มารู้จัก LD กันเถอะ
เด็กชายติ๊งหน่อง อายุ 9 ปี คุณแม่พามาหาคุณหมอ เพราะคุณครูบอกว่าติ๊งหน่องเรียนหนังสือไม่ได้
โดย...ลักขณา ทาศรี
เด็กชายติ๊งหน่อง อายุ 9 ปี คุณแม่พามาหาคุณหมอ เพราะคุณครูบอกว่าติ๊งหน่องเรียนหนังสือไม่ได้ ไม่ทันเพื่อน และไม่อยากจะเข้าเรียน ทั้งที่พูดคุยก็ฉลาดดี ครูจึงแนะนำให้ผู้ปกครองพามาพบคุณหมอ พอซักประวัติพบว่าติ๊งหน่องอ่านหนังสือได้ เวลาให้อ่านต้องใช้เวลาและมีความยากลำบากในการอ่านมาตั้งแต่อยู่ประถม 1 แต่น่าประหลาดใจว่าติ๊งหน่องสามารถทำคิดเลขได้ดี
บางครั้งคุณแม่เอาเลขของประถม 4 มาให้ทำ ติ๊งหน่องก็สามารถทำได้ คุณหมอพบว่าติ๊งหน่องเป็นเด็กน่ารัก คุยเก่ง มีความรู้รอบตัวดี แต่เมื่อให้ลองอ่านหนังสือภาษาไทยระดับประถม 3 ติ๊งหน่องอ่านตะกุกตะกักและอ่านข้ามคำยาก มีหงุดหงิดและพูดว่า “ผมไม่อยากอ่านแล้ว” ผลการตรวจประเมินจากนักจิตวิทยาพบว่า ติ๊งหน่องมีระดับสติปัญญาสูงกว่าปกติ มีปัญหาเรื่องอารมณ์
เนื่องจากเรียนด้วยความยากลำบากและรู้สึกว่าตัวเองทำไม่ได้ ตัวเองโง่...ความบกพร่องของเด็กออทิสติก เราสามารถมองเห็นทางพฤติกรรม และเด็กที่อวัยวะพิการเราก็สามารถมองเห็นได้ง่ายและชัดเจน ส่วนเด็กแอลดีนั้น ถ้าไม่สังเกตแทบจะไม่มีใครรู้เลยว่าเขามีปัญหาและความผิดปกติบางอย่างในเรื่องการเรียนรู้ บางเรื่องที่หลายคนคิดว่าง่าย แต่เด็กแอลดีกลับไม่เข้าใจ กรณีของติ๊งหน่องถ้าไม่สังเกตจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเป็นโรคแอลดี เพราะดูภายนอกก็คือเด็กปกติเหมือนเด็กคนอื่นๆ ทั่วไป แต่ที่จริงแล้วเขาน่าสงสารกว่า
ภาวะบกพร่องด้านการเรียนรู้ หรือ (Learning Disorders : LD) หมายถึง กลุ่มโรคที่เกิดจากความผิดปกติในการทำงานของสมองที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ ทำให้มีปัญหาในการอ่าน สะกดคำ การเขียน หรือการคิดคำนวณ ทำไม่ได้หรือความสามารถต่ำกว่าเด็กคนอื่นที่มีระดับเชาวน์ปัญญาเท่ากันอย่างน้อย 2 ชั้นเรียน ทั้งที่เด็กฉลาดเท่ากับเด็กคนอื่น แต่เรียนรู้ในระบบการศึกษาแบบปกติได้อย่างยากลำบาก
กลุ่มโรคนี้ไม่ได้เกิดจากอวัยวะพิการ ภาวะปัญญาอ่อน ปัญหาทางอารมณ์ หรือการขาดโอกาสในการเรียนรู้ ไม่ได้เกิดจากการถูกละทิ้ง ไม่ฝึกสอน หรือการเจ็บป่วยรุนแรง และไม่ได้เป็นชาวต่างชาติหรือต่างวัฒนธรรม
ยังไงถึงจะรู้ได้ว่าลูกเป็นโรค LD
1.มีความบกพร่องด้านการอ่านและการสะกดคำ เช่น อ่านไม่ได้ อ่านไม่คล่อง อ่านช้า อ่านข้ามคำยาก ฯลฯ
2.มีความบกพร่องด้านการเขียน เช่น เขียนพยัญชนะผิด สะกดผิดแม้คำง่ายๆ เขียนตัวหนังสือกลับด้าน หรือเขียนพยัญชนะสลับด้าน เช่น ภถ, นม เป็นต้น
3.มีความบกพร่องด้านการคิดคำนวณ เช่น สับสนเรื่องตัวเลข ค่าของตัวเลข เครื่องหมายบวก ลบ เป็นต้น
บางคนอาจเสียหายด้านเดียว บางคนเสียหาย 2 ด้าน และบางคนเสียหายทั้ง 3 ด้าน การที่เด็กมีความบกพร่องด้านใดด้านหนึ่ง จะทำให้เด็กขาดความมั่นใจและไม่สนใจ ถ้าคุณครูมองเผินๆ จะดูคล้ายเด็กไม่มีสมาธิ หรืออาจมองว่าเด็กขี้เกียจ
พ่อแม่จะทำการช่วยเหลือลูกที่เป็นโรค LD ได้อย่างไร
ก่อนที่จะช่วยเหลือลูกที่เป็นโรค LD ผู้ปกครองต้องยอมรับและทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรค LD ที่เด็กเป็น เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผู้ปกครองจะยอมรับว่าลูกตัวเองมีปัญหาหรือมีความพิการ ถึงแม้จะมองไม่เห็นความพิการภายนอกที่ชัดเจนก็ตาม แต่เมื่อผู้ปกครองได้เข้าใจถึงโรคและยอมรับแล้ว จะเป็นการช่วยเหลือเด็กได้มากเช่นกัน
เพราะต้องอาศัยทั้งการฝึกสอนทบทวนบทเรียนให้แก่ลูก ส่งเสริมความสามารถพิเศษด้านอื่นนอกจากการเรียน แล้วยังต้องอยู่เคียงข้างให้กำลังใจลูก ไม่ตำหนิหรือดุว่าเวลาทำการบ้านไม่ได้ เรื่องนี้สำคัญ เพราะถ้าได้รับกำลังใจแล้ว จะทำให้เด็กลดความกังวลและไม่รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า แต่ยังมีครอบครัวคนที่รัก แม้ว่าเขาจะมีปัญหาและความยากลำบากในการเรียนหนังสือก็ตาม.
&<2288;
&<2288;
&<2288;
&<2288;
&<2288;
&<2288;


