน และขอปรบมือให้กำลังใจทีมงานกับ ก้าว “ยักษ์” ของแอนิเมชันไทย
ก่อนจากอยากฝากคำคมจากหนังที่ว่า ... ยักษ์นั้นมีอยู่ในตัวของคนเราทุกคน เพราะฉะนั้นควบคุมมันไว้ให้ดี อย่าปล่อยให้มันออกมาเพ่นพ่าน ... สวัสดี
ยักษ์ Yak : The Giant King
ประเภท แอนิเมชัน / ผจญภัย / ตลก / ครอบครัว
ประเทศ ไทย
ภาษา ไทย / อังกฤษ
ความยาว 1 ชั่วโมง 30 นาที
เรตติ้ง ท. ทั่วไป
กำกับ ประภาส ชลศรานนท์
แสดง (เสียง) เกียรติศักดิ์ อุดมนาค / สันติสุข พรหมศิริ / ชนินาถ ศิริสวัสดิ์ / บริบูรณ์ จันทร์เรือง / แจ๊ป เดอะริชแมนทอย / ปวันรัตน์ นาคสุริยะ


