posttoday

ดินถล่มฟื้นฟูได้ที่อุตรดิตถ์

22 กันยายน 2555

การเพิ่มขึ้นของประชากรโลกในทุกวันนี้ ทำให้หลายฝ่ายเริ่มเป็นกังวลว่าในอนาคตข้างหน้าเราจะมีอาหารไม่เพียงพอและอาจถึงขั้นต้องแย่งชิงอาหารกันเลยทีเดียว

โดย...ทีมงานโลก 360 องศา

การเพิ่มขึ้นของประชากรโลกในทุกวันนี้ ทำให้หลายฝ่ายเริ่มเป็นกังวลว่าในอนาคตข้างหน้าเราจะมีอาหารไม่เพียงพอและอาจถึงขั้นต้องแย่งชิงอาหารกันเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้หลายๆ ประเทศจึงพยายามเตรียมความพร้อมด้านการผลิตอาหาร โดยมีการพัฒนากระบวนการผลิตและแปรรูปให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มีการใช้ทั้งเทคโนโลยีทางเคมีและชีวภาพเข้ามาเป็นตัวช่วย นอกจากนั้นแล้วยังมีการพัฒนาระบบชลประทานที่เป็นระบบและมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการจัดการทรัพยากรดินและน้ำให้มีความอุดมสมบูรณ์อย่างต่อเนื่องอีก ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะทำให้เกษตรกรสามารถใช้พื้นที่เพาะปลูกไปได้ถึงชั่วลูกชั่วหลานนั่นเอง

สำหรับในประเทศไทยนั้น ก็ได้มีการจัดการดินและน้ำอย่างเป็นระบบมาหลายสิบปีแล้ว ทั้งเรื่องของการจัดการพื้นที่เพาะปลูกให้เหมาะสม การฟื้นฟูบำรุงดินและมาระยะหลังนี้ เราก็ทราบมาว่ายังมีการป้องกันความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ รวมถึงการฟื้นฟูพื้นที่จากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ให้กลับมาใช้ทำการเกษตรได้อย่างเหมาะสมอีกด้วย ดังนั้นโลก 360 องศา จะพาคุณผู้อ่านไปดูตัวอย่างของพื้นที่การเกษตรที่เคยได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งเกิดน้ำจากป่าไหลหลากพัดเอาดินโคลนถล่มลงมา จนทำให้ที่อยู่อาศัยและพื้นที่ทำการเกษตรได้รับความเสียหาย เราจึงเลือกกรณีศึกษาที่ จ.อุตรดิตถ์ เพราะที่นั่นเป็น

ดินถล่มฟื้นฟูได้ที่อุตรดิตถ์

จังหวัดที่มีพื้นที่ทางการเกษตรเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ และเป็นพื้นที่ซึ่งเคยเกิดดินถล่มอย่างรุนแรงจนได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก และทุกวันนี้กำลังมีการฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับมาใช้งานได้ดังเดิม ซึ่งพื้นที่ที่เราจะพาไปดูนี้ตั้งอยู่ใน ต.น้ำไผ่ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ขับรถออกจากตัวจังหวัดประมาณ 1 ชั่วโมง ที่นั่นเราได้พบกับกำนันพิชิตพลที่ได้เล่าย้อนวันวานถึงเหตุการณ์ดินถล่มในวันนั้นให้เราฟังว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ก.ย.ปีที่ผ่านมา เมื่อเวลา 3 นาฬิกา ผลจากการที่ฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้ดินบนภูเขาไม่สามารถอุ้มน้ำในปริมาณมหาศาลได้ ส่งผลให้เกิดดินถล่มลงสู่เบื้องล่าง ซึ่งดินถล่มนั้นในความเป็นจริงไม่ได้มีเพียงแค่ดินเท่านั้น แต่ประกอบไปด้วยน้ำ หินและซากต้นไม้ที่ไหลมาพร้อมๆ กัน ถาโถมเข้าทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้าอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและมีพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง ซึ่งนับถึงวันนี้เหตุการณ์ก็ผ่านล่วงเลยมาแล้ว 1 ปี แต่ความเสียหายโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรือกสวนไร่นาก็ยังต้องฟื้นฟูอีกเป็นจำนวนมาก เกษตรกรหลายหลายยังไม่สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ทางเกษตรได้ ส่งผลให้ขาดรายได้มาจุนเจือครอบครัว ซึ่ง คุณปริญญานนท์ เจ้าหน้าที่จากกรมพัฒนาที่ดินบอกกับเราว่า การป้องกันและแก้ปัญหาดินถล่มในพื้นที่ ต.น้ำไผ่ จะต้องนำมาตรการอนุรักษ์ดินและน้ำมาปรับใช้ ด้วยการใช้วิธีกรและวิธีพืชควบคู่กันไป โดยเบื้องต้นได้นำวิธีกลมาใช้ก่อนด้วยการนำเครื่องจักรมาปรับไถพื้นที่ให้กลับคืนสภาพเดิมมากที่สุด แต่ความยากของที่นี่ คือ มีเศษตะกอนเศษไม้และหินขนาดใหญ่ จึงทำให้อาจจะต้องใช้ระยะเวลายาวนานกว่าปกติ ส่วนคุณสมบูรณ์นักวิชาการเกษตรเสริมว่า ในขณะเดียวกันมาตรการอนุรักษ์ดินและน้ำด้วยวิธีพืชก็จะต้องถูกนำมาใช้พร้อมๆ กัน ด้วยการส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่ปลูกหญ้าแฝกเพื่อเป็นแนวป้องกันตามธรรมชาติ แต่อุปสรรคที่สำคัญ คือ หญ้าแฝกไม่ใช้พืชประจำถิ่นที่นี่ ดังนั้นจึงยังขาดการยอมรับและขาดความรู้ความเข้าใจของเกษตรกรในพื้นที่เกี่ยวกับ

