ผู้สร้างสรรค์สไตล์ ‘สธน ตันตราภรณ์’
ช่างเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นและน่าชื่นชมไปพร้อมกัน เมื่อการพัฒนาภาพลักษณ์เริ่มต้นขึ้นจริงจังในบ้านเราผ่านหนุ่มคนนี้ “สธน ตันตราภรณ์”
โดย...ณัฐพล ช่วงประยูร
ช่างเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นและน่าชื่นชมไปพร้อมกัน เมื่อการพัฒนาภาพลักษณ์เริ่มต้นขึ้นจริงจังในบ้านเราผ่านหนุ่มคนนี้ “สธน ตันตราภรณ์”
ก่อนที่เขาจะบินข้ามฟ้าศึกษาเรื่อง “การพัฒนาภาพลักษณ์” (Image Consulting) ที่ประเทศอังกฤษ เขาคร่ำหวอดอยู่ในแวดวงที่ได้ชื่อว่าเป็นที่สุดแห่งความหรูหรา ทั้งในฐานะนักการตลาดและการประชาสัมพันธ์ของแบรนด์สากล อย่างบูลการี กานาลิ โชพาร์ด เอ็มโปริโอ อาร์มานี แฟรงก์ มูลเลอร์ จอร์โจ อาร์มานี ออฟฟิชิเน พรรณราย ปาเต็ก ฟิลิปป์ ทอดส์ ฯลฯ
นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในฐานะผู้บริหารฝ่ายต่างประเทศ ดูแลการนำเข้าละครเวทีจากต่างประเทศให้กับบริษัท ซีเนริโอ และโรงละครเมืองไทยรัชดาลัยเธียเตอร์ ตลอดจนเป็นคอลัมนิสต์ให้กับนิตยสาร อย่างฮาร์เพอร์ส บาซาร์ บาซาร์ เมน ลิปส์ ดิฉัน อีกทั้งยังเป็นผู้แปลหนังสือพ็อกเกตบุ๊กระดับเบสต์เซลเลอร์ อย่าง Nina Garcia's Look Book : What to Wear for Every Occasion ในภาคภาษาไทย
ที่กล่าวมานั้นล้วนสอดคล้องกับตัวตนของสธน ซึ่งให้โอกาสตัวเองได้ไปอยู่ในแวดวงซึ่งรักและศรัทธา เพราะส่วนผสมอันหลากหลายและกลมกล่อมระหว่างรสนิยมมีระดับ กับความเข้าใจในความเป็นมนุษย์และสังคมโลก จนตัดสินใจตบเท้าเข้าสู่ศาสตร์การพัฒนาภาพลักษณ์ที่สถาบันชั้นนำของประเทศอังกฤษ และสั่งสมประสบการณ์ในการให้คำปรึกษาด้านภาพลักษณ์ทั้งระดับบุคคลและองค์กรต่างๆ จนค้นพบว่าอาชีพของเขาเป็นมากกว่าคำจำกัดความของตัวมันเอง เขาเป็นมากกว่าแฟชั่นสไตลิสต์ เพอร์ซันนอล ช็อปเปอร์ บิวตี เมกโอเวอร์ แต่ทั้งหมดนั้นรวมอยู่ใต้ร่มคันใหญ่ที่รับผิดชอบ และนับเป็นที่ปรึกษาด้านการพัฒนาภาพลักษณ์เพียงไม่กี่คนในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองจากองค์กรด้านนี้โดยตรง
“ไม่ใช่การทำให้คุณเป็นคนใหม่ คุณต้องเป็นคนเดิม เพราะตัวตนของแต่ละคนเป็นสิ่งมหัศจรรย์ด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว เพียงแต่ผมจะทำให้คุณเป็นคนที่ ‘น่าสนใจ’ ยิ่งขึ้นกว่าเดิม ...เพราะภาพลักษณ์คือทุกสิ่ง
