เคล็ดลับช่วยลูกไม่ให้ฉี่รดที่นอน
ปัญหาการฉี่รดที่นอนของเด็กมักจะเกิดกับเด็กในวัย 3 ขวบ เป็นส่วนใหญ่ แต่จะลดน้อยลงตามลำดับอายุตั้งแต่ 4 ขวบ จนถึงอายุ 18 ปี
โดย...พญ.เสาวนีย์ พิชัยรักษ์พร สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
ปัญหาการฉี่รดที่นอนของเด็กมักจะเกิดกับเด็กในวัย 3 ขวบ เป็นส่วนใหญ่ แต่จะลดน้อยลงตามลำดับอายุตั้งแต่ 4 ขวบ จนถึงอายุ 18 ปี ถึงแม้ว่าภาวะปัสสาวะรดที่นอนนั้นส่วนมากจะหายได้เองเมื่อเด็กโตขึ้น แต่ปัญหาดังกล่าวนั้นส่งผลกระทบทั้งต่อเด็กและครอบครัว ทั้งในด้านจิตใจและความสัมพันธ์ระหว่างเด็กและผู้ปกครอง ฉะนั้นเด็กที่มีปัญหานี้จึงจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือ โดยวิธีการรักษาประกอบด้วย
1.การให้ความรู้แก่ผู้ปกครอง ว่าปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องของพัฒนาการในการควบคุมการขับถ่าย โดยจะค่อยๆ ดีขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น เด็กไม่ได้แกล้งทำหรือจงใจทำ ฉะนั้นจึงไม่ควรลงโทษ หรือตำหนิ หรือล้อเลียน แต่ควรแสดงความเข้าใจและเป็นกำลังใจ สนับสนุนในการรักษาของเด็ก
2.การปรับพฤติกรรมโดยใช้แรงจูงใจทางบวก คือ มีการทำข้อตกลงเกี่ยวกับสิ่งที่เด็กจะได้รับเมื่อไม่ปัสสาวะรดที่นอน รวมทั้งสิ่งที่เด็กจะต้องปฏิบัติถ้าปัสสาวะรดที่นอน โดยให้สอดคล้องกับความสามารถของเด็ก เช่น เด็กจะได้ Sticker ติดในปฏิทินเพื่อสะสมแลกรางวัลในวันที่ไม่ได้ปัสสาวะรดที่นอน แต่ถ้าปัสสาวะรดที่นอนก็ต้องเก็บผ้าปูที่นอนแล้วเปลี่ยนเอง
3.การใช้เครื่องปลุกเตือนปัสสาวะรด ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผลที่สุดในปัจจุบัน คือ จะติดเครื่องมือซึ่งเป็นเครื่องที่มีขั้วไฟฟ้าติดไว้กับกางเกงในของเด็ก เมื่อปัสสาวะมาถูกขั้วไฟฟ้าจะทำให้มีสัญญาณดังขึ้น ปลุกเด็กตื่น การรักษาให้ได้ผลนั้นจะต้องใช้เครื่องมือนี้เป็นประจำสม่ำเสมอติดต่อกันเป็นเวลา 35 เดือน และหยุดใช้ได้เมื่อเด็กสามารถควบคุมไม่ให้ปัสสาวะรดได้ประมาณ 1เดือน ในประเทศไทยเครื่องมือดังกล่าวยังใช้ไม่แพร่หลาย อีกทั้งมีราคาค่อนข้างสูง
4.การฝึกกระเพาะปัสสาวะ คือ ให้เด็กดื่มน้ำมากๆ ในช่วงกลางวัน และเมื่อรู้สึกปวดปัสสาวะให้เด็กฝึกกลั้นไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
5.ปรับอาหารและเครื่องดื่ม โดยปรับให้เด็กดื่มน้ำมากขึ้นในช่วงเช้าถึงบ่าย และลดการดื่มน้ำในช่วงเย็น โดยเฉพาะช่วง 2 ชม. ก่อนเข้านอนควรมีการจำกัดปริมาณน้ำ และควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกาเฟอีน แอลกอฮอล์
6.การรักษาท้องผูก
7.การใช้ยา ซึ่งจะเลือกใช้วิธีนี้ในกรณีที่เด็กไม่ได้อยู่บ้าน ต้องไปอยู่ร่วมกับบุคคลอื่น เช่น เด็กไปเข้าค่าย เป็นต้น ยาที่ใช้ในการรักษาภาวะปัสสาวะรดที่นอนนั้นมี 2รูปแบบ คือ ยากินแบบเม็ด และยาพ่นจมูก ซึ่งการเลือกใช้นั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์


