ไทยจัดเอฟวัน...คุ้มค่าหรือสูญเปล่า?
เป็นข่าวฮือฮาเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เมื่อประเทศไทยเสนอชื่อขอจัดเอฟวัน (F1) ปี 2014 หรืออีก 2 ปีข้างหน้า
เป็นข่าวฮือฮาเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เมื่อประเทศไทยเสนอชื่อขอจัดเอฟวัน (F1) ปี 2014 หรืออีก 2 ปีข้างหน้า ต่อสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (เอฟไอเอ) และกำลังอยู่ในขั้นตอนรอสรุปเรื่องร่างสัญญา หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า “Business Agreement” คาดว่าโอกาสที่ไทยจะได้เป็น 1 ใน 20 สนามแข่งเอฟวัน จะอยู่ที่ 90 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากว่าเอฟไอเอให้เหตุผล 2 ข้อที่ไทยได้เปรียบชาติอื่น
1.ไทยเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลก 2.ประวัติศาสตร์น่าสนใจ
ซึ่งมองดูผิวเผินก็น่าจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีหากแดนสยามได้รับสิทธินั้น เพราะนอกจากจะกระตุ้นการท่องเที่ยว ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น และทำให้มีเงินหมุนเวียนหลายร้อยล้านบาทในช่วงดังกล่าว
ทว่า เมกะสปอร์ต โปรเจกต์นี้มีค่าใช้จ่ายราว 5,000 ล้านบาท เบื้องต้นจะมีค่าใช้จ่าย 2 ส่วน คือ 1.ค่าลิขสิทธิ์การแข่งขัน ถือว่าสูงพอสมควร 1,200 ล้านบาท
2.ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างสนาม 2,5003,000 ล้านบาท รวมถึงค่าที่ดินที่จะต้องแพงขึ้น เพราะจะมีคนไปซื้อที่ดินย่านนั้นเพื่อเก็งกำไร, ค่าออกแบบ ซึ่งต้องใช้นักออกแบบมืออาชีพที่มีประสบการณ์ในการออกแบบสนาม F1 และค่าดำเนินการอื่นๆ จิปาถะ
หลายฝ่ายกังวลว่ามันจะคุ้มค่าต่อการลงทุนหรือไม่?
ล่าสุด “บิ๊กหนุ่ม” กนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย บินไปจับมือ เบอร์นี เอ็คเคิลสโตน ประธานจัดเอฟวัน เพื่อยืนยันเจตนารมณ์ให้เห็นว่าไทยเอาจริง
โดยการไปครั้งนี้ได้ยืนยันไปแล้วว่าไทยจะขอเป็นเจ้าภาพจัดในปี 2014 และจะจัดด้วยรูปแบบไนต์เรซ หรือแข่งในช่วงเวลากลางคืน เพื่อให้ช่วงเวลาการแข่งขันสามารถถ่ายทอดสดไปยังทุกภูมิภาคของโลก สามารถรับชมภาพจากประเทศไทย ส่วนสนามแข่งขันยังไม่ลงตัวว่าจะแข่งแบบกลางเมืองดัดแปลงเหมือนประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย ซึ่งฝ่ายพิจารณาของฟอร์มูลาวัน แนะนำให้ทำการสร้างสนามแข่งรถแห่งใหม่จะดีกว่า เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการ
ซึ่งหากสร้างสนามใหม่ สนามแข่งฟอร์มูลาวันควรกระจายไปยังต่างจังหวัด เช่น เชียงใหม่, ขอนแก่น, หาดใหญ่ และชลบุรี เพื่อเป็นการกระจายรายได้ตามนโยบายของรัฐบาล
“การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพเอฟวัน ซึ่งจะจัดในช่วงปี 2014 หรือในอีก 2 ปีข้างหน้า เอฟไอเอเสนอแนะเรื่องของช่วงเวลาว่าน่าจะเป็นช่วงต้นเดือน พ.ย. น่าจะเหมาะสม และเรื่องของสนามแข่งขันเราเสนอจะสร้างสนามขึ้นใหม่ ซึ่งทางเอฟวันเห็นพ้องด้วย นอกจากนี้ได้แนะนำบริษัทสำหรับออกแบบสนามแข่งขันให้ได้ตามมาตรฐานของเอฟไอเอ ซึ่งซีอีโอเอฟวันกล่าวในตอนท้ายว่า อยากจะให้เอฟวันจัดการแข่งขันในเมืองไทยมาก” ผู้ว่าการ กกท. กล่าว
ขณะที่ สนธยา คุณปลื้ม ประธานคณะกรรมการกีฬายานยนต์ ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย (ร.ย.ส.ท.) ขานรับนโยบายกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ไฟเขียวเดินหน้าให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟอร์มูลาวัน พร้อมชี้ว่า จ.ชลบุรี เป็นพื้นที่ที่พร้อมที่สุดในการสร้างสนามแข่ง
“แน่นอนว่ามันคือแนวคิดที่ดีสำหรับคนรักกีฬายานยนต์ จ.ชลบุรี ก็มองว่าพื้นที่ในย่านนั้นน่าจะเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่เหมาะสมที่สุดในการใช้เป็นที่ตั้งของสนาม เพราะอยู่ใกล้ทั้งสนามบิน, ท่าเรือ และศูนย์กลางการขนส่งทั้งหมด” ผมมองว่าอยู่ที่รัฐบาลด้วยว่าจะจริงจังกับงานนี้แค่ไหน เพราะลำพังแต่ภาคเอกชนร่วมมือกันเองคงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก หากว่ารัฐบาลลงมาให้การสนับสนุนน่าจะทำให้เรื่องดังกล่าวเป็นจริงเร็วขึ้น” สนธยา กล่าว