อันที่จริงแล้วศาสตร์การให้คำปรึกษาด้านภาพลักษณ์ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับโลกตะวันตกครับ แต่นับว่าใหม่มากสำหรับประเทศไทย เพราะผู้คนยังเข้าใจว่าการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีเป็นเรื่องเฉพาะของบุคคลสำคัญเท่านั้น ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป ทั้งที่ในความจริงแล้ว มนุษย์ทุกคนใช้สายตาสัมผัสและสร้างความประทับใจแรกสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง นอกจากนั้นยังมีเรื่องพฤติกรรมท่วงท่า มารยาท บุคลิกการเคลื่อนไหว รวมถึงการพูดจาสื่อสาร และภาษากาย
ตรงนี้เป็นความรู้แบบบูรณาการ ประกอบด้วยวิทยาศาสตร์ การเก็บสถิติ และศิลปะ ซึ่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนาภาพลักษณ์ที่ดีต้องอาศัยทั้งการศึกษาอย่างลงลึกในรายละเอียด ประสบการณ์และคอมมอนเซนส์ และนั่นคืองานที่ผมเลือกทำในวันนี้ ในชื่อ เดอะ ดรีม กีฟเวอร์ (The Dream Giver)”
สำหรับสธนแล้ว ภาพลักษณ์บุคคล องค์กร หรือสถาบัน ก็คือสไตล์ที่น่าประทับใจ และกำชัยในการงาน ธุรกิจ หรือความสัมพันธ์ อันเป็นเป้าหมายของแต่ละบุคคล “ทุกคนมีวิถีก้าวเดินไม่เหมือนกัน แต่ในวิถีของทุกคนมีทางเลือก คุณคิดว่าชีวิตของคุณสบายดีอยู่แล้ว คุณเลือกที่จะอยู่ที่เดิมกับอีกคนเลือกเปิดประตูบานใหม่ เพราะคิดว่า ชีวิตน่าจะดีกว่านี้ได้ และการที่ชีวิตจะดีขึ้น ไม่ว่าจะในด้านใดก็ตามเริ่มต้นที่ตัวเองก่อน เมื่อคุณมีความเชื่อเช่นนี้ คุณเลือกประตูบานนี้ เราจึงได้มาพบกัน
เพราะฉะนั้นงานผมไม่ใช่แค่ภาพลักษณ์ ผมจึงไม่ใช่คำว่า Image Maker แต่ผมขอเลือกใช้คำว่า The Dream Giver...เพราะคนทุกคนมีความฝัน ลองแวะชมกันได้ที่ www.thedreamgiver.com ครับ”
ในวันพักผ่อนเขาอ่านหนังสือแต่ไหนแต่ไรมา ดูหนัง ดูละครเวที ฯลฯ เป็นนักสังเกตการณ์โลกศิลปะอยู่เป็นปกติ แถมยังอัพเดตความเป็นไปของแวดวง และความเคลื่อนไหวของสังคม แฟชั่น และธุรกิจอยู่เสมอ และวันนี้ใจของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยการหยิบยื่นเครื่องมือแห่งความสำเร็จที่ร้อนกรุ่น
หลากชิ้นของ ‘สธน’
สายวัด “Style Analysis” หรือ “การวิเคราะห์ สไตล์” ก็ยังมีอีก มันเน้นการศึกษาโครงสร้างร่างกายอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ เพื่อหาสัดส่วนที่แท้จริงของแต่ละบุคคล ก่อนจะนำไปเป็นข้อมูลต่อยอดเพื่อสร้างโครงสร้างและลักษณะการแต่งกายที่สมดุล
ชุดผ้าต่างๆ “ทำไมประธานาธิบดี บารัก โอบามา เลือกใส่เนกไทสีแดงเสมอเมื่อปราศัยใหญ่ต่อหน้าสาธารณชน แต่ถ้าเป็นวันสบายๆ ที่เขาต้องสนทนากับผู้คนอย่างใกล้ชิด ทำไมกลับกลายเป็นสีฟ้า ‘สี’ สื่อสารความหมายอย่างลึกซึ้งเสมอ
เทคนิค ‘Color Draping’ หรือ ‘การห่มทาบผืนผ้า’ จึงเป็นอีกหนึ่งความรู้ความเข้าใจพื้นฐานที่ผมต้องศึกษาอย่างถ่องแท้ จนบอกใครได้ว่า “ทุกคนใส่สีได้ทุกสี แต่ไม่ใช่ทุกเฉด อันนี้ได้มาจากตอนเรียน ทุกคนที่จบมาจะได้กลับมาคนละชุด และต้องเป็นอันนี้เลยนะ”


