คิดถึง...ข้าวหน้าเนื้อต้มซีอิ๊ว ต้อง โยชิโนยะ
มั่นใจได้ว่าคนที่เดินเข้าร้าน “โยชิโนยะ” (Yoshinoya) ไม่ใช่คนหลายใจแน่ๆ เพราะร้านนี้มีเมนูหลักๆ เพียง 8 เมนูเท่านั้น
โดย...ซิตี้ กาย / ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน
มั่นใจได้ว่าคนที่เดินเข้าร้าน “โยชิโนยะ” (Yoshinoya) ไม่ใช่คนหลายใจแน่ๆ เพราะร้านนี้มีเมนูหลักๆ เพียง 8 เมนูเท่านั้น คือ ข้าวหน้าเนื้อ ข้าวหน้าเนื้อและผัก ข้าวหน้าไก่เทริยากิ ข้าวหน้าเนื้อย่าง ข้าวหน้าไก่ย่างเทมปุระ ข้าวหน้าหมูเทมปุระ ข้าวหน้าหมูโชกะยากิ และข้าวหน้าเนื้อและไก่เทริยากิ คอมโบ ดังนั้นคนที่เลือกมารับประทานอาหารร้านนี้จะต้องมีเมนูโปรดอยู่ในใจ จะหลายใจหน่อยก็แค่ 2 ใน 8 (หากไม่อิ่มจริงๆ ก็หยวนๆ กันน่า)
ร้านโยชิโนยะ เป็นอาหารสัญชาติญี่ปุ่น เปิดตั้งแต่ปี 1899 ปีนี้ก็ย่างเข้า 113 ปีแล้ว มีสาขากว่า 1600 สาขาทั่วโลก สำหรับประเทศไทย มี 5 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัล ลาดพร้าว ปิ่นเกล้า เซ็นทรัลเวิลด์ เมกาบางนา และเทอร์มินอล 21 กลุ่มลูกค้าที่ยังไม่เคยลิ้มลอง ชื่อชั้นของร้านโยชิโนยะก็ดึงดูดใจให้มาลองสักครั้งหนึ่งว่า สมกับคำร่ำลือไหม.. โดยเฉพาะ “กิวด้ง” หรือข้าวหน้าเนื้อต้มซีอิ๊ว ซึ่งเราก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ไม่ยอมพลาดพิสูจน์ความอร่อย...
จานเด็ดที่ลูกค้าจากทั่วโลกติดใจมี 2 เมนู คือ ข้าวหน้าเนื้อต้มซีอิ๊วและข้าวไก่เทริยากิ เมนูแรกนั้นใช้เนื้อนำเข้าจากอเมริกา เลือกเนื้อส่วนหลังขาหน้าที่มีไขมันแทรกเป็นริ้วๆ สไลซ์บางได้มาตรฐานเท่ากันทุกชิ้น เนื้อนุ่มชุ่มไปด้วยน้ำซีอิ๊วสูตรเดียวกันกับต้นตำรับ ไม่มีการดัดแปลงรสชาติใดๆ ทั้งสิ้น รับประทานพร้อมกับขิงดองที่ทางร้านวางไว้บนโต๊ะกระปุกใหญ่ ตักได้แบบไม่อั้น รสชาติยิ่งเริด หรือจะสั่งไข่ลวกมา 1 ฟอง ราดลงบนข้าวเลยยิ่งเด็ด
ส่วนเมนูข้าวไก่เทริยากิ ชิ้นโตหั่นแบบเนื้อสเต๊ก เคี้ยวได้เนื้อได้หนังแบบเต็มๆ คำ แถมยังไม่เลี่ยน เพราะผ่านกรรมวิธีย่างจนน้ำมันใต้หนังละลายหมด ราดด้วยซอสเทริยากิให้รสออกหวานมีกลิ่นหอม แค่ซอสคลุกกับข้าวก็อร่อยแล้ว เพราะข้าวที่นี้ใช้ข้าวสายพันธุ์ญี่ปุ่นแท้ๆ ไม่ผสม ทำให้ได้เมล็ดขาวที่อวบอิ่มกลมโตและมียางให้ความเหนียวกำลังดี
แน่นอนว่าจำนวนอาหารมีให้เลือกน้อย ดังนั้นอาหารทั้ง 8 เมนู จะต้องอร่อยเหาะไม่อย่างนั้นไม่สามารถมัดใจลูกค้าไว้ได้ท่ามกลางคู่แข่งร้านอาหารที่มีมากมาย นอกจากรสชาติความอร่อยแบบต้นตับแท้ๆ แล้ว จุดเด่นของโยชิโนยะ คือ ราคาไม่แพงแต่คุณภาพเกรดเอ และบริการฉับไว ไม่เกิน 58 นาทีหลังสั่ง ก็จะได้รับประทาน
ล่าสุดฉลองครบ 1 ปีในไทย ทางญี่ปุ่นได้พัฒนาสูตรใหม่ เพื่อขายเฉพาะที่เมืองไทยเท่านั้น คือ “สไปซี่ยากินิกุ” ข้าวหน้าเนื้อย่างหอมกรุ่น นำมาผัดกับซอสญี่ปุ่นได้รสชาติเผ็ดของพริกแห้ง เป็นอีกหนึ่งเมนูที่น่าลิ้มลอง
นอกจากนี้ ยังมีขนมหวานขึ้นชื่อต้นตำรับของโยชิโนยะ “คุซิโมจิ” ทำสดๆ วันต่อวัน แป้งจะหนึบๆ เด้งดึ๋งๆ ไม่เหนียว ราดด้วยไซรัปและโรยหน้าด้วยถั่วเหลืองป่น
ร้านโยชิโนยะ เปิดบริการทุกวัน ตามเวลาเปิดปิดของห้างสรรพสินค้า คือ เวลา 10.00-22.00 น. ช่วงเวลา 11.30-13.30 น.คนจะแน่น เพราะร้านโดนใจลูกค้ากลุ่มพนักงานออฟฟิศมาก แต่รอคิวไม่เกิน 5 นาทีคุณจะได้รับประทานกิวด้งแบบญี่ปุ่นแท้ๆ


