แป้กบ้านเกิดแต่เจิดต่างแดน นี่แหละ (หนอ) หนังไทย
ร้อยล้านแล้วจ้า!!! (ถ้าเป็นสมัย ดอกดิน กัญญามาลย์ ต้องร้อง ล้านแล้วจ้า)
โดย...โจ เกียรติอาจิณ / ภาพ เอ็ม พิคเจอร์ส + ไฟว์สตาร์
ร้อยล้านแล้วจ้า!!! (ถ้าเป็นสมัย ดอกดิน กัญญามาลย์ ต้องร้อง ล้านแล้วจ้า)
อาจจะเป็นวลีขลังที่ทีมคนทำหนังและนายทุนออกสตางค์ ได้ยินก็คงชื่นฉ่ำหัวใจ (กำไรเห็นๆ อ่ะนะ 555)
ไม่พอยังไปดังไกลในหลายประเทศ แถมกวาดเงินเข้ากระเป๋าอีกเล่า ก็ยิ่งดีใหญ่ เป็นเรื่องแฮปปี้ที่ใครๆ ก็อยากเจอ
ที่ผ่านมาก็แทบจะนับเรียงตัวได้ว่ามีหนังไทยกี่เรื่องที่สามารถทะลุเป้านั้น
บางเรื่องเจ๊า เท่าทุน ไม่เจ็บตัว ก็โชคดีไป ทว่าหลายเรื่องก็กลับแป้กสนิท จอดแบบไม่ทันแจวก็มีเยอะ
แน่นอนเราคงไม่ได้หมายถึง “ATM เออรัก เออเร่อ” ที่โกยรายได้ทะลุ 150 ล้าน แล้วก็ไม่ใช่ “ส.ค.ส. สวีทตี้” กับ “วาเลนไทน์ สวีทตี้” ที่ขนนักแสดงวัยรุ่นมารวมตัว จนทำเงินไปเบาๆ 142 ล้าน
แต่เรากำลังหมายถึง บรรดาหนังเหล่านี้ต่างหาก ที่ออกอาการเป๋ แล้วก็จบด้วยอารมณ์แป้ก (คริ คริ)
“รักสุดท้ายป้ายหน้า” “The Melody รักทำนองนี้” “It Gets Better ไม่ได้ขอให้มารัก” “รัก An Ordinary Love Story” “ตำนานรัก แม่นาค 3D” “แก๊งตบผี” “407 เที่ยวบินผี” “มึงกู เพื่อนกันจนวันตาย”
รวมถึงแชมป์แป้ก “รักเลี้ยวเฟี้ยวว!! (อ่ะ)” ที่จับคู่หู “จอนนี่ อันวาหลุยส์ สก็อต” มาช่วยให้แรง แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเล้ย เบ็ดเสร็จหนังทำเงินแค่ 8 หมื่นบาท โอ้แม่เจ้า!!!
แม้จะถูกปรามาสเข้าข่ายหนังแป้ก แต่โปรดเชื่อเถอะว่า หนังแป้กบางเรื่องก็กลับโบยบินไปเปรี้ยงยังต่างประเทศ เป็นที่ฮิตกันในหมู่คอหนังชนิดคาดไม่ถึง
นี่ละที่เขาเรียกว่า แป้กบ้านเกิด แต่เจิดจรัสต่างแดน
ตัวอย่างชัดกว่าใครเพื่อน “407 เที่ยวบินผี” ที่ทำเงินไม่เป็นดั่งใจในไทย ได้ไปราว 30 ล้านนิดๆ ทั้งๆ ที่หน้าหนังก็ขาย (ซะ) ว่าเป็นหนังผี 3D เรื่องแรกของไทย มีนางเอกตัวแม่ “มาช่า วัฒนาพานิช” เป็นแม่เหล็ก ผลลัพธ์ก็แป้ก อย่างที่รู้ๆ กัน
ถึงกระนั้น พอไปฉายต่างประเทศ หนังกลับเปรี้ยงเอาๆ ฮิตติดลม ฟีดแบ็กดีมากกกก ตั้งแต่ไต้หวันยังฮ่องกง ก็เปิดตัวทะยานสู่อันดับ 1 ในบอกซ์ออฟฟิศ อีกหลายประเทศในเอเชีย (ยกเว้นจีนแผ่นดินใหญ่) ก็ประสบความสำเร็จงาม ตลอดจนยุโรปและที่อื่นๆ เช่น เยอรมนี อังกฤษ ไอร์แลนด์ เปรู เอกวาดอร์ โบลิเวีย ก็ฮอตไม่แพ้กัน
เปรี้ยง!!! เพราะอะไร ผีโผล่ออกมาตัวเป็นๆ หรืองาน 3 มิติล้ำๆ คำตอบอยู่ที่เธอคนนี้ “อภิรดี เอี่ยมพึ่งพร” กรรมการบริหาร ค่ายไฟว์สตาร์
“ส่วนหนึ่งที่ได้รับการตอบรับที่ดี น่าจะเพราะเรื่องน่าสนใจและคุณภาพของหนังค่ะ แต่ดิฉันยังเชื่อว่าไม่มีหนังไทยค่ายใดค่ายหนึ่งที่จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้ทั้งหมดหรอกค่ะ เพราะมันไม่มี One Product for the World หนังบางเรื่องในไทยดีมาก แต่ต่างประเทศกลับเงียบ ขณะที่บางเรื่องในไทยเองเงียบมาก แต่ไปได้ดีมากในต่างประเทศ ซึ่งสิ่งที่บริษัทสร้างหนังจะต้องทำก็คือ รักษาตลาดกับคุณภาพไว้ให้ได้ค่ะ”