โปรเจกต์นี้ถ้าผ่านรับรองเมืองไทยดังแน่ เพราะไทยแลนด์จะเป็น 1 ใน 20 สนามของโลกที่ได้รับเกียรติจัดการแข่งขันเอฟวัน และเป็น 9 สนามของทวีปเอเชีย ถือว่าเท่...ไม่หยอก
ลองไปดูกันว่า 8 สนามของเอฟวันในเอเชียอยู่ที่ไหนกันบ้าง และงบประมาณการก่อสร้างเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่
เริ่มจากสนาม 1 เซี่ยงไฮ้ อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต (จีน) เริ่มใช้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟอร์มูลาวันครั้งแรกเมื่อปี 2004 ลงทุนสร้างด้วยงบประมาณกว่า 450 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 13,500 ล้านบาท) ใช้เป็นสนามแข่งขันต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2004 จนถึงฤดูกาลปัจจุบัน
สนามที่ 2 เซปัง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต (มาเลเซีย) ถูกออกแบบโดยนักออกแบบสนามแข่งชาวเยอรมัน เป็นสนามแข่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยว และประชาชนชาวมาเลเซีย นอกจากจะใช้แข่งขันรายการสำคัญอย่างฟอร์มูลาวันแล้ว ยังใช้แข่งขันด้านความเร็วต่างๆ ที่สำคัญอีกด้วย
สนามที่ 3 บาห์เรน อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต (บาห์เรน) เริ่มใช้จัดการแข่งขันตั้งแต่ปี 2004 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่การแข่งขันฟอร์มูลาวันถูกจัดขึ้นที่ตะวันออกกลาง สนามออกแบบโดยสถาปนิกชาวเยอรมัน สร้างขึ้นด้วยงบประมาณกว่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 4,500 ล้านบาท) ท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ เป็นเสน่ห์สำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยว
สนามที่ 4 มารีนา เบย์ สตรีต เซอร์กิต (สิงคโปร์) เป็นสนามที่ถูกสร้างขึ้นบริเวณท่าเรือรูปแบบคล้ายคลึงกับที่โมนาโก ถือเป็นสนามที่มีความสวยงามและจัดการแข่งขันขึ้นในเวลากลางคืน ที่ทำให้เกาะเล็กๆ แห่งนี้คึกคักยิ่งขึ้น
สนามที่ 5 ซูซูกะ เซอร์กิต (ญี่ปุ่น) เป็นอีกหนึ่งสนามที่มีความเก่าแก่สำหรับการแข่งขันฟอร์มูลาวัน เป็นสนามที่แชมป์โลกฟอร์มูลาวันจำนวนมากเคยฝากฝีมือและความทรงจำเอาไว้ นับเป็นอีกหนึ่งความภูมิใจของวงการกีฬาประเทศญี่ปุ่นที่ก้าวไกลไปในระดับโลก
สนามที่ 6 โคเรีย อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต (เกาหลีใต้) ลงทุนสร้างด้วยงบประมาณกว่า 264 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 7,920 ล้านบาท) โดยนักออกแบบมากฝีมือชาวเยอรมัน ตั้งอยู่บริเวณใกล้ท่าเรือ เป็นที่สะดุดตาทั้งคนที่ล่องเรือผ่านไปมา และนักท่องเที่ยวที่พักอยู่โรงแรมใกล้เคียง
สนามที่ 7 บุด อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต (อินเดีย) เริ่มเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟอร์มูลาวันครั้งแรกเมื่อปี 2011 มีความจุผู้เข้าชมได้มากถึง 1.1 แสนคน และอาจเพิ่มขึ้นเป็น 2 แสนคนภายหลัง ถือเป็นสนามน้องใหม่ของเอเชีย ที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจและจับตามอง
สนามที่ 8 ยาส มารีนา เซอร์กิต (ยูเออี) ตั้งอยู่บนเกาะยาส เมืองอาบูดาบี ด้วยงบประมาณการสร้างมหาศาลถึง 1,322 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 39,660 ล้านบาท) เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2009 ถือเป็นสนามที่ลงทุนสร้างด้วยจำนวนเงินมากที่สุดในเอเชีย
ยังเหลืออีกหลายขั้นตอนที่ประเทศไทยจะต้องลงมือทำอย่างสุดตัว หากต้องการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟอร์มูลาวันขึ้นจริง
มาตามลุ้นและให้กำลังใจกันต่อไปว่า ความฝันของเหล่าผู้ชอบการแข่งขันรถยนต์ประลองความเร็วในประเทศไทยจะเป็นจริงหรือไม่และมันจะคุ้มค่ากับการลงทุนหรือเปล่า???