ดินถล่มฟื้นฟูได้ที่อุตรดิตถ์

คุณสมบัติพิเศษของหญ้าแฝก นอกจากนั้นแล้วคุณปริญญานนท์และคุณสมบูรณ์ ยังบอกกับเราอีกว่า ไม่ว่าพวกเขาจะลงพื้นที่ไปตรงจุดไหนก็ตาม ก็จะต้องหอบหิ้วหญ้าแฝกใส่ท้ายกระบะรถไปด้วยเสมอ เพราะเมื่อเจอพื้นที่ใดก็ตามที่มีความเสี่ยงว่าจะเกิดดินถล่ม พวกเขาก็จะลงมือปลูกหญ้าแฝกตรงจุดนั้นในทันที่ อย่างเช่นในวันที่เราเดินทางไปถึง ก็ได้มีโอกาสนำหญ้าแฝกไปร่วมปลูกกับเด็กๆ ในพื้นที่โรงเรียน ดังนั้นจึงถือเป็นโอกาสดีในการให้ความรู้เรื่องคุณประโยชน์ของหญ้าแฝกพร้อมๆ กับการให้เด็กๆ เรียนรู้ถึงวิธีการปลูกหญ้าแฝกที่ถูกต้องอีกด้วย

ปัญหาเรื่องดินถล่มนั้นจริงๆ แล้วเกิดขึ้นมานานแล้ว หากแต่ว่าเมื่อก่อนนี้เกิดขึ้นในป่าในเขาดังนั้นพวกเราก็อาจจะไม่ได้รับข่าวคราวมากนัก แต่ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมานี้ปัญหาเรื่องดินถล่มเข้ามาใกล้ตัวพวกเรามากขึ้น และก็ส่งผลต่อชีวิตและทรัพย์สินของพวกเรา ดังนั้น ณ วันนี้ ถ้าหากพวกเราทำความเข้าใจว่าปัญหาเรื่องดินถล่มนั้นคืออะไร มีปัญหามาจากอะไร มีที่มาที่ไปอย่างไร และที่สำคัญที่สุดมีวิธีการในการร่วมกันป้องกันและแก้ไขไม่ให้ปัญหาดินถล่มนั้นสร้างผลเสียหายให้กับพวกเราอย่างไรบ้าง ในอนาคตน่าจะเป็นเรื่องที่พวกเราต้องร่วมมือร่วมใจกัน และผลสุดท้ายแล้วก็น่าจะส่งผลดีต่อการเกษตรอย่างยั่งยืนอีกด้วย

 


 

 

ข่าวล่าสุด

เปิด Top 3 ดวงขึ้นแรงสุด 12 นักษัตร นักธุรกิจ ใครปัง รับปีม้าไฟ