posttoday

ตลาดนัด (ความสุข ปลุกหัวใจ ธรรมสวัสดี 25 ปี เสถียรธรรมสถาน) แห่งความรื่นรมย์

16 กันยายน 2555

อะไรจะเป็นความรื่นรมย์ใจเท่าเห็นลูกหลานพร้อมใจกันกลับมาเยี่ยมบ้าน!

โดย...แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต แห่งเสถียรธรรมสถาน

อะไรจะเป็นความรื่นรมย์ใจเท่าเห็นลูกหลานพร้อมใจกันกลับมาเยี่ยมบ้าน!

นั่นคือความรู้สึกของข้าพเจ้าในวันที่เราจำลอง 25 ปีของเสถียรธรรมสถานให้อยู่ใน 4 วัน ที่ MCC Hall เดอะมอลล์ บางกะปิ ในงาน ตลาดนัดความสุข ปลุกหัวใจ ธรรมสวัสดี 25 ปี เสถียรธรรมสถาน ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 ส.ค.-2 ก.ย. 2555 ที่ผ่านมา

ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของภาคีเครือข่าย ชาวชุมชนเสถียรธรรมสถาน และเหล่าจิตอาสาที่ทำงานด้วย หัวใจผู้หญิง หัวใจแม่ หัวใจโพธิสัตว์ ทุกคน ทุกซุ้มกิจกรรมของภาคีเครือข่าย ทุกซุ้มโครงการของเสถียรธรรมสถาน ล้วนได้รับความสนใจเกินความคาดหมาย รวมทั้งบนเวทีที่มีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาให้ความรู้ ความบันเทิง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธรรมบรรยาย ปลุกหัวใจด้วยธรรม ของพระอาจารย์ที่เมตตามาแสดงไว้ อาทิ

ตลาดนัด (ความสุข ปลุกหัวใจ ธรรมสวัสดี 25 ปี เสถียรธรรมสถาน) แห่งความรื่นรมย์

 

“อาตมารู้จักเสถียรธรรมสถานเมื่อมีโอกาสได้นำเพลงดอกไม้บานมาใช้ และค่อยๆ รู้มากขึ้นว่าพัฒนามาอย่างไรจนถึง 25 ปี แต่ว่าการทำงานของคุณแม่นั้นกลับเหมือนเป็นร้อยปี เพราะทุกอย่างเข้าไปอยู่ในใจคนมากมาย ทุกคนพูดของคุณแม่นั้นช่างลึกซึ้ง เช่นคำว่า โลกนี้ไม่มีใครควรค่าแก่การเกลียดชัง คำพูดนี้เป็นคำพูดของคุณชีที่อาตมานำไปใช้บ่อยมาก...เพราะสะกิดใจคนมากมาย ฉะนั้น เสถียรธรรมสถานถือเป็นที่ให้การศึกษาที่ ท่าน ว.วชิรเมธี เรียกว่า การศึกษาเริ่มต้นที่คนรู้จักคิด การศึกษาถูกทิศ ชีวิตก็ถูกทาง คุณแม่ชีทำให้เป็นรูปธรรม ทำให้คนรู้จักคิดรู้จักนำมาใช้นำมาปฏิบัติจริง ตั้งแต่จิตประภัสสร คือตั้งแต่อยู่ในท้อง คลอดออกมาแล้วพัฒนาออกมาเรื่อยๆ ท่านคิดว่าถ้าคนได้รับการพัฒนาที่ดีก็จะดีมาก สำหรับคนที่โตแล้วไม่ทันแล้ว แต่อยากปฏิบัติธรรม ก็ขอให้มาที่เสถียรธรรมสถาน หรือเข้าไปทางสื่อต่างๆ ของเสถียรธรรมสถาน ไปฟังคุณแม่ชีแล้วนำไปปฏิบัติใช้ เพราะคำพูดเพียงประโยคสองประโยคของคุณแม่ชีก็อาจทำให้ชีวิตเปลี่ยนได้เลย เชื่อว่าการแค่ฟังคำพูดเพียงแค่ไม่กี่คำก็จะทำให้โลกของเราเปลี่ยนไปได้ด้วยเช่นกัน” พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต

“ตั้งแต่ไปสถานที่ต่างๆ มา อาตมาว่าเสถียรธรรมสถานเป็นปอดของคนกรุงเทพฯ ทางภายนอก ส่วนทางด้านภายใน คนปัจจุบันนั้นทำธุรกิจกันจนลืมธุรจิต แต่เสถียรธรรมสถานเป็นสถานที่ที่ปลุกให้คนกลับมาเห็นคุณค่าของการพัฒนาจิตด้วย โดยเฉพาะเรื่องจิตอาสา ตั้งแต่เสถียรธรรมสถานเกิดขึ้นมา ผู้คนที่มีจิตอาสาก็เกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กๆ ซึ่งเมื่อก่อนไม่เคยช่วยคุณพ่อคุณแม่ แต่หลังจากได้มาเข้าไปที่เสถียรธรรมสถาน เมื่อกลับบ้านไป...ลูกดื้อคนเก่าได้ตายไปแล้ว คุณพ่อคุณแม่มากมายบอกว่าได้ลูกใหม่ ถ้ามีเสถียรธรรมสถานเกิดขึ้นในกรุงเทพฯ สัก 10 แห่ง 20 แห่ง อาตมาว่ากรุงเทพฯ จะลดทั้งภาวะโลกร้อน และโรคร้อน” พระอาจารย์พระสงค์ ปริปุณฺโณ ทั้งนี้ พระอาจารย์พระสงค์ ปริปุณฺโณ ยังได้เมตตาให้พรเพื่อเป็นกำลังใจ ซึ่งน่าสนใจว่า “ขอให้ไม่มีอนาคต ขอให้หมดเนื้อหมดตัว ขอให้ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด” โดยพระอาจารย์ได้เมตตาอธิบายเพิ่มเติมไว้ว่า “ขอให้ไม่มีอนาคต” คือให้อยู่กับปัจจุบันที่เป็นเวลาอันประเสริฐสุด เพราะปัจจุบันเป็นทั้งเหตุและผล เพื่อให้เกิดสติปัญญา “ขอให้หมดเนื้อหมดตัว” คือให้หมดกิเลสทั้งปวง โลภะ (ราคะ) โทสะ โมหะ เพื่อการบรรลุธรรม “ขอให้ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด” คือให้ถึงซึ่งพระนิพพาน ไม่ต้องเกิดอีก

นอกจากนี้ ยังมีมอบทุนของ “ชมรมธรรมสวัสดี” เพื่อสนับสนุนความดี ให้กับกว่า 40 โรงเรียนในจังหวัดที่เราได้อัญเชิญพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา ออกไปเยียวยาผู้ป่วยตามโรงพยาบาล รวมทั้งเด็กๆ ตามโรงเรียน ซึ่งทำให้เห็นชัดว่าเราต้องมาลงทุนกับเด็ก เพราะการลงทุนกับเด็ก ก็คือการลงทุนให้โลก

วันนี้ เสถียรธรรมสถานได้พิสูจน์แล้วว่า ไม่มีอะไรมีค่ายิ่งไปกว่าธรรมะ เด็กๆ เป็นดอกไม้บานของแผ่นดิน เสถียรธรรมสถานคือชุมชนเล็กๆ ที่ผู้คนมากมายเดินเข้ามาสู่ แต่ไม่ว่าจะมามืดหรือสว่าง ทุกคนล้วนออกไปสว่าง และนั่นคือสิ่งที่ข้าพเจ้ายืนยันได้ว่าเราทำงานตามพุทธประสงค์เสมอมา มรรคคือหนทาง และเป็นทางสายเอกสายเดียวเท่านั้น

เสถียรธรรมสถานทำงานทุกงานด้วยความเคารพโลก ปัญหาถือเป็นความสำเร็จของเรา ปัญหาไม่ได้เป็นความทุกข์ของเรา ความทุกข์ไม่ได้เป็นประเด็นที่ทำให้เราเบิกบานไม่ได้ ไม่สามารถทำให้เราหยุดยั้งตัวเอง หากแต่ความทุกข์นั้นถือเป็นหนึ่งบทเรียนที่ทำให้เราอยู่กับโลกอย่างที่โลกเป็น...อย่างไม่เป็นทุกข์ ไม่ว่าคนที่เดินเข้ามาในเสถียรธรรมสถาน จะมามืดหรือมาสว่าง เราปักธงไว้เลยว่า เมื่อใดที่เราทอดสะพานแห่งสติ ชีวิตเราจะพ้นทุกข์ และปัจจุบันเป็นเวลาที่ประเสริฐที่สุด การทำงานในวันนี้ ทำงานด้วยหัวใจ เป็นการปลุกหัวใจแม่ขึ้นมาดูแลบ้าน ดูแลสังคม ดูแลโลก

ทุกงานของเสถียรธรรมสถานเป็นไปตามพุทธประสงค์ของพระพุทธองค์ คือ เธอจงจาริกไปเพื่อประโยชน์สุขของมหาชน

ทุกก้าวย่าง...ของการทำงานของเราอยู่ในปัจจุบันขณะ

ทุกย่างก้าว...เป็นก้าวย่างแห่งสติที่จะจารึกเป็นความจริงไว้ในแผ่นดิน

ขอขอบคุณทุกๆ ภาคีเครือข่าย โดยเฉพาะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สคอ.), ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ที่ยกพื้นที่ MCC Hall ให้เสถียรธรรมสถานจำลองการทำงาน 25 ปี มาอยู่ใน 4 วันอย่างน่ารื่นรมย์ยิ่ง


 

 

ข่าวล่าสุด

สธ. ปั้นนโยบายขึ้นทะเบียนยา ATMPs ‘เร็วที่สุดในอาเซียน’ ดัน 'Medical Economy'