อีกหนึ่งผลงานที่แป้กในบ้านเกิด “อินทรีแดง” แม้จะได้คำวิจารณ์เชิงบวกมากกว่าลบ แต่ก็เข็นไม่ขึ้น รายได้ไม่กระเตื้อง จำได้ติดตาก็แค่ภาพฮีโร่ “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” ใส่ชุดหนังรัดติ้วพร้อมหน้ากากอินทรีแดงเท่านั้นจริงๆ แต่พลันที่หนังออกนอกประเทศ ไล่ตระเวนฉาย มาเลเซีย บรูไน สิงคโปร์ ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ ญี่ปุ่น ไอร์แลนด์ จีน ไต้หวัน อินโดนีเซีย โปแลนด์ เกาหลีใต้ เยอรมนี รวมทั้งสหรัฐ ก็ล้วนชนะใจคอหนัง
เช่นเดียวกับหนังรักที่ว่าด้วยเพศสภาพและความหลากหลายทางเพศ “It Gets Better ไม่ได้ขอให้มารัก” กับ “Yes or No อยากรักก็รักเลย” ที่อาจไม่ทำรายได้ถล่มทลายในไทย ทว่าตลาดต่างประเทศกลับอ้าแขนรับด้วยความเต็มใจ
“Yes or No อยากรักก็รักเลย” ดังสุดๆ ก็ที่เมืองจีน กระแสตอบรับดีมาก ขนาดมีแฟนคลับตามกรี๊ดนักแสดงนำเชียวนะ (ดังต่อเนื่องยันภาค 2 แล้วตอนนี้) ไต้หวัน สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย ก็ใช่ย่อย ดังระเบิดดดด
ผู้กำกับหญิง “สรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร” เล่าถึงปรากฏการณ์ฮิตของหนังที่ทำรายได้ในบ้านเกิดเกิน 15 ล้านนิดๆ ว่าเริ่มมาจากเอ็มวีเพลงประกอบ จากนั้นผู้คนก็เข้าไปคลิกดูในยูทูบ จนจำนวนเพิ่มมากขึ้นและกลายเป็นกระแสเปรี้ยงในที่สุด
“มันเป็นความดังที่เราเองก็ยังไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไหร่นะ ตอนแรกยังไม่มีการซื้อขายระหว่างค่ายหนังไทยกับค่ายหนังต่างประเทศ แต่พอกระแสมันดี เราก็รับได้และมีการซื้อขายไปฉายในโรง กระแสก็ยิ่งแรง ซึ่งที่มันแรงและโดนใจคนดู เราว่าเพราะมันเป็นหนังรักใสๆ ของเพื่อนผู้หญิง ดูแล้วบันเทิง มีความสุข ไม่ใช่หนังดาร์กที่มีความกดดันจากสังคมหรือครอบครัว ที่สำคัญหลายประเทศที่ซื้อหนังไป ก็อาจจะยังไม่เคยมีหนังหญิงรักหญิง เลยสนใจหนังเป็นพิเศษ”
“It Gets Better ไม่ได้ขอให้มารัก” หนังฟอร์มเล็กที่ทำรายได้เล็กไปหน่อย เบาะๆ ก็ 6 ล้าน ตัวหนังค่อนข้างชัดเจนว่า พูดถึงความหลากหลายทางเพศของตัวละคร และนั่นก็ทำให้อาจไม่โดนใจคนไทยนัก แต่ไม่ใช่ที่แฟนๆ ต่างแดนแน่นอน
“วสันต์ หอมแสงประดิษฐ์” ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ค่ายเอ็ม พิคเจอร์ส มองว่า การทำตลาดหนังไทยในต่างประเทศนั้นต้องหลากหลายเข้าไว้ เพราะความหลากหลายจะได้เปรียบคู่แข่งและย่อมจะถูกเลือกจากคนดู ขาดไม่ได้คือ เสน่ห์แบบหนังไทย จำเป็นต้องมี
“หลากหลายอย่างเดียวไม่ได้ครับ มันต้องมีความเป็นไทยด้วย เสน่ห์แบบไทยๆ แบบคนไทย แบบหนังไทย ไม่จำเป็นว่าต้องฟอร์มใหญ่หรือฟอร์มเล็ก แต่ทุกฟอร์มต้องมีเสน่ห์ อย่าง It Gets Better ที่สามารถขายได้ในต่างประเทศ เพราะมันมีเสน่ห์ในตัวของมันเอง และชัดเจนในตัวมันเองว่าเป็นหนังรักหลากหลายทางเพศ”
จะเปรี้ยงต่างแดน หรือจะแป้กในบ้าน หนังไทยก็ยังจะก้าวต่อ ขอหนังไทยจงเจริญ